ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

มีความรู้มาฝากพี้น้องอีกแล้วขอรับ
  • :o058: ขอเท้หนิดหนึ่ง+555:o028:กอบไว้แล้วค่อยอ่านจะได้ไม้เสียเวลา และมีสูตรสำหลับสัตว์ด้วยครับ

    การทำน้ำสกัดชีวภาพ




    น้ำสกัดชีวภาพ

    ได้จากการสกัดน้ำเลี้ยงออกจากเซลล์พืช และเซลล์สัตว์ โดยใช้น้ำตาลหรือกากน้ำตาลด้วยกระบวนการหมักแบบไม่ต้องการอากาศโดยจุลินทรีย์ ได้น้ำสกัดชีวภาพสีน้ำตาลใสที่มีจุลินทรีย์หลายชนิดและสารประกอบจากเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้แก่ สารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน ฮอร์โมน และธาตุอาหารต่าง ๆ ซึ่งมีปริมาณแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ทำน้ำสกัดชีวภาพ ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายสูตร ได้แก่

    น้ำสกัดชีวภาพสูตร 1

    พืชสด : กากน้ำตาล

    3 กก. : 1 กก. (พืชสด ได้แก่ ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาว ตำลึง)

    น้ำสกัดชีวภาพสูตร 2

    พืชสด : ผลไม้สุก : กากน้ำตาล

    1 กก. : 2 กก. : 1 กก. (ผลไม้สุก ได้แก่ กล้วยน้ำว้า มะละกอ ฟักทอง)

    น้ำสกัดชีวภาพสูตร 3

    พืชสด : ผลไม้สุก : ปลาสด (หอยเชอรี่) : ยาคูลท์ (โยเกิร์ต) : กากน้ำตาล

    1 กก. : 1 กก. : 1 กก. : 1 ขวด : 2 กก.
  • น้ำสกัดชีวภาพสูตร 4

    พืชสด : ผลไม้ดิบ : ผลไม้สุก : ปลาสด (หอยเชอรี่) : เหง้ากล้วย : กากน้ำตาล

    5 กก. : 1 กก. : 1 กก. : 1 กก. : กก. : 3 กก.

    น้ำสกัดชีวภาพปลาสด

    ปลาสด : กากน้ำตาล

    3 กก. : 3 กก.

    น้ำสกัดชีวภาพถั่วเหลือง

    เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง : กากน้ำตาล : น้ำสะอาด : หัวเชื้อจุลินทรีย์

    3 กก. : 3 กก. : 10 ลิตร : 2 กก.

    น้ำสกัดชีวภาพนมสด

    น้ำนม : กากน้ำตาล : น้ำสะอาด : หัวเชื้อจุลินทรีย์

    10 กก. : 3 กก. : 5 ลิตร : 2 กก.
  • น้ำสกัดชีวภาพสมุนไพรป้องกันกำจัดหนอนและแมลง

    -เหล้าขาว 1 ขวด, น้ำส้มสายชู 250 ซีซี, หรือมะกรูดผ่าซีก 5 ผล

    -หางไหล 3 กก., หนอนตายหยาก 3 กก., ยาเส้น ? กก.,

    -สมุนไพรกลิ่นฉุนหรือมีรสเผ็ด : สาบเสือ

    -ขิงแก่ ข่าแก่ ตะไคร้หอม พริกไทย บอระเพ็ด กะเพรา กระชาย ดีปลี พริก ใบสะเดาแก่ เทียนทอง ลำโพง รวม 3 กก.น้ำสกัดสมุนไพรป้องกันกำจัดเชื้อรา

    พืชสมุนไพรรสขมหรือรสฝาด : เปลือกต้นแค เปลือกต้นข่อย เปลือกต้นหว้า เปลือกมังคุด เปลือกเงาะ เปลือกทับทิม ใบยาสูบ ใบเสือหมอบ แสยก ขาไก่ หน่อไม้ ใบยูคาลิปตัส กระเทียม กานพลู ชะพลู ใบมะขามเทศแก่ บอระเพ็ด ตะไคร้หอม กล้วยดิบ ลูกตะโก ลูกมะพลับดิบ รวม 3 กก.

    -กากน้ำตาล, และน้ำสะอาด เติมจนท่วมสมุนไพร
  • วิธีทำน้ำสกัดชีวภาพ

    การทำน้ำสกัดแต่ละสูตร ให้นำส่วนผสมที่เป็นพืชสด ผลไม้ ปลาสด หอยเชอรี่ ถั่วเหลือง มาสับ บด โขลก หรือหั่น ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วบรรจุลงถังหมัก เติมกากน้ำตาล และส่วนผสมอื่น ๆ ที่เป็นของเหลวลงไปคนหรือคลุกเคล้าให้เข้ากันหมักไว้ 7-15 วัน จึงเริ่มนำมาใช้

