ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ตามคำเรียกร้อง ฝึก"หมอบ"
  • ตามคำเรียกร้องคับ เพื่อน พี่ มิตร สหาย จากกระทู้ที่ #4743

    บอกแล้ว ว่า ยาว มั่กมั่ก
    สำหรับฝีกสุนัขอารักขา ในคำสั่งเบื้องต้น ก่อนที่จะพัฒนาการ ในคำสั่ง ต่อไป ของพวก เยอรมันเชพเพอด

    แต่ฝึกกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวมันกลับมา งับ ขา ผู้อารักขา ตามรูปไม่รุ้ ด้วยเด๋อ
    ไฟล์แนบ
    30-92.jpg 47K
  • ? หมอบ ? ?อย่างเต็มใจ?..ทำอย่างไรดี? ? (1)


    ในแวดวงคนเลี้ยงหมา ทั้งเจ้าของหมาและผู้ฝึกทุกคน ต่างรู้กันดีว่าในงานฝึกอารักขา(ชุท) การฝึกให้หมาเต็มใจ ? หมอบ ? ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น ยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน (โดยเฉพาะ Handler ที่นำสุนัขเข้าแข่งขันในงานแข่งอารักขา) ทำอย่างไรเล่า หมาจึงจะหมอบอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินคำสั่ง (เพียงครั้งเดียว) สำนวนกรรมการฝึกจะบอกว่า ?ราวกับถูกยิงร่วง(ลงมาอยู่ในท่าหมอบ)? ได้อย่างเต็มอกเต็มใจ ด้วยความตื่นตัวแต่สงบนิ่งอยู่ในท่าเดิม หมาต้อง เชื่อฟังและปฏิบัติตาม ?คำสั่ง? เท่านั้น ไม่มีการแสดงท่าทาง,ส่งสัญญาณใดๆ จาก Handler ทั้งสิ้น แม้แต่ในสนามแข่งขันระดับชาติ และนานาชาติ ที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีม ส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์ทั้งการสอบการแข่งขัน และการฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักๆ ก็ยังมีหมาน้อยตัวนักที่จะทำได้สมบูรณ์แบบ หมาทุกตัวที่หมอบตามคำสั่ง?.แม้จะช้า , ลังเล , ไม่เต็มใจ , อย่างไรก็ตาม??.มักจะได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากผู้ชมในสนามเสมอ , โดยเฉพาะ การสั่งหมอบในแบบฝึกหัด ?ส่งไปข้างหน้า? (Vorous) หมาตัวที่ทำได้ดี จะได้รับการปรบมือชมเชยและโห่ร้องให้กำลังใจเสียงดังกึกก้องทีเดียว

    สำหรับงานอารักขาหรือกีฬาชุทซ์ฮุนด์ การหมอบ มีอยู่ในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ ตอน ก งานสะกดรอย (Tracking) หมาจะต้อง หมอบเมื่อพบของทุกชิ้น ตอน ข. งานเชื่อฟังคำสั่ง (Obedience) หมาต้องหมอบตามคำสั่งขณะกำลังวิ่ง,สั่งไปข้างหน้าแล้วสั่งหมอบ , หมอบคอย ช่วงยาวระหว่างมีหมาตัวอื่นทดสอบอยู่ในสนาม และตอน ค. งานต่อสู้ป้องกัน (Protection) หมาต้อง หมอบตามคำสั่งก่อน Handler เข้าค้นตัว Helper ทุกครั้ง นอกจากนี้ ในการฝึกประจำวัน หรือในสถานะการณ์อื่น ๆ ที่ต้องการให้หมาอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด Handler จะต้องใช้คำสั่ง ?หมอบ? เท่านั้น


    ? หมาที่ได้รับการฝึกให้เข้าใจ คำสั่ง ?หมอบ? อย่างดีจริงๆ จะหมอบลงทันที อย่างสงบและรออยู่ในท่านั้น จนกว่าจะได้รับคำสั่งอื่นต่อไป

