ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

สำหรับผู้เลี้ยงมือไหม่ (Hip Dysplasia)
  • โรคข้อสะโพกเสื่อม ( Hip Dysplasia )
    มีข้อมูลดีๆ มาฝากครับ.....อาจจะยาวไปหน่อยแต่เชื่อว่ามีประโยชน์กับสุนัขที่เป็นโรคข้อสะโพกเสื่อม ไม่มากก็น้อยครับ.

    โรคข้อสะโพกเสื่อม ( Hip Dysplasia )

    เป็นโรคกระดูกที่พบได้มากในสุนัขพันธุ์ใหญ่ ( Giant and large breed ) โดยพบมากถึง 1 ใน 3 ของโรคกระดูกทั้งหมด โดยโรคนี้จะมีพัฒนาการในช่วงที่มีการเจริญเติบโตของกระดูก จึงอาจพบได้ตั้งแต่ 4-12 เดือน

    สาเหตุและปัจจัยโน้มนำ

    1. กรรมพันธุ์
    กรรมพันธุ์มักเป็นสาเหตุเริ่มแรกของโรคและมักจะเกิดร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ทำให้ความรุนแรงมากขึ้นพบว่าลูกสุนัขที่เกิดจากพ่อ-แม่ที่ไม่แสดงอาการของโรคอาจป่วยด้วยโรคนี้ได้ ส่วนลูกสุนัขที่เกิดจากพ่อ-แม่ที่ป่วยด้วยโรคข้อสะโพกเสื่อมจะมีเพียง 7% เท่านั้นที่ปกติ
    2. โภชนาการ
    การให้อาหารเต็มที่ตลอดเวลา จะทำให้มีโอกาสเกิดโรคสูง ควรให้ปริมาณอาหารเพียง 60-70% ของปริมาณอาหารที่สุนัขกินได้
    3. อัตราการเจริญเติบโตและขนาดตัวของสุนัข
    ลูกสุนัขที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว และมีน้ำหนักตัวมาก จะมีแนวโน้มเกิดปัญหาได้มากกว่า
    4. สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู
    กรณีที่ลูกสุนัขมีแนวโน้มเป็นโรคขอ้สะโพกเสื่อมหากมีการออกกำลังกายที่มาก จะทำให้แนวโน้มการเกิดโรคสูงขึ้น นอกจากนี้สภาพพื้นผิวที่สุนัขอยู่หากเรียบและลื่น ก็จะทำให้สุนัขที่มีปัญหาอยู่แสดงอาการได้เร็วและรุนแรงขึ้น

    อาการ
    1. ความสามารถในการออกกำลังกายลดลง
    2. การลุกยืนหรือนั่ง ทำได้ช้าหรือลำบากมากกว่าปกติ
    3. สุนัขไม่พยายามหรือไม่สามารถกระโดด ก้าวขึ้นหรือลงบันไดหรือรถยนต์ได้
    4. บางครั้งอาจได้ยินเสียงคลิกที่บริเวณสะโพก เวลาสุนัขเดิน
    5. ลักษณะการวิ่งจะใช้ 2 ขาหลังก้าวไปพร้อมๆ กัน
    6. มีอาการเจ็บขาเด่นชัดมากขึ้นหลังการออกกำลังกายอาจแสดงอาการของขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
    7. สุนัขจะยืนในลักษณะหลังงอ กล้ามเนื้อบริเวณขาหลังและสะโพกลีบเล็กลง บางครั้งสุนัขจะยืนลักษณะขาชิด แต่ปลายเท้าแบะออก

    การวินิจฉัยโรค
    1. การถ่ายภาพรังสีเอ็กซ์เรย์
    ใช้ประเมินความรุนแรงของโรคได้ในช่วงอายุ 12-18 เดือน สำหรับลูกสุนัขที่มีปัญหารุนแรงสามารถพบการเปลี่ยนแปลงของข้อต่อได้เร็วกว่านี้
    2. การตรวจข้อสะโพก
    ตรวจได้ตั้งแต่ลูกสุนัขอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งยังมองไม่เห็นความผิดปกติด้วยภาพถ่ายรังสี

