ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

มือใหม่อ่านซะ! ถ้าไม่อยากได้หมาเลว
  • หลายคนเลี้ยงพิตบูลให้เป็นหมู นอกจากนานๆ ทีเอามาถ่ายรูปอวดชาวบ้านแล้ว วันๆ ก็ปล่อยให้พวกมันได้แต่นั่งๆ นอนๆ แบบรอวันตาย ไม่เคยสนใจพวกมันเลย ว่าต้องการอะไร ควรจะทำอะไรดี จนวันนึงเมื่อหมาหมดความอดทน พวกมันก็เริ่มสร้างปัญหาในบ้าน เริ่มขู่ เริ่มท้าทายคนในบ้านที่มันไม่เคยเห็นเป็นนาย ดีไม่ดีอาจจะทุกคนในบ้านด้วยซ้ำ และท้ายที่สุดพวกมันก็ถูกตัดสินความผิด โดยคนว่าควรจะหาบ้านใหม่ ควรเอาไปปล่อย หรือบางคนถึงขนาดว่าพวกมันสมควรตาย บลาๆๆๆๆๆๆ

    แต่คนเองไม่เคยส่องกระจกมองตนเลย ว่าหมามันเป็นแบบนี้เพราะใคร ใช่คนที่เอามันมาเลี้ยงหรือเปล่า บ้างก็ตีความแบบเข้าข้างตัวเองว่า หมาที่จะกัดตัวเอง จะกัดคนในบ้าน คือหมาที่ควรถูกทำให้ตาย เพราะมันเนรคุณ จิตประสาทไม่ดีจะกัดเจ้าของ เพราะเจ้านายแปลว่า "คนที่ซื้อมันมา คนที่ให้ข้าวมันกิน คนที่พามันไปฉีดวัคซีน คนที่พามันไปตัดหู" ถึงแม้นอกจากนี้จะไม่เคยทำอะไรที่บอกว่าเป็นนายมันเลย

    ตามที่มีผู้รู้เคยแนะนำว่า หมาที่เลี้ยงแล้วจะกัดเจ้าของคือหมาเลว จิตประสาทไม่ดี เลี้ยงไม่เชื่อง ไม่ควรจะเก็บไว้ ต้องฆ่าสถานเดียว ทั้งที่จริงๆ เขาหมายถึงคนที่เลี้ยงด้วยความเอาใจใส่ ดูแล ฝึกฝน สารพัด แต่หมามันไม่ปกติ และอันตรายจริงๆ ไม่ใช่หมาที่เจ้าของแม่งเลี้ยงแบบ ตามมีตามเกิด ไม่เคยรู้จักฝึก ไม่เคยสอน ไม่เคยควบคุม อะไรจริง พอกำจัดหมาตัวเก่าไปได้ สุดท้ายแม่งก็หาหมาตัวใหม่มาเลี้ยง และมีจุดจบเช่นเดิม นั่นก็เพราะ "ปัญหามันอยู่ที่คน" ไม่ใช่อยู่ที่หมา

    วันนี้ผมขอเอาบทความมาฝากให้มือใหม่ ที่ไม่อยากต้องเดินตามรอยวงจรซ้ำๆ ซากๆ ที่เกิดในสังคมคนไทย ผู้เลี้ยงพิตบูลแบบตามมีตามเกิด จนนำไปสู่ปัญหามากมาย เอาล่ะถ้าใครไม่อยากให้หมาตัวเองเป็นหมาเลว ก็ลองสละเวลาอ่านดูเล่นๆ กันนะครับ