    หมายเหตุ : สูตรถั่วเหลือง และสูตรนมสด ควรหมักอย่างน้อย 15 วัน

    : สูตรปลาสด ควรหมักอย่างน้อย 1 เดือน

    การนำน้ำสกัดชีวภาพไปใช้ประโยชน์

    -น้ำสกัดชีวภาพสูตร 1 ใช้หมักฟางอัตรา 5 ลิตร/ไร่ ปล่อยไปกับน้ำที่ไขเข้านา และฉีดพ่นข้าวตั้งแต่อายุ 20-45 วัน อัตรา 20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชผักทางใบ อัตรา 15-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ควบคู่กับให้ทางรากอัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ทุก 15-20 วัน

    -น้ำสกัดชีวภาพสูตร 2 ฉีดพ่นผักกินดอก ผักกินผล และไม้ผลต่าง ๆ (ระยะติดผล) ทางใบอัตรา 15-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร สลับกับรดทางดินอัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน

    -น้ำสกัดชีวภาพสูตร 3 และสูตร 4 ฉีดพ่นพืชผัก พืชไร่ ผลไม้ (ระยะติดผลและข้าวอายุ 45 วัน จนถึงระยะออกรวง อัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน

    -น้ำสกัดชีวภาพปลาสด ฉีดพ่นพืชผัก และไม้ผล เพื่อบำรุงต้น (ก่อนออกดอก) อัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

    -น้ำสกัดชีวภาพถั่วเหลืองหรือนมสด ฉีดพ่นพืชผัก และไม้ผล (ระยะติดผล) อัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

    -น้ำสกัดชีวภาพสูตรสมุนไพรป้องกันกำจัดเชื้อรา และสูตรป้องกันกำจัดหนอน และแมลงใช้ฉีดพ่นข้าว พืชผัก

    ไม้ผล และพืชไร่ อัตรา 30-50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

    ข้อควรระวัง

    น้ำสกัดชีวภาพเป็นของเหลวที่เกิดจากการย่อยสลายสิ่งต่าง ๆ ภายในเซลล์พืชและสัตว์ ซึ่งมีความเข้มข้นของสารละลายสูง เมื่อนำไปฉีดพ่นต้นพืชจึงต้องผสมน้ำให้เจือจาง ถ้าใช้ความเข้มข้นสูง จะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตใบร่วงและตายได้ จึงควรใช้เพื่อสร้างการเจริญเติบโตให้กับต้นพืช โดยใช้ร่วมกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทางดิน เพื่อให้เป็นแหล่งของธาตุอาหารพืช
  • น้ำสกัดชีวภาพสูตรสมุนไพรกำจัดเพลี้ยไฟและหอยเชอรี่

    วิธีทำ

    1. เอาใบ เปลือก เมล็ด ก้านสะเดา จำนวน 20 กิโลกรัม ใส่น้ำเติมปี๊บ ต้มให้เดือดเหลือครึ่งปี๊บ

    2. ใบยูคาลิปตัส หัวข่า บอระเพ็ด อย่างละ 2 กิโลกรัม ต้มกับน้ำครึ่งปี๊บ ให้เหลือ ? ปี๊บ

    3. เอาน้ำต้มจากข้อ 1 และข้อ 2 กรองใส่ภาชนะ เติมจุลินทรีย์ EM 1 แก้ว กากน้ำตาล 1 แก้ว

    คนให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ 3 วัน

    วิธีใช้

    เอาน้ำหมักที่ได้ 1 ลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นในนาข้าว หรือต้นพืชตอนเช้า หรือเย็น ติดต่อกัน

    เป็นเวลา 3 วัน
  • สูตรสมุนไพรป้องกันและกำจัดแมลง

    วิธีทำ

    1. ใบยูคาลิปตัสครี่งปี๊บ ใบและเมล็ดสะเดาครึ่งปี๊บ ใส่ถัง

    2. เติมน้ำใส่ไป 1 ปี๊บ ต้มให้เหลือครึ่งปี๊บ

    3. ทิ้งไว้ให้เย็นกรองใส่ถังหมัก เติมจุลินทรีย์ 1 แก้ว เหล้าขาว 1 แก้ว และน้ำส้มสายชู 1 แก้ว กวนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 10-15 วัน จึงนำมาใช้ได้

    วิธีใช้

    สมุนไพร 5 ช้อนโต๊ะ / น้ำสะอาด 10 ลิตร ฉีดพ่น พืชผัก ผลไม้ ทุก ๆ 7-10 วัน

    การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง

    วัสดุ

    1. มูลสัตว์ 3 ส่วน

    2. รำอ่อน 1 ส่วน

    3. แกลบ 1 ส่วน

    4. EM 2 ช้อน+กากน้ำตาล 2 ช้อน+น้ำ 10 ลิตร

    วิธีทำ

    1. นำมูลสัตว์ผสมกับรำอ่อน คลุกให้เข้ากัน

    2. นำ EM + กากน้ำตาล + น้ำใส่ถัง คนให้เข้ากัน

    3. นำแกลบ แช่น้ำในถัง EM นาน 10 นาที

    4. นำแกลบที่แช่ EM แล้ว มาคลุกให้เข้ากันกับกองมูลสัตว์ที่ผสมกับรำอ่อนแล้ว

    5. รดน้ำให้มีความชื้น 40%

    6. นำปุ๋ยหมักที่ผสมแล้วใส่ถุงอาหารสัตว์ที่มีการระบายอากาศดี จำนวน 3/4 ของถุง

    7. นำไปวางไว้ในที่ร่มแต่อย่าวางซ้อนทับกัน แล้วกลับทุกวัน 7 วัน ก็นำไปใช้ได้

    อี เอ็ม (EM) คืออะไร

    EM คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ที่มีประโยชน์ต่อพืชและสัตว์และสิ่งแวดล้อม
  • วิธีใช้และประโยชน์ EM ขยาย