    การรฝึกแบบเก่า หรือการฝึกในระบบ ?ทำผิด-ลงโทษ? นั้นสอนหมาให้หมอบโดยใช้กำลัง
    บังคับ ด้วยการกดที่หลัง,ดึงโซ่คอลงให้ติดพื้น บางครั้งอาจมีการกระแทกหมาลงไปทั้งตัวให้ติดพื้น หมาก็จะเข้าใจว่าติดพื้นไว้จะปลอดภัย กว่าการยืน , เพราะไม่ถูกทำโทษให้เจ็บตัว ดังนั้นเมื่อใช้คำสั่งเรียกหมา หมาก็กลัวจะถูกทำโทษ เพราะต้องลุกขึ้น ยืนก่อน หมามักจะลังเลสับสนตรงจุดนี้ ว่า ?ถ้าลุกขึ้นยืน จะถูกทำโทษหรือเปล่า? หมาส่วนใหญ่จะไม่กล้าลุกขึ้นที่ใจกล้าหน่อย ก็จะค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ ค่อยวิ่งเหยาะๆ แบบดูท่าทีว่า ?ถ้าเข้าไปหาเขาแล้วจะถูกอัดไหมนี่ เพราะที่แรกโดนเขาอัดให้หมอบลง แล้วอยู่ๆ ก็เรียกมาหา แล้วถ้าไม่ลุกขึ้นมาจะมาหาเขาได้อย่างไรล่ะ ?


    คราวนี้ผู้ฝึกจึงต้องใช้กำลัง ทำให้หมาลุกขึ้นแล้วเข้ามาหาโดยอาจจะใช้สายจูงยาว ลากหมาเข้ามาหาตัว แม้หมาจะเข้ามาถึงตัวผู้ฝึกได้ แต่ก็จะแฝงด้วยความกลัวตลอดเวลา และหมาจะไม่มีวันเข้าใจความหมายของการ ?หมอบนิ่งอยู่กับที่อย่างสงบ (เพื่อรอคำสั่งต่อไป)? หมาบางตัวสับสนมากจนลุกขึ้นเองจากท่าหมอบแล้ววิ่งหนีไปทางอื่นก็มี ผู้ฝึกก็จะต้องใช้กำลังรุนแรงในการบังคับหมาเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นจากท่าหมอบ ทำให้ทั้งหมาและผู้ฝึก ต่างก็ตกอยู่ในบรรยากาศที่ตึงเครียดในระหว่างการฝึก ผลคือแม้บางครั้งหมาอาจจะทำได้ แต่การแสดงออกของหมา จะไม่น่าดูเลย ไม่ร่าเริง ตื่นตัว เต็มอกเต็มใจ ทำตามคำสั่ง , แต่จะเชื่องช้า หงอยเหงา และมีอาการหวาดกลัว ไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภายใต้บรรยากาศการฝึกที่ตึงเครียดของผู้ฝึก,ความกังวลสับสนของหมา ทำให้เกิดปัญหาติดตามมาอีกมากมาย ในการฝึกหมอบสำหรับแต่ละขั้นตอน เช่น การหมอบคอยช่วงยาวมีปัญหาแน่ถ้าหมากลัวผู้ฝึก (หมอบเมื่อได้รับคำสั่ง แต่ลุกขึ้นวิ่งหนีเมื่อผู้ฝึกเดินห่างไป) การหมอบ เมื่อพบของในการสะกดรอย ถ้าหมาไม่มั่นใจหรือสับสน หมาอาจไม่กล้าหมอบลง (เพราะไม่มีคำสั่ง) หรือ หมอบลงแล้วไม่กล้าลุก (กลัวถูกทำโทษ) หรือลุกขึ้นแล้วไม่กล้าเข้ามาหาผู้ฝึก ยิ่งหมาทำพลาด(เพราะไม่มั่นใจ) ผู้ฝึกยิ่งทำโทษหนักขึ้น รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หมาก็จะยิ่งงันงกตกใจหวาดกลัวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาลูกโซ่ต่อๆ ไปไม่มีสิ้นสุด

    การฝึกแบบใหม่ สอนให้หมาเข้าใจด้วยการจูงใจหรือการฝึกในระบบ ?ทำสำเร็จ-ได้รางวัล? , โดยทำให้หมารู้สึกดี เมื่อทำสำเร็จ หรือทำถูกต้อง สร้างบรรยากาศการฝึก ให้หมาอยากทำ ในสิ่งที่ถูกต้อง (คือสิ่งที่เราต้องการ) ทำให้หมาเข้าใจว่า การหมอบอย่างสงบนิ่ง เป็นการรอคอยสำหรับสิ่งพิเศษที่จะตามมาคือ ของกินที่หมาชอบมากที่สุด ยิ่งหมอบนิ่ง อยู่ได้นานเท่าไร ก็จะยิ่งได้กินของชอบมากขึ้น ให้หมาเกิดความรู้สึกว่า การหมอบนิ่งของมัน เป็นเหมือนการอ้อนขอกินของกินสุดโปรดจากผู้ฝึก??.และถ้ามันทำดี(คือหมอบให้นิ่งสงบที่สุด) ผู้ฝึกก็จะใจดี ให้มันได้กินของชอบทุกครั้งไป เป็นการสร้างบรรยากาศในการฝึกที่ดีทั้งในความรู้สึกของหมาและผู้ฝึก หมาจะนิ่งสงบ รอคอยคำสั่ง(หรือรางวัลที่จะต้องได้รับแน่นอนถ้ามันทำดี)อย่างมั่นใจ และกระตือรือร้นรอคอยสิ่งดีๆ ที่จะตามมา

    การฝึกให้ได้ผลดี หมาควรจะกำลัง ?หิว? หรือมีความ ?อยากกิน? มากพอ การฝึกในเวลาให้อาหารจะได้ผลดีทีเดียว เพราะเป็นช่วงเวลาที่หมามีความมั่นใจว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแน่ คือได้กินอาหาร

    แนวคิดหรือเป้าหมายของการฝึกนี้ คือการสอนให้หมารู้ว่า การหมอบลงอย่างรวดเร็ว(ตามคำสั่ง) จะทำให้มันได้กินของชอบ (ที่จะมากองอยู่ระหว่างขาหน้าของมัน) เสมอ และถ้ายังคงหมอบนิ่งอยู่ต่อไปก็จะได้กินของชอบไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ทิ้งช่วงเวลาในการให้กินอาหารให้นานขึ้นที่ละน้อย จนหมาสามารถหมอบนิ่งอยู่ที่เดิมได้นานตามที่ผู้ฝึกต้องการ หมาจะเต็มใจหมอบ (ขออาหาร) เพื่อคอยคำสั่งต่อไป??.ที่เมื่อทำตามแล้วต้องได้รับรางวัล(อาหาร) อีก

    ในที่สุดหมาจะได้รับคำสั่งให้ลุกขึ้นจากท่าหมอบและได้รับรางวัล (อาหาร) หรือคำสั่งให้?พัก? ซึ่งจะกล่าวในภายหลัง ด้วยแนวคิดนี้ หมาจะเรียนรู้การหมอบ ด้วยความเข้าใจและเต็มใจทำ โดยแทบไม่มีข้อผิดให้ต้องแก้ไข (ทำโทษ) กันเลย
  • ก่อนจะเริ่มฝึก หมอบ ตามแนวคิดที่กล่าวมานี้ ผู้ฝึกต้องรู้ว่า สาเหตุที่จะทำให้การฝึก ไม่ประสบความสำเร็จนั้น มีอะไรบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานะการณ์ที่จะเป็นเหตุให้การฝึกไม่ได้ผล

    การรู้ล่วงหน้าถึงปัญหาและสาเหตุ ย่อมทำให้ผู้ฝึกคอยระมัดระวัง และคาดการณ์ล่วงหน้าได้ในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนวางแผนและสร้างบรรยากาศการฝึกให้สอดคล้องกับแนวคิดและวิธีการที่จะทำให้การฝึกประสบสำเร็จเท่านั้น

    สิ่งที่จะทำให้การฝึกล้มเหลว (อย่าทำ !)

    ? ไม่จริงจังในการฝึก เช่น การหยอกล้อเล่นกับหมา , กระโดดโลดเต้น , วิ่งไปมา , ยั่วแหย่หมา , พูดคุย , ส่งเสียงต่างๆ นานา, ใช้คำสั่งซ้ำหลายครั้ง , ใช้ภาษากาย , เรียกชื่อหมา ฯลฯ

    ? พยายามแก้ไขหรือทำโทษ เมื่อหมาทำผิดจากที่คิดไว้ ไปวุ่นวายจัดท่าทางให้หมาหมอบสวยๆ เช่น กดตัวหมา, จับขาให้ตรง เป็นต้น

    ? ให้หมากินอาหารจากมือ ขณะหมาหมอบอยู่ (หมาจะพะวงอยู่ที่มือผู้ฝึกมากเกินไป)

    ? บังคับให้หมากินอาหาร เมื่อหมาไม่อยากกิน (ไม่หิว)

    ? ปล่อยให้หมาลุกขึ้นเอง (โดยไม่ได้สั่ง)

    ? ไม่ให้หมากินอาหาร (เมื่อหมาทำดี) หรือให้ช้า หรือน้อยเกินไป

    ? ไม่มีความอดทน (เวลาหมาทำไม่ได้อย่างใจคิดก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย , หมาจะรู้สึกถึงอารมณ์ของผู้ฝึกและเกิดความเครียด)

    ? ไม่ปล่อยให้หมาได้ทำท่าอื่นๆ (ที่ไม่ได้ผลคือไม่ได้รับอาหาร) บ้างเพื่อขออาหารเช่นใช้เท้าหน้าเขี่ย , ใช้จมูกดันที่มือ ฯลฯ เร่งการฝึกเร็วเกินไป ไม่ดูว่าหมาเข้าใจบทเรียนได้ดีพอหรือยังในแต่ละวัน

    สิ่งที่ทำให้การฝึกประสบผลสำเร็จ (ต้องทำ ! )

    ? จัดตารางเวลาและปริมาณอาหาร ทำให้หมารู้สึกหิว ในช่วงเวลาที่ฝึก

    ? จำกัดรูปแบบและสถานะการณ์ให้ชัดเจน เพื่อหมาจะเข้าใจได้ง่ายว่า ทำอย่างนี้ต้องได้รางวัลแน่นอน


    ? ปล่อยให้หมาได้เรียนรู้ว่า การใช้วิธีอื่นๆ เพื่อขออาหารนั้น ไม่ได้ผล (เหมือน การหมอบอยู่นิ่งๆ)

    ? แสดงให้หมารู้ชัดเจนว่ามีอาหารอยู่ในมือขวา , โดยคว่ำมือครอบอาหารไว้บนพื้นระหว่างขาหน้าของหมา

    ? เปิดฝ่ามือออกให้หมาได้กินอาหาร อย่างสงบ อย่าให้หมาขยับตัวได้ (นอกจากก้มหัวลงมากินอาหารที่พื้น)

    ? แสดงให้หมาเข้าใจให้ชัดเจน เมื่อปล่อยจากท่าหมอบ (ใช้คำสั่งและรูปแบบเดียวกับการสั่งพักการฝึกอื่นๆ

    ? ทำแบบฝึกหัดซ้ำไปเรื่อยๆ อย่างอดทน

    ? เมื่อหมาทำผิดไปจากที่เราคิด , ต้องเริ่มทำใหม่โดยสร้างบรรยากาศที่ดีกว่าเดิม (อย่าพยายามแก้ไขจัดท่าให้หมาหรือสั่งซ้ำๆ หรือลงโทษหมา)

    ? พยายามให้โอกาสหมาให้ได้ทำสำเร็จให้มากที่สุด (อย่าทดสอบหมา เมื่อการฝึกยังไม่สมบูรณ์แบบจริงๆต้องมีรางวัล อาหารทุกครั้งที่ฝึก)

    ? ไปฝึกในที่มีสิ่งรบกวนอื่นๆ บ้าง แต่อย่าจบการฝึกในที่นั้น เพราะหมาอาจทำได้ไม่ดีที่สุด การจบการฝึกทุกครั้ง ต้องเป็นช่วงที่หมาทำได้ดีที่สุดในแบบฝึกหัดนั้นๆ

    เข้าใจในธรรมชาติของหมา

    ก่อนฝึกหมา ผู้ฝึกต้องเรียนรู้ธรรมชาติของหมาเสียก่อน จึงจะสามารถเข้าใจความคิดของหมาและคาดเดาสิ่งที่หมาจะแสดงออกได้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการฝึกให้สอดคล้องกับธรรมชาติของหมา ซึ่งทำให้การฝึกได้ผลดี หมาจะทำตามแบบฝึกหัดได้สำเร็จอย่างสนุกสนาน เพราะเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีการบังคับ , ขู่เข็ญให้หมาทำอะไรที่มันไม่อยากทำ

    ลองนึกถึงหมา 2 ตัว กำลังแย่งของเล่นชิ้นเดียวกัน , ตัวที่แย่งได้ก็จะเริ่มแทะหรือฟัดเล่นอย่างสนุกสนาน อีกตัวหนึ่งก็พยายามหาโอกาสแย่งมาฟัดเล่นบ้าง เมื่อเห็นว่าท่าจะไม่สำเร็จแน่ มันจะหมอบลงทำท่าเหมือน ขอเล่นบ้าง (น่า?..นะ) บางทีจะเห็นหมาชวนเล่นด้วยท่าหมอบแบบก้นโด่งก่อน แล้วค่อยๆลดก้นลงมาเป็นท่าหมอบธรรมดา หรือนึกถึงเวลาที่เราให้กระดูกไปแทะเล่น หมามักจะหมอบลง , เอากระดูกไว้ระหว่างขาหน้าแล้วจึงเริ่มแทะ

    การหมอบ เป็น ท่าทางตามปกติธรรมชาติ ของหมา ที่มักแสดงออกในเรื่องเกี่ยวกับการกินและการเล่น ดังกล่าวมาแล้ว เราจึงนำการแสดงออกทั้ง 2 ด้านนั้น มาประยุกต์ใช้ในการฝึกให้หมาหมอบ ตามธรรมชาติที่สุด
  • เราจะปล่อยให้หมาได้ทำท่าทางต่างๆ ตามใจมันแต่ไม่มีการให้รางวัล???.จนกว่า??มันจะทำท่าหมอบอย่างถูกต้อง ตามที่เราต้องการเท่านั้น จึงจะได้รางวัล ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนหมาเรียนรู้ได้เอง

    บางที อาจมีคนมายืนดู เราฝึกหมอบ (แบบธรรมชาติ) นี้ แล้ววิพากษ์วิจารณ์ติโน่น , ตินี่ต่างๆ นานา ก็จงอดทนทำไป การที่เราปล่อยให้หมาทำท่าทางต่างๆ ตามใจมันนั้นอาจดูไม่น่าจะเป็น ?การฝึกหมา? ในทรรศนะของ ?ครูฝึก? ส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมว่า เป้าหมายของเราคือ ให้หมาหมอบลงอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ด้วยความเต็มใจ ทันทีที่เราสั่ง คนที่มาดู จะเห็นภาพหมา หมอบขาหน้าลง-แต่ก้นโด่งขึ้น หรือ หมอบแบบพับเพียบ หรือหมอบลงแล้วเอามือเขี่ยเพื่อคุ้ยอาหารออกจากมือเรา หรือทำท่าทางแปลกๆ อีกหลายๆ อย่าง ในระหว่างการฝึก โดยเราไม่แก้ไขจัดท่าทางให้หมาเสียใหม่ให้ถูกต้อง ภาพที่ออกมาคือ ?เออ ! ไอ้นี่มันฝึกหมายังไงของมัน,หมามันอยากทำอะไรก็ปล่อยมันทำ,ยังงี้เมื่อไหร่มันจะทำได้ซักที (วะ)? แต่คนที่มาดู??.ได้มองข้ามจุดเล็กๆ ที่??เมื่อหมา หมอบได้ถูกต้อง (แม้สัก 1 ใน 20 ครั้ง) เราจะให้รางวัลมัน (เปิดมือออกให้มันได้กินอาหาร) ทันทีทุกครั้งไป

    ดังนั้น อย่าท้อแท้?หวั่นไหวกับคำติเตียนวิพากวิจารณ์ (จากผู้ไม่เกี่ยวข้อง) จงตั้งใจ?..อดทน?..คอยสังเกตหมาของเราไว้ให้ดีถ้าเขาทำไม่ถูกต้องอย่างใจคิด ก็นำเขากลับมาเริ่มทำใหม่ ซ้ำไปเรื่อยๆ ต้องมีสักครั้งที่เขาทำได้ดีเมื่อนั่นแหละจงรีบให้รางวัลเขาโดยเร็วที่สุด??..ในไม่ช้าคุณจะต้องทึ่งกับความสามารถในการเรียนรู้ ของหมาของคุณ ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติเด่นตามธรรมชาติอีกประการหนึ่งของหมา

    การเตรียมงาน เพื่อฝึกโดยใช้อาหาร

    ต้องมีการเตรียมเนื้อเตรียมตัวกันหน่อย ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเตรียมหั่นไส้กรอกไว้เป็นของล่อ หรือเตรียมตั้งนาฬิกาปลุกไว้จะได้ตื่นแต่เช้ามาปลุกหมาไปฝึก?...แต่เป็นการเตรียมสร้างพื้นฐานกระบวนการเรียนรู้ตามธรรมชาติที่เราต้องนำออกมาใช้ในการฝึกแบบนี้ ก่อนอื่นคุณต้องหาวิธีที่เหมาะสม ทีจะทำให้หมารู้สึกหิวหรือมีความ ?อยากกิน?(Food drive) พอสำหรับการฝึก? คงไม่ถึงขั้นให้มันอดข้าวเย็น ซึ่งจะทำให้หมาหิวเกินไปจนไม่มีอารมณ์จะทำอย่างอื่น คุณอาจจัดตารางเวลาอาหารของหมาเสียใหม่ เช่นร่นเวลาอาหารเย็นให้เร็วขึ้นเมื่อถึงตอนเช้าหมาจะเริ่มหิวเร็วกว่าปกติซึ่งเป็นเวลาฝึกพอดี เป็นต้น เยอรมัน

    เช็พเพอดที่เป็นปกติทั่วๆไปมักจะอยากกินตลอดเวลา , กินได้ทั้งวัน (ไม่นับเยอรมันเช็พเพอดที่ป่วย)

    ต้องสอนให้หมารู้ว่ารางวัลหรือของกินมาจากเรา(ผู้ฝึก)แต่ผู้เดียวเท่านั้น ให้สุนัขเรียนรู้ด้วยตัวเองจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสภาวะปกติประจำวัน เราต้องปฏิบัติต่อหมาด้วยความสงบเยือกเย็นระหว่างการฝึกในขั้นนี้ โดย เมื่อถึงเวลาอาหารตามปกติของหมาเราก็ ถือชามอาหารออกมาให้หมาเห็น แล้วหันหลังเดินจากหมาไป จากจุดที่เคยให้มันกิน หมาที่กำลังหิวก็จะเดินตามไป, ตาก็จะมองเราไปด้วย, คิดไปด้วยว่า ?เอ,อาหารของเราอยู่ในชามรึเปล่า? รึว่าเจ้านายกำลังจะไปเอาอาหารมาจากไหนให้เรา? ? เมื่อเห็นมันทำท่าสงสัยเต็มที่ ก็ทำให้มันหายสงสัย โดยหยิบอาหารในชาม ส่งให้มันกินจากมือ คราวนี้มันแน่ใจแล้วว่าเรามีอาหาร ก็ปล่อยให้มันกระโดดโลดเต้นตะเกียกตะกาย (ด้วยความอยากกิน) บ้างพอหอมปากหอมคอ เพื่อให้มันพุ่งความสนใจมาที่เรามากขึ้น แล้วหยิบอาหารส่งให้มันกินจากมือ ไปเรื่อยๆ จนหมดชาม (เท่ากับอาหาร 1 มื้อ ของหมา) โดยต้องให้หมาพุ่งความสนใจมาที่เราอย่างเต็มที่จริงๆ (มองหน้าเราอย่างใจจดใจจ่อ) เท่านั้นจึงจะหยิบอาหารให้ ถ้ามันหันไปสนใจอย่างอื่น อย่าหยิบอาหารให้มันเป็นอันขาดอย่าไปชวนหมาเล่นเสียเอง (เช่น ยั่วแหย่ให้มันอยากกิน โดยเอาอาหารออกมาแล้วชะงักไว้ไม่ให้มันกินหรือพูดคุยโน่นนี่กับมัน) ต้องทำด้วยความสงบ, เงียบที่สุดให้หมาเรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เมื่อไรที่มันพุ่งความสนใจมาที่เราอย่างเต็มที่, เมื่อนั้นมันจะได้กินอาหาร

    ถ้ารู้สึกว่า หมาทำท่าเหมือนยังไม่อยากกิน,ไม่หิว(ไม่สนใจติดตามเราเพื่อขออาหารกิน) ก็เอาอาหารไปเก็บก่อน เมื่อกะว่าหมาน่าจะรู้สึกหิวแล้ว, ก็ค่อยเอาออกมาลองใหม่ ภายในเวลาไม่เกิน 2-3 วัน หมาจะเริ่มแสดงอาการเรียกร้องมากขึ้นเพื่อขออาหารจากเรา หมาจะเรียนรู้แล้วว่าการสนใจเราอย่างเต็มที่จะทำให้ได้กินอาหาร ไม่ช้ามันก็จะตามคุณแจ เมื่อนั้นแหละก็จะเริ่มฝึกขั้นตอนสำคัญคือการ?หมอบ?ต่อไปได้แล้ว

    แนวทางขั้นพื้นฐานของการฝึก ?หมอบ?

    ? การจำกัดทางเลือก : การฝึกแบบนี้จะประสบความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อหมาได้เคยลองขอกินอาหารด้วยการแสดงออกหลายๆ แบบมาแล้ว เช่นการเขี่ยหรือ,ดมมือเรา,เอาจมูกดันมือเราฯลฯ ซึ่งการปล่อยให้หมาทำอะไรตามใจชอบอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกแบบเก่า (แบบบังคับ) แทบจะรับไม่ได้เอาเลย แต่นี่คือส่วนสำคัญที่สุดของการฝึกแบบนี้ก็ว่าได้เพราะแนวคิดคือ ต้องให้หมารู้ว่าการแสดงออกแบบอื่นๆ ของมันไม่นำไปสู่ความสำเร็จ(ได้กินอาหาร) เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่จำกัดวง ให้หมาเข้าใจได้อย่างชัดเจน แสดงว่าต้องท่าทางอย่างไร จึงจะนำไปสู่ความสำเร็จ (ได้กินอาหาร) หัวใจของการฝึกที่เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ คือ หมาจะต้องตัดสินใจเลือกที่จะหมอบ แม้มันจะรู้ว่ามันอาจทำท่าทางอื่นๆ ก็ได้ งานของเรา (ผู้ฝึก) คือทำให้มันเต็มใจที่จะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องตามที่เราต้องการ

    ? กำหนดจุดที่แน่นอนในการให้รางวัล :

    ในขั้นตอนของการให้รางวัลเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน การเจาะจงวางอาหารไว้ระหว่างขาหน้า เมื่อหมาหมอบลง ช่วยเน้นให้หมาเข้าใจเห็นได้ชัดเจนขึ้น ว่ามันเลือกถูกทางแล้วจึงได้รับรางวัล

