ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

รบกวนสอบถามหน่อยครับ
  • เนื้อความว่า นาย ก. นาย ข. นาย ค. มีที่ไร่ติดกันและเป็นญาติกัน... นาย ก. ได้นำกล้าไม้สักทอง จำนวน 20 ต้น โดยมอบให้ นาย ค. เป็นคนปลูก ในแนวรั้วของทั้ง 3 คน ภายหลังนาย ก. ได้ขายที่ไร่ดังกล่าวให้นาย ข. (โดยถือกรรมสิทธิ์ นส.3ก) ต้นสักต้นที่ 1-13 อยู่ในไร่ของนาย ข. ต้นที่ 14-20 อยู่ในแนวรั้วระหว่าง นาย ข. และนาย ค. หลังจากนั้น 20 ปี ผ่านไป นาย ค. ได้บอกกล่าว นาย ข. ว่าจะทำการขอตัดไม้สักทองอ้างว่าตนเป็นคนปลูก โดยที่นาย ข. เข้าใจว่าจะตัดไม้สักทองในแนวรั้วของนาย ข. และ นาย ค. (ต้นที่ 14-20) แต่นาย ค. ได้ทำการตัดไม้สักทอง จำนวน 5 ต้น ในที่ไร่ของนาย ข. แทน (ต้นที่ 1-13) ซึ่งคงเหลือไว้เฉพาะต้นที่เป็นโพรงและปลวกกัดกินแกนลำต้น (8 ต้น)
    หมายเหตุ ** พระครูที่วัดป่าได้ขอบิณฑบาตรไม้สักทองเพื่อทำฝ้าเพดานหอฉันท์ นาย ข. ได้บริจาค จำนวน 1 ต้น และถามนาย ค. จะบริจาคด้วยไหม นาย ค. ได้บอกกล่าวแก่นาย ข. ว่าของตนไม่มีไม้สักทองแล้ว เพราะนาย ค. กล่าววาจาว่าไม้สักที่เหลือเป็นของนาย ข. และภายหลังนาย ข. ได้สอบถามนาย ค. ว่าไม้สักทองที่เหลือทั้งหมดเป็นของนาย ข. ใช่หรือไม่ นาย ค. กลับตอบว่า ไม่ใช่ นาย ข. เหลือแค่ต้นที่เป็นโพรงและปลวกกัดแทะจำนวน 2 ต้นเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นของนาย ค. ทั้งสิ้น เคสแบบนี้ใครผิดถูกอย่างไร และอ้างอิงตามกฏหมายข้อใด
    ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและตอบกระทู้ครับ :)
  • อ่านแล้วปวดหัวจริงๆ ครับ สรุปมันอยู่ในเขตที่ใคร ตามกฏหมายคนนั้นก็น่าจะเจ้าของแหละ (ผมว่านะ) แต่ถ้าอยู่กึ่งกลางเส้นแบ่งกันไม่ได้ ก็ขึ้นศาลสู่กันตามกฏหมายมั้ง แต่ไม่รู้จะคุ้มหรือเปล่า เรื่องมอบใครยังไงนานมาแล้ว ผมว่ามันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับใจล้วน เรื่องแบบนี้มันต้องแก้ปัญหาโดยการเจรจา ดีที่สุด 555 :o034:
  • อย่างที่ผมได้แนะนำไปแล้วแหละครับ ว่าต้นไม้ก็เป็นส่วนควบของที่ดิน ต้นที่1-13 อยู่ในที่ดินนาย ข. ก็เป็นทรัพย์สินของนาย ข. แม้นาย ค. จะเป็นคนปลูก การที่นาย ค. เข้าไปตัดต้นไม้และเอาไปซึ่งไม้นั้นโดยทุจริต ก็ถือเป็นการลักทรัพย์ (เคยมีฎีกา ว่า ช่างนำประตูไปติดตั้งให้กับบ้านแล้วเจ้าของบ้านไม่จ่ายเงิน ช่างเลยไปรื้อถอนเอาประตูกลับคืน ศาลวินิจฉัยว่าประตูเมื่อติดกับบ้านแล้วก็เป็นส่วนควบของบ้านถือเป็นทรัพย์ของดจ้าของบ้าน ช่างจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์) ส่วนต้นที่บอกว่าอยู่แนวเขต ก็ต้องให้ที่ดินมารังวัดว่าอยู่ในเขตที่ดินของใคร
  • อย่างที่คุณthe door พูดแหละครับ เจรจาคือทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ถ้าเจรจาไม่ได้ ถ้าไม่หนักหนานักปล่อยให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรมเถอะครับ การเป็นความกันแต่ละที ต้องเสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา เสียมิตรภาพ มันได้ไม่คุ้มเสียครับ (ผมอาจเป็นทนายคนเดียวนะที่ไม่ชอบแนะนำให้ใครเป็นความกัน) ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมสอบถามผมได้เสมอครับพี่เล็ก ยินดีรับใช้ครับ
  • ขอบคุณสำหรับคำตอบ k. the door ทนายต้น ตามนั้นละครับปล่อยไปตามบ่วงกรรม มโนธรรม ศีลธรรม สัตตยา ผมไม่คิดจะฟ้องนะครับแค่ขอความรู้ไว้สำหรับปรามๆ ไว้บ้างคนบางคนมักได้คืบจะเอาศอก:-))