    1. ใช้กับพืช (ปุ๋ยน้ำ)

    * ผสมน้ำในอัตรา 1:100 (EM 1 ช้อนโต๊ะ กากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ:น้ำ 10 ลิตร) ใช้ฉีด พ่น รด ราด พืชต่าง ๆ ให้ทั่วจากดิน ลำต้น กิ่ง ใบ และนอกทรงพุ่ม

    * พืช ผัก ฉีด พ่น ราด ทุก 3 วัน

    * ไม้ดอก ไม้ประดับ เดือนละ 1 ครั้ง การใช้จุลินทรีย์ในดิน ควรมีอินทรีย์วัตถุปกคลุมด้วย เช่น ฟางแห้ง ใบไม้แห้ง ฯลฯ เพื่อรักษาควาทมชื้นและเป็นอาหารของจุลินทรีย์ต่อไป

    2. ใช้กับสัตว์ (ไม่ต้องผสมกากน้ำตาล)

    * ผสม EM 1 ช้อนโต๊ะ : น้ำ 200 ลิตร ให้สัตว์กินทำให้แข็งแรง

    * ผสม EM 1 ช้อนโต๊ะ : น้ำ 10 ลิตร ใช้พ่นคอกให้สะอาดกำจัดกลิ่น

    * หากสัตว์เป็นโรคทางเดินอาหารให้กิน EM สด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับอาหารให้สัตว์กิน

    3. ใช้กับสิ่งแวดล้อม

    * ใส่ห้องน้ำ - ห้องส้วม ในโถส้วมทุกวัน ๆ ละ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือ สัปดาห์ละ ? แก้ว) ช่วยให้เกิดการย่อยสลาย ไม่มีกาก ทำให้ส้วมไม่เต็ม

    * กำจัดกลิ่น ด้วยการผสมน้ำและกากน้ำตาล ในอัตราส่วน 1:1:1,000 (EM 1 ช้อนโต๊ะ: น้ำ 1 ลิตร) ฉีด พ่น ทุก 3 วัน

    * บำบัดน้ำเสีย 1:10,000 หรือ EM 2 ช้อนโต๊ะ : น้ำ 200 ลิตร

    * ใช้กำจัดเศษอาหาร หรือ ทำปุ๋ยน้ำจากเศษอาหาร

    * แก้ไขท่ออุดตัน EM 1 ช้อนโต๊ะ ใส 5-7 วัน / ครั้ง

    * ฉีดพ่นปรับอากาศในครัวเรือน

    * กำจัดกลิ่นในแหล่งน้ำ

    - ใช้ ฉีด พ่น หรือ ราดลงไปในแหล่งน้ำ 1 ลิตร : 10 ลบ. ม.

    - กลิ่นจากของแห้ง แข็ง มีความชื้นต่ำ แล้วแต่สภาพความแห้ง หรือ ความเหม็น โดยผสมน้ำ 1 : 100 หรือ 200 หรือ 500 ส่วน

    - ขยะแห้งประเภทกระดาษ ใบตอง เศษอาหาร ใช้ฉีดพ่น อัตรา EM ขยาย 1 ลิตร : น้ำ 500 ลิตร

    การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง

    วัสดุ 1. มูลสัตว์ 3 ส่วน

    2. รำอ่อน 1 ส่วน

    3. แกลบ 1 ส่วน

    4. EM 2 ช้อน+กากน้ำตาล 2 ช้อน+น้ำ 10 ลิตร

    วิธีทำ 1. นำมูลสัตว์ผสมกับรำอ่อน คลุกให้เข้ากัน

    2. นำ EM + กากน้ำตาล + น้ำใส่ถัง คนให้เข้ากัน

    3. นำแกลบ แช่น้ำในถัง EM นาน 10 นาที

    4. นำแกลบที่แช่ EM แล้ว มาคลุกให้เข้ากันกับกองมูลสัตว์ที่ผสมกับรำอ่อนแล้ว

    5. รดน้ำให้มีความชื้น 40%

    6. นำปุ๋ยหมักที่ผสมแล้วใส่ถุงอาหารสัตว์ที่มีการระบายอากาศดี จำนวน 3/4 ของถุง

    7. นำไปวางไว้ในที่ร่มแต่อย่าวางซ้อนทับกัน แล้วกลับทุกวัน 7 วัน ก็นำไปใช้ได้
  • :o030:ขอบคุณขอบมูลดีๆจาก สำนักงานเกษตร อำเภอภูหลวง จ.เลย นะขอรับ
  • copy ข้อมูลไปไว้ดูได้เลยนะขอรับ:o013:
  • ขอบคุณมากๆครับ :006: