วิตามิน C เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำเหมือนวิตามิน B แต่เดิมเรามักเข้าใจกันว่าร่างกายไม่สามารถเก็บวิตามิน C ไว้ได้ ซึ่งไม่จริง เพราะสุนัขเก็บวิตามิน C ไว้ใช้ได้เข่นเดียวกับวิตามิน B ดังนั้นการได้รับวิตามิน C มากเกินไปนั้น จะไม่เป็นพิษต่อร่างกาย เพราะร่างกายจะขับวิตามินส่วนที่เกินออกไปได้เอง เช่นเดียวกับวิตามิน B
* ดังนั้นสุนัขบ้านที่เลี้ยงไว้ควรได้รับวิตามิน C เสริม เพื่อมั่นใจว่ามันได้รับเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งถ้าเทียบกับบรรพบุรุษของมัน หมาป่านั้น จะได้รับวิตามิน C อย่างมากมาย พอเพียงจากอาหารที่มันล่าได้ เช่นพวกเครื่องใน, ตับไตไส้พุงสดๆ และผลไม้สุกที่ร่วงหล่นอยู่ในป่า
* สุนัขที่เลี้ยงกันทั่วไป ไม่ได้รับอาหารที่มีคุณสมบัติและปริมาณมากพอที่จะผลิต วิตามิน C ได้เองเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่ร่างกายต้องทำงานหนัก หรืออยู่ในภาวะเครียด ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการ วิตามิน C สูงมากกว่าปกติ
o วิตามิน C ทำหน้าที่เป็น Anti-Stress โดยสภาวะที่ร่างกายต้องการวิตามิน C มากเป็นพิเศษนั้นมีดังต่อไปนี้คือ:
+ เมื่อร่างกายได้รับสารพิษ วิตามิน C จะช่วยขับสารพิษประเภทโลหะหนักออกจากร่างกาย
+ เมื่อร่างกายได้รับการติดเชื้อ วิตามิน C จะช่วยต่อสู้เชื้อโรคต่างๆรวมทั้งเชื้อไวรัส
+ เมื่อร่างกายอยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัด หรือเจ็บหนัก วิตามิน C จะช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย
+ เมื่อเกิดความเครียดจากการเดินทาง
+ ความเครียดช่วงผสมพันธุ์ โดยที่เราให้วิตามิน C เสริมก่อนระหว่าง และหลังการผสม จะช่วยพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันและช่วยเร่งระบบต้านทานโรคต่างๆ (ตามปกติ) ในช่วงตั้งท้อง วิตามิน C จะช่วยให้ผ่อนคลายและคลอดง่าย
+ การเลี้ยงนมลูกและให้นม ระหว่างแม่สุนัขมีการให้นมลูก แม่สุนัขจะมีความเครียดมาก ดังนั้น วิตามิน C จะช่วยให้แม่สุนัขสบายขึ้น และมีผลต่อสุขภาพร่างกายทั้งแม่และลุก
+ ช่วงการเจริญเติบโตระยะต้น ซึ่งจะเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก จำเป็นต้องเสริมวิตามิน C เพื่อช่วยผลิตโปรตีนคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารอาหารหลักสำหรับสร้างเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต รวมถึงปัญหากระดูกที่เกิดจากร่างกายเติบโตเร็วเกินไป วิตามิน C จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่แน่นอนว่า ไม่ควรให้ลุกสุนัขโตเร็วเกินไปในช่วงนี้
+ การออกกำลัง วิตามิน C ช่วยไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าง่าย และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอในช่วงร่างกายทำงานหนัก
+ อายุมากขึ้น และร่างกายทรุดโทรม วิตามิน C ช่วยให้กระบวนการแก่ตัวและทรุดโทรมช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
+ อากาศเปลี่ยนกะทันหัน ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆและมากๆนั้น ควรให้อาหารที่มีวิตามิน C หรือวิตามิน C ชนิดเสริม เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
# การให้วิตามิน C ในปริมาณมากเกินไปนั้น จะไม่มีอันตราย เพราะร่างกายจะสามารถขับออกมาได้เอง แต่การให้วิตามิน C ปริมาณมากๆนั้น บางครั้งอาจทำให้ท้องเสีย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยลดปริมาณการให้วิตามิน C ลง อาการท้องเสียก็จะหายได้เอง
# ถ้าเราให้อาหารสดทั้งหมด รวมทั้งผักใบเขียวปริมาณมากๆ สุนัขก็จะผลิตวิตามิน C ได้เพียงพอโดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องให้วิตามินเสริมเข้าไป
# สุนัขที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษสูง เช่นในเมืองใหญ่ๆ, บ้านอยู่ติดถนนที่มีรถมาก, อยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ควรได้รับการเสริมวิตามิน C อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ
* สำหรับสุนัขที่กินอาหารสำเร็จรูปหรือทำสุก ควรให้วิตามิน C เสริมทุกวันในปริมาณ 100-200 mg/kg.
* ในกรณีที่สุนัขมีความเครียดอย่างรุนแรง ควรเพิ่มปริมาณวิตามิน C เสริมให้มากขึ้น โดยใช้เกณฑ์จากการสังเกตจากอาการท้องเสียของสุนัข คือถ้ามีอาการท้องเสียก็ให้ลดปริมาณลงเล็กน้อย จนถึงจุดที่ร่างกายสุนัขสามารถรับวิตามิน C ได้มากที่สุดโดยท้องไม่เสีย
รูปแบบของวิตามิน C
* ตัววิตามิน C เองมีสภาพเป็นกรดแอสคอร์ดบิค เกลือวิตามิน C มี 2 ตัวคือ โซเดียม แอสคอร์เบท และแคลเซี่ยมแอสคอร์เบท
* นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีกแบบหนึ่งที่เรียกกันว่า เอสเตอร์ C
* การให้วิตามิน C ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ในกรณีที่สุนัขมีปัญหาอยู่แล้ว เช่น สุนัขที่เป็นโรคข้อ ไม่ควรให้วิตามิน C ในรูปกรดแอสคอร์บิค (แต่ควรให้ในรูปของ โซเดียม แอสคอร์เบท, แคลเซี่ยมแอสคอร์เบท หรือ เอสเตอร์ C จะดีกว่า) , สุนัขที่มีปัญหาโรคหัวใจ ไม่ควรให้วิตามิน C ในรูปของ โซเดียม แอสคอร์เบท หรือถ้าในกรณีที่สุนัขอายุน้อยๆและเป็นโรคข้อตะโพก เนื่องจากมีแคลเซี่ยมมากเกินไปนั้น ไม่ควรให้วิตามิน C ในรูปของ แคลเซี่ยมแอสคอร์เบท