    ขอขอบคุณบทความดีๆ จากเว็บ http://www.dogilike.com/content/train/2953/

    image
    ไฟล์แนบ
    dog-meditation.jpg 49K
    dog.jpg 49K
  • การสร้างสมาธิให้น้องหมาโดยผู้เลี้ยง
    การจัดการกับพฤติกรรมสุดแสบของน้องหมาให้อยู่หมัดได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดการกับความรู้สึกไม่มั่นคงภายในจิตใจน้องหมาที่สะสม พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ ประสบการณ์และความทรงจำต่างๆ นานาที่กัดกร่อนความมั่นคงจิตใจให้หวาดกลัว วิตกกังวล ตื่นตระหนกของพวกเขา ซึ่งหนังสือ How to Meditate with Your Dog: An Introduction to Meditation for Dog Lovers ของ James Jacobson นักบำบัดเยียวยาจิตใจน้องหมาและผู้เลี้ยงได้เขียนไว้ ว่าสภาพจิตใจของน้องหมานั้นมีการเชื่อมโยงเข้ากับจิตใจและพลังงานของผู้เลี้ยง หากผู้เลี้ยงมีพลังงานที่ดีก็จะสร้างความรู้สึกที่มั่นคง สุขสงบให้แก่น้องหมาได้ เช่น เดียวกับการแสดงความเป็นผู้นำ หรือ เป็นจ่าฝูงของน้องหมาค่ะ (อ่านเพิ่มเติม จิตวิทยาง่ายๆ ในการฝึกตนเองให้เป็น "จ่าฝูง" ของสุนัข ค่ะ)

    ด้วยเหตุนี้เองผู้ที่จะช่วยให้น้องหมารู้สึกมั่นคง สงบผ่อนคลายจึงเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากผู้เลี้ยง James Jacobson จึงแนะนำการทำสมาธิให้แก่น้องหมา โดยการสร้างความสงบให้จิตใจทั้งของผู้เลี้ยงและของน้องหมาไปพร้อมๆ กัน และสร้างความผูกพันผ่านหัวใจของทั้งคู่ มีการร่วมแบ่งปันพลังงานที่ดีร่วมกัน ซึ่งน้องหมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กับปัจจุบัน ใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า รับรู้ สื่อสารด้วยพลังงาน ไม่ค่อยมีความคิดวอกแว่กถึงอดีต หรือ อนาคตอย่างคนเรา จึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากต่อการเข้าใจและเข้าถึงการทำสมาธิ เพียงแค่การพาเดินตอนเช้าเย็น การนั่งนิ่งๆอยู่ในสวนหน้าบ้านก็สามารถทำให้เกิดความมั่นคงทางอารณ์ขึ้นมาได้แล้วค่ะ

    แต่จะดีมากๆ ถ้าเราสามารถทำสมาธิไปพร้อมกับน้องหมา เพราะการทำสมาธิสามารถช่วยสร้างสมดุลทั้งกายใจ รู้สึกดี ผ่อนคลาย มั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับน้องหมาที่มีพฤติกรรมไฮเปอร์ ก้าวร้าว วิตกกังวล ซึ่งจะเทคนิควิธีการปฏิบัติคือ......

    image
    ไฟล์แนบ
    27208949.JPG 66K
    27208949.JPG 66K
  • 1. มีตารางการฝึกน้องหมาทำสมาธิอย่างชัดเจน
    วินัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการฝึกน้องหมา เนื่องจากการมีกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจนช่วยให้น้องหมามีความมั่นคงทางอารมณ์ รู้นาฬิกาชีวิตของตัวเอง กฏเกณฑ์ภายในบ้าน รู้จักรอ อดทน ไม่สร้างปัญหาวุ่นวาย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสร้างสมาธิให้แก่น้องหมาก็คือ เวลาเช้าและเย็น หลังออกกำลังกาย พาไปเดินเล่นจะดีมากๆ ค่ะ