    การรักษา แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
    1. การรักษาทางยา
    2. การรักษาทางการผ่าตัด

    การรักษาทางยา
    เป็นการรักษากรณีที่เริ่มมีอาการ โดยการใช้ยาแก้ปวด ลดอักเสบ รวมทั้งการใช้สารเสริมอาหารพวกกลูโคซาไมด์ และคอนดรอยติน ร่วมไปกับการควบคุมปริมาณอาหารที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรให้สุนัขมีการออกกำลังกายที่เหมาะสม

    การรักษาโดยการผ่าตัด มีจุดประสงค์เพื่อ
    1. ลดอาการเจ็บปวดบริเวณข้อต่อ
    2. เพื่อให้สุนัขสามารถกลับมาใช้ขารับน้ำหนักได้
    3. เพื่อลดการดำเนินไปของโรค
    แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดในกรณีที่ป่วยมานาน กล้ามเนื้อขาเริ่มลีบ จะให้ผลการรักษาที่ไม่ค่อยดีนัก

    วิธีทำกายภาพกรณีข้อสะโพกเสื่อม

    สัปดาห์ที่ 1
    1. ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณสะโพกนาน 15-20 นาที แล้วทำการยืด-หดขา 10-15 ครั้ง ทำ 2-3 ครั้งต่อวัน
    2. จูงสุนัขเดินนาน 10-20 นาที อย่างน้อย 2 ครั้งและไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อวัน
    3. สังเกตุการตอบสนองของสุนัขโดยไม่ให้ยาใดๆ
    4. ถ้าสุนัขมีอาการเจ็บบริเวณข้อ ให้ลดกิจกรรมต่างๆลง 50% และให้ยาลดอาการปวดก่อนทำกายถาพบำบัด 30-60 นาที
    5. พิจารณาประคบเย็นบริเวณข้อสะโพกหลังการทำกายภาพบำบัด

    สัปดาห์ที่ 2-4
    1. ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณสะโพกนาน 15-20นาที
    2. ยืด-หดขาและเพิ่มเวลาการเดิน
    3. เริ่มให้สุนัขเดินในทางลาดชัน ขึ้นหรือลงบันได
    4. เริ่มให้สุนัขลุกและนั่ง 2 ครั้งต่อวัน
    5. ให้ว่ายน้ำ 3-5 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และให้เพิ่มระยะเวลา หากสุนัขมีการตอบสนองที่ดีขึ้น

    สัปดาห์ที่ 5-12
    1. ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณสะโพกนาน 15-20 นาที
    2. ยืด-หดขา และจูงเดิน
    3. เริ่มให้สุนัขวิ่งเหยาะและเล่นนาน 20-30 นาที 1-2 ครั้งต่อวัน
    4. ให้ว่ายน้ำนาน 10 นาที 3 ครั้งต่อวัน
    ***ข้อมูลทางวิชาการจาก โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด***

    ที่มาจากเว็บ Pantip ขอขอบคุณ ณที่นี้ด้วย
  • ขอบคุณมากครับ
  • มีสาระดีครับ เบนท์ แวะมาที่เว็ปบ้างนะ คนระยองเยอะตอนนี้ ดีครับ
  • แหมม มาสาระเลยนะ ไอ้โรคนี้ใช่มั๊ยยที่ว่ามันติดอยู่นิดนึงแล้วนึกชื่อไม่ออก คราวนี้มายาวเลย ดีมากเดี๋ยวจะเอาไปให้น้องรักที่บ้านอ่าน
  • เห็นหมาของเพื่อนก็เป็น
    น่าสงสารเชียว ต้องกินอาหารคุมน้ำหนักตั้งแต่เด็กๆ เพราะน้ำหนักเยอะ จะยิ่งส่งผลเสีย
  • :004:สาระดีมีประโยชน์ครับ ขอบคุณครับ:004:
  • :006::013:สุดยอดไปเลย