่ ทหารอเมริกันได้รับอนุญาติให้นำสุนัขไปเป็นเพื่อนระหว่างสู้รบที่ฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ สุนัขพวกนี้ไม่ได้ถูกฝึกมาเป็นพิเศษเพียงแต่ให้ทำหน้าที่อย่างง่าย ๆ ได้เท่านั้น เช่น การเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยลดความตึงเครียดและความกดดันที่มีในสงครามหฤโหดที่ทหารผจญอยู่ ตัวอย่างเช่น เจ้า ริน ติน ติน ลูกสุนัขที่เป็นตัวนำโชคของฝ่ายเยอรมันที่ทหารอเมริกันพบมันเหลืออยู่ตัวเดียวที่สนามเพลาะเมื่อเข้าโจมตีกองกำลังเยอรมัน หากไม่ถูกจับได้เจ้าสุนัขนี้อาจจะเติบโตขึ้นเป็นฮีโร่และถูกนำไปเล่าขานในนิทาน และเป็นที่นิยมโด่งดังที่สุดในบรรดาสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดทั้งหมดในเยอรมันก็เป็นได้

แม้ว่าสุนัขนำโชคจะไม่ได้รับการฝึกอย่างเป็นทางการ แต่มันก็ยังช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ได้หลายต่อหลายครั้ง โดยการเตือนถึงการโจมตีทางอากาศและการแพร่กระจายของแก๊สพิษ เช่น เรื่องราวของเจ้าสตับบี้ (Stubby) ตัวนี้

สุนัขพันธุ์พิทบลูหลงทางอยู่บนถนน ฮาร์ทฟอร์ด,คอนเนคติคัต โรเบิร์ต คอนรอย (Robert Conroy) ไปพบเข้าจึงเก็บมาเลี้ยง ขณะที่ฝั่งยุโรปมีสุนัขฮีโร่หลายตัวแล้ว และเจ้าสตับบี้นี้ก็ไม่ได้รับการฝึกมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากกองทัพเสียด้วย แต่มันก็ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งด้วยความเป็นนักรบที่มีเกียรติ นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าทึ่งว่าทหารให้คุณค่าและความสำคัญแก่สุนัขของพวกเขามากเพียงใด

ฤดูร้อนปี 1917 สตับบี้ ได้กลายมาเป็นตัวนำโชคของกองทหารราบ Lozd ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของกองพลทหารราบที่ 26 ?แยงกี้? ขณะที่พวกเขาทำการฝึกกันอยู่ที่ เยล โบลว์ ใกล้ ฮาร์ทฟอร์ด คอนรอยได้แอบนำสตับบี้ ลงเรือจากท่านิวพอร์ท นิวส์ รัฐเวอร์จิเนีย แล้วทั้งคู่ก็ได้ขึ้นฝั่งด้วยกันที่ แซงต์ นาแซร์ ประเทศฝรั่งเศสในเดือนมกราคม 1918 สตับบี้ได้ร่วมการต่อสู่กับ Lozd ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1918 ที่สมรภูมิ เชแมง เดส์ ดามส์ ห่างจาก ซัวซองส์ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียงเล็กน้อย กลางดึกคืนหนึ่งขณะที่ทหารทุกคนกำลังหลับสตับบี้เตือนทหารถึงการปล่อยก๊าซพิษที่กำลังจู่โจมเข้ามาทำให้ทหารลุกขึ้นมาใส่หน้ากากได้ทัน อีกครั้งหนึ่งสตับบี้ทำงานเป็นทหารยาม งับเอาทหารสอดแนมเยอรมันคนหนึ่งไว้ได้ ทำให้ทหารคนนั้นถูกจับในที่สุด เจ้าสุนัขตัวน้อยนี้ได้ติดตามทหารมาในเขต ตูล ซึ่งเป็นเขตแดนที่ไม่เป็นของฝ่ายใด เพื่อพักรักษาตัวหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้การเดินของมันไม่ปกตินัก หลังจากหายป่วยแล้ว สตับบี้ และ Lozd เข้าร่วมรบที่ ชาโต เธียร์คี,มาร์น,แซงต์-มิอิล และเมอุส-อาร์ชอน มันได้รับเหรียญกล้าหาญ ชั้นวิคตอรี ประดับแพรแถบ 5 แถบ ติดไว้ที่ปลอกคอด้วยเนื่องจากแสดงผลงานได้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อสตับบี้เริ่มเป็นที่รู้จัก ผู้หญิงชาวฝรั่งเศสบางคนก็ทำผ้าห่มหรือเสื้อคลุมให้มันใส่ และด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบผู้คนพากันติดเหรียญที่เสื้อคลุมเอาอย่างสตับบี้บ้าง และมันก็มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นวีรบุรุษ สุนัข แม้ว่าการกระทำของสตับบี้จริง ๆ แล้วไม่ได้จะเป็นฮีโร่อะไรมากมายนัก แต่ว่าเจ้าหางสั้นตัวนี้ก็เคยวิ่งส่งข้อความท่ามกลางห่ากระสุนหลายครั้งหลายหน และหากแนวคิดวีรบุรุษนิยม (Heroism) จะแพร่หลายด้วยคำจำกัดความที่ว่า ?มีความเสียสละอุทิศตนต่อหน้าที่? แล้วละก็ สตับบี้ก็ต้องเป็นฮีโร่อย่างไม่ต้องสงสัย บางทีการติดเหรียญให้สุนัขนั้นอาจเป็นมากกว่าการแสดงออกถึงการให้รางวัลสำหรับมิตรภาพที่สุนัขมอบให้ แต่ยังรวมไปถึงการเสียสละชีวิตยอมเอาร่างตัวเองบังร่างของเหล่าทหารหนุ่มทั้งหลายเอาไว้ ราวกับตัวมันเป็นผ้าห่มกันความตายได้กระนั้น นอกจากนี้เจ้าสตับบี้ ก็ยังช่วยหาตัวคนเจ็บได้และยังอุ้มพกพาไปได้ง่ายตลอดทางด้วย