    2. สร้างบรรยากาศการทำสมาธิ
    ควรหาห้องที่ค่อนข้างปิดมิดชิด เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว เพื่อให้น้องหมาอยู่ห่างไกลความวุ่นวายที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความตื่นตระหนก ว้าวุ่น ขัดขวางการมีสมาธิค่ะ เราสามารถสร้างบรรยากาศให้แก่ห้องโดยการ เปิดเพลงบรรเลงคลาสสิค จุดเทียนหอม หรือ น้ำหอมอโรม่า อย่างกลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อให้น้องหมาและตัวเรารู้สึกผ่อนคลายค่ะ (แนะนำว่าไม่ควรนำมือถือเข้าไปด้วยนะคะ เพราะเสียงริงโทนต่างๆ ที่ดังขึ้นจะทำให้น้องหมาเสียสมาธิได้ ตื่นตัวตลอดเวลา นอกจากนี้ เราก็จะได้มีเวลาอยู่กับเขาอย่างแท้จริงค่ะ)
  • 3. ปล่อยความคาดหวังใดๆ
    หลายคนเมื่อลองทำดูก็มักจะคาดหวังว่าจะได้ผลทันที น้องหมานั่งนิ่งราวกับถูกสะกดจิต แต่ในความจริงแล้วน้องหมาอาจจะเดินไปเดินมา ไม่ยอมนั่งนิ่งๆ ซึ่งอาจจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจ พาลดุน้องหมา นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แย่ลง แล้วเกิดความรู้สึกหวาดกลัวที่จะเข้าไปในห้องทำสมาธิในครั้งต่อๆ ไปเพราะได้รับประสบการณ์ที่ได้ดี แนะนำว่า ให้ปล่อยน้องหมาได้หาพื้นที่ของตัวเองคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ แล้วค่อยไปนั่งอยู่ใกล้ๆ เขา สักพักเขาก็จะชินกับการได้เข้ามาในห้องอยู่เงียบๆ สบายๆ กับเจ้าของค่ะ

    4. เชื่อมโยงความรู้สึกกับน้องหมา
    เมื่อเรานั่งลง น้องหมาจะนั่งอยู่ข้างๆ เรา หรือบนตัก ขึ้นอยู่กับความต้องการของเขา ให้เพื่อนๆ ปล่อยเขาเลือกตามความพึงพอใจ ไม่บังคับ จากนั้นให้วางมือบริเวณหน้าอก หรือช่วงหัวไหล่ หายใจเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะเดียวกับน้องหมา ไม่ควรชวนเขาคุย หรือเรียกร้องความสนใจให้เขามอง หรือสนใจเรานะคะ หรือถ้าต้องการจะพูดก็ให้พูดเพียงคำสั้นๆ ให้ความรู้สึกในทางบวกเช่น “เด็กดี” “เก่งมาก” “น่ารักมาก” ด้วยเสียงที่ราบเรียบ มั่นคง ซึ่งความสงบที่น้องหมาได้รับจากเราจะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย มีความมั่นใจ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของเราและน้องหมาให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

    5. จบช่วงเวลาการฝึกทำสมาธิ
    เนื่องจากช่วงเวลาที่เราทำสมาธิกับน้องหมาเราจะมีปฏิสัมพันธ์กับให้น้อยที่สุด เวลาจะจบการทำสมาธิจึงต้องการหาสัญลักษณ์ที่เป็นภาษากายหรือคำพูดที่เป็นการบอกว่าการทำสมาธิเสร็จสิ้นแล้วให้น้องหมารู้เหมือนกันทุกครั้งที่ทำสมาธิเสร็จ เพื่อที่น้องหมาจะได้จดจำได้ เช่น ลูบน้องหมาด้วยสัมผัสที่สั้นและยาวสลับกัน เรียกชื่อน้องหมาด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น จนเห็นว่าน้องหมาหูกระดิก หันมามองเรา จากนั้นจึงบอกว่า “หมดเวลาแล้ว” “เสร็จแล้ว” มองตาเขาและค่อยๆ ลุกขึ้น เป็นต้นค่ะ ซึ่งวิธีการปิดจบสามารถแตกต่างไปได้ตามแต่ลักษณะนิสัย พฤติกรรมของน้องหมาแต่ละตัวนะคะ แน่นนอนค่ะว่าคนที่จะรู้ได้ดีที่สุดก็คือ ตัวผู้เลี้ยงเอง

    image
    ไฟล์แนบ
    dogonzen.jpg 50K
  • >>การฝึกสมาธิให้น้องหมาด้วยตัวของน้องหมาเอง <<<br />
    อีกการฝึกให้น้องหมามีสมาธิที่พริกกำลังจะแนะนำให้เพื่อนๆ ลองไปทำกับน้องหมาดูก็คือ การฝึกรักษาสมดุล โดยการวางสิ่งของบนจมูกน้องหมา เพื่อให้น้องหมามีสมาธิ ไม่ไขว้เขว มีความอดทนสูง ซึ่งการฝึกรักษาสมดุลนี้จะสร้างผลลัพธ์ให้แก่น้องหมาอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องความสุขุม มั่นคงทางอารมณ์ สงบนิ่ง การเชื่อฟังคำสั่ง อยู่ในโอวาท สามารถจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งยังฝึกง่าย ไม่ต้องใช้สมาธิหรือญาณใดๆ ของผู้เลี้ยง อาจจะต้องมีความอดทนในการสอนมากสักหน่อย แต่รับรองว่าไม่มีก้าวร้าว ซนดื้ออย่างแน่นอนค่ะ

    >>วิธีฝึก <<<br />1. อันดับแรกน้องหมาควรต้องรู้คำสั่งพื้นฐานเสียก่อน เช่น นั่ง นิ่ง หยุด เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเรื่องคำสั่งพื้นฐานและการฝึกน้องหมาให้ควบคุมตัวเองได้ที่บทความ เคล็ด (ไม่) ลับ! การฝึกให้น้องหมารู้จักควบคุมตัวเอง ค่ะ

    2. สั่งให้น้องหมานั่ง จากนั้นยื่นขนมที่อยู่ในมือของเราให้น้องหมา ถ้าเขายื่นหน้าจะมาดมให้กำขนม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะมองไปทางอื่นไม่มองขนมประมาณ 3 วินาที หากทำได้ให้ชมว่า “ดีมาก” หรือ “เก่งมาก” แล้วจึงวางขนมลงที่พื้นให้น้องหมากินเป็นรางวัล (ห้ามให้น้องหมากินขนมจากมือนะคะ เพราะเวลาเราจะวางขนมไว้ที่หน้าเขาถือว่าเป็นการบอกอนุญาตให้กินได้)

    3. คราวนี้ให้ลองแบมือยื่นขนมที่อยู่มือให้น้องหมา ถ้าน้องหมาดมๆ เราก็เลี่ยงมือไปทางอื่นไม่ให้เขาดม แต่มือยังคงแบบให้เขาเห็นขนมนะคะ แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เขานิ่ง มองตรงไม่ใช่ขนมสัก 3-5 วินาที ให้เอ่ยคำชม วางขนมให้กิน

    4. จากนั้นกำขนมไว้ในมือวางไว้ “เหนือ” จมูกน้องหมา เขาจะพยายามดม ก็ให้รอจนกว่าหยุดดม นิ่ง ไม่สนใจขนม แล้วจึงเอ่ยคำชม วางขนมไว้กับพื้นให้กิน

    image
    ไฟล์แนบ
    16.jpg 39K
  • 5. ค่อยๆ วางมือที่กำขนมไว้ “บน” จมูก รอจนน้องหมาหยุดดม หน้ามองตรง ไม่สนใจของกิน ยอมให้เราวางมือที่กำไว้บนจมูก วางไว้ประมาณสัก 10 – 15 วินาที แล้วค่อยเอ่ยคำชม ให้ขนมเขากินเช่นเดิม

    6. จากนั้นก็เปลี่ยนจากกำ มาเป็นจับขนมด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ให้น้องหมาเห็นขนม แล้วทำแบบเดิม เช่นเดียวกับตอนกำมือ รอให้น้องหมาเลิกสนใจขนม แล้วจึงให้กิน

    7. ให้มือหนึ่งวางขนมไว้บนจมูกน้องหมาเมื่อเขาหยุดดม ควรวางปลายจมูก หากวางลึกเกินไป อยู่ใกล้ตา เขาจะมองอาหาร ทำให้เสียสมาธิได้ค่ะ อีกมือจับใต้คางน้องหมาไว้เพื่อช่วยให้น้องหมารักษาสมดุล รอประมาณ 4-5 วินาทีแล้ว ค่อยหยิบขนมให้น้องหมากินเป็นรางวัล ไม่ควรให้เขาสะบัดร่วงกินเองนะคะ

    8. เริ่มแรกอาจจะยังไม่ค่อยได้ แต่ก็ค่อยๆ อดทนกับน้องหมา ฝึกไปเรื่อยๆ เมื่อน้องหมาเริ่มควบคุมตัวเอง และมีสมาธิ ให้ลองปล่อยมือที่จับคางน้องหมาอยู่ เพื่อให้เขาได้รักษาสมดุลด้วยตัวของเขาเองค่ะ เมื่อน้องหมาทำได้จะเพิ่มจำนวนขนมบนจมูก หรือ ลองวางของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ขนมดูก็ได้ค่ะ

    image
    ไฟล์แนบ
    17.jpg 48K
  • ทั้งการการสร้างสมาธิให้กับน้องหมาและฝึกให้น้องหมารักษาสมดุลสิ่งของเป็นวิธีการฝึกที่ผนวกแทบทุกเทคนิคไว้รวมกัน ทั้งการสร้างพลังงานที่สุขุมมั่นคงของเจ้าของในฐานะจ่าฝูงไปสู่น้องหมา การฝึกความอดทน และ การฝึกสมาธิ ซึ่งวิธีการที่ขจัดปัญหาระดับสูงต้องอาศัยเวลา ความอดทน ความสม่ำเสมอ และวินัยทั้งของผู้เลี้ยงและน้องหมาเป็นอย่างมาก แต่ถ้าทำได้ล่ะก็ น้องหมาจะเรียบร้อย น่ารัก อารมณ์มั่นคง เชื่อฟังคำสั่ง และกลายเป็นน้องหมาสุดเชื่องได้อย่างแน่นอนค่ะ ฟันธง!

  • บทความทั้งหมดนี้มาจากเว็บไซต์ http://www.dogilike.com/content/train/2953/

    ซึ่งผมเห็นว่ามีประโยชน์ดี อ่านแล้วถึงแม้จะทำบ้างไม่ทำบ้างก็น่าจะช่วยให้เห็นภาพง่ายขึ้น ว่าการเลี้ยงหมาต้องทำยังไงกันบ้าง เชื่อว่าหากมือใหม่ทุกคนได้อ่านได้คิดตาม น่าจะช่วยให้ความสัมพันระหว่างคนกับหมา กลายเป็น "นายเป็นบ่าว" กันจริงๆ ไม่ใช่แค่คนซื้อมาเลี้ยงเฉยๆ

    ผมเองก็ขอตัวไปอ่านซ้ำสักหน่อยละกัน อ่านแล้วยังจำได้มั่งไม่ได้มั่งอยู่เลย :o034:
  • มีประโยชน์กับผมมากๆครับพี่
  • จัดไป..ตามนั้นimage
    ไฟล์แนบ
    สุดยอด.jpg พ.jpg 270K
  • เห็นด้วยครับ หมาควรได้วิ่งออกกำลังกายบ้าง หมาจะได้มีความสุข คนก็มีควสมสุข
  • เห็นด้วย คับimage
    ไฟล์แนบ
    image.jpg 186K
  • @Gio_ ถ่ายรูปสวยมากก
  • :006: เยี่ยมยุทธ =D>
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆ :) :)