    การให้อาหาร (ระหว่างขาหน้า) แบบนี้ ต้องแสดงท่าทางให้หมารู้อย่างสงบไม่ต้องพูด,หรือแสดงท่าทางอื่นๆ เพียงแต่คว่ำมือขวาปิดอาหารไว้ รอให้หมาตัดสินใจหมอบลงเพื่อรอกินอาหารที่ปิดไว้ ถ้าหมาไม่สนใจ (ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด) ก็หยุดการฝึกไว้ก่อนค่อยลองใหม่คราวหน้า อย่าพยายามไปแก้ไขที่ตัวหมา ซึ่งก็จะกลายเป็นการเริ่มต้นของการฝึกแบบบังคับไป หรือมิฉะนั้นมันจะนึกว่า ?ฉันหมอบยังไงก็ได้ เดี๋ยวเจ้านายก็มาจัดท่าให้เองแหละ?
  • หากเราพยายามไปบังคับ, หรือพูดชวนให้หมากิน การฝึกแบบนี้ก็จะไม่ได้ผล กลายเป็นการฝึกซ้อนฝึก คือฝึกให้หมากินระหว่างกำลังหมอบ , จะพากันสับสนเข้าไปใหญ่ หมาจะต้องตัดสินใจเองที่จะหมอบลงเพราะมันอยากกินอาหาร และต้องใช้มือข้างขวาสำหรับปิดอาหาร เพราะเราต้องใช้มือข้างซ้ายทำอย่างอื่นในขั้นตอน เดินชิด

    ? ให้รางวัลจากพื้นเท่านั้น (ไม่ใช่จากมือ) :

    การที่หมาหวังจะได้กินอาหารจากพื้น , ตรงระหว่างขาหน้าของมัน จะทำให้หมาหมอบลงด้วยท่าทางตามธรรมชาติของมันเอง เหมือนเวลาที่มันล่าเหยื่อมาได้ ก็จะหมอบลงกินโดยวางเหยื่อนั้นไว้ตรงขาหน้าตามธรรมชาติ ถ้าเราให้อาหารจากมือ หมาก็จะพยายามยืดหัวขึ้นมาหามือเราซึ่งเป็นท่าที่ไม่มีน่าดู ถ้าเราทำได้ถูกต้อง หมาจะหมอบลงและมองดูที่พื้นเพื่อรออาหาร หมาที่ถูกฝึกมาอย่างดี มักจะมองดูที่พื้นเมื่อเราสั่ง?หมอบ? เมื่อจะยืดเวลาการหมอบให้นานขึ้น โดยให้อาหารเพิ่มขึ้น หมาจะหมอบนิ่งอยู่ในท่าเดิม ขยับแต่หัวเพื่อมองหา หรือรออาหาร

    ? ออกคำสั่ง ครั้งเดียวพอ :

    สอนให้หมาเรียนรู้ ว่าหมาจะต้องทำตามคำสั่งเพียงครั้งเดียวของเรา จึงจะได้รางวัล ถ้าเราปล่อยให้

    หมารู้สึกว่า เราต้องสั่งหลายๆ ครั้งมันค่อยทำตามก็ได้ , ต่อไป เราก็ต้องสั่งซ้ำๆ มันถึงจะทำตาม พอถึงตอนสอบหรือลงแข่งขัน เราต้องเสียคะแนนตรงนี้แน่นอน

    ? สั่งพัก :

    การฝึก ?หมอบ? แบบนี้ แบ่งได้เป็นส่วนสำคัญๆ 3 ส่วน คือ : การกำหนดจุดให้รางวัล , การให้รางวัลบนพื้น และการสั่งพัก (ปล่อยจากท่าหมอบ) การสั่งพัก เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสอนให้หมาเข้าใจการ ?หมอบ? อย่างแท้จริง อย่าปล่อยให้หมาลุกจากท่า ?หมอบ? เอง โดยเราไม่ได้สั่งเป็นอันขาดแม้แต่ครั้งเดียว ในการฝึกถ้าหมาลุกขึ้น หรือขยับตัว(ยกเว้นหัว) หรือคืบคลานจากจุดที่หมอบเดิม หลังจาก ?หมอบ? ตามคำสั่งของเราแล้ว นั่นแสดงว่า หมาไม่เข้าใจการ ?หมอบ? อย่างแท้จริง และเป็นตัวเราเองที่พลาด ปล่อยให้หมามีโอกาสทำอย่างนั้นได้ ดังนั้น ถ้าเกิดความผิดพลาดดังกล่าวขึ้นแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ เดินออกไปจากจุดที่กำลังฝึกอยู่ (เลิกฝึก) หรือ รีบเอาอาหารให้หมาอย่างเร็วที่สุดที่จุดกำหนด (คือระหว่างขาหน้า) ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ , สิ่งแวดล้อม และท่าทางการแสดงออกของหมา ซึ่งเรา (ผู้ฝึก) ต้องรู้จักสังเกตและประเมินได้ว่าควรทำอย่างไร จึงจะเหมาะสมที่สุด ณ เวลานั้น

    หากจะเลิกการฝึกก็อย่าให้อาหารหรืออย่าเล่นกับหมา เพราะหมาจะคิดว่าที่ทำนั้นถูกต้องแล้วจึงได้พักและได้รางวัล ถ้าจะฝึกต่อ ก็อาจเดินไปบริเวณอื่น แล้วเริ่มฝึก ?หมอบ? ตั้งแต่ต้นใหม่อีกครั้ง หรือถ้าจะเลิกฝึกเลยก็เอาหมาไปเก็บ (โดยไม่มีการเล่น , ไม่มีรางวัล) โดยเดินจูงหมาไปธรรมดาๆ อย่าไปบ่นว่าหมาแบบ?.. ?แย่มากเลยนะวันนี้ , ไอ้หมาโง่ ฯลฯ?


    การวางอาหารลงที่พื้นระหว่างขาหน้าของหมา ให้ถูกจังหวะจะโคน, เว้นช่วงระยะให้หมาเดาไม่ถูกว่าอาหารจะมาตอนไหน จะทำให้หมาหมอบนิ่งอยู่กับที่ (และคอยคำสั่งพัก) โดยไม่ต้องบังคับ เมื่อเราสั่งพัก ต้องใช้ท่าทางและน้ำเสียงที่แสดงออกชัดเจนให้หมารู้ว่ามันได้รับอนุญาตให้ออก จากท่า?หมอบ? ได้สั่ง คำสั่งที่ใช้ก็ควรเป็นคำเดียวกับคำสั่งพักในแบบฝึกหัดอื่นๆ หมาจะรับรู้ได้เองโดยอัตโนมัติว่าเราอนุญาตให้พักได้ , เล่นได้ เช่นสั่งพักพร้อมกับตบมือ , หรือสั่งพักพร้อมชูมือขึ้นฯลฯ

    ? ควบคุมหมาด้วยความสุขุมเยือกเย็น , สงบและอดทนเท่านั้น , จึงจะนำไปสู่ความสำเร็จ :

    อย่าลืมว่า หมาต้องหมอบลงเอง อย่างมั่นใจและเต็มใจ ไม่มีอาการลังเล , สงสัยในคำสั่ง การฝึก ?หมอบ? ตั้งแต่ต้น เราจำเป็นต้องทำทุกขั้นตอนด้วยความสงบเยือกเย็นและอดทนอย่างที่สุด

    อย่าพูดมากหรือทำสุ้มทำเสียงต่างๆ นาๆ ,แสดงอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว หรือออกท่าทาง , บังคับ แก้ไข , ลงโทษหมา หรือแสดงกิริยาอาการข่มขู่คาดโทษฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้ จะทำลายสมาธิและกระบวนการเรียนรู้ของหมา ต้องปล่อยให้หมาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าท่าทางอย่างไรที่เรา(ผู้ฝึก)

    ไม่ชอบ , ไม่สนใจและไม่ให้รางวัล

    ก็อย่างที่บอกแล้ว ว่าการฝึกแบบนี้ จะเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ในช่วงเริ่มต้นที่เราปล่อยให้หมาได้ลองผิดลองถูกดูเอง ดังนั้นจะมีท่าที่ผิดๆอยู่บ่อยๆ ซึ่งผู้ฝึกส่วนใหญ่จะอดไม่ได้ที่จะพยายามแก้ไขหมา รบกวนกระบวนการเรียนรู้ของหมา โดยจับให้มันทำท่าที่ต้องการเสียเอง (แทนที่จะอดทนให้หมามันค้นพบท่าทีถูกต้องด้วยตัวมันเอง) ซึ่งจะทำให้หมาเคยชินเช่น จะหมอบลงก็ต่อเมื่อเห็นผู้ฝึกทำท่าจะเข้ามาจับ(ให้หมอบ)หลังจากพูดคำสั่งแล้ว

    ถ้าสั่งเฉยๆ ก็จะไม่หมอบ ดังนั้น ความอดทน รอคอยให้หมาเรียนรู้ที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยตัวเองและให้รางวัลมันทันทีเมื่อมันทำเสร็จ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

    ? ทำแบบฝึกหัดพื้นฐานซ้ำๆ กันให้มากที่สุด :

    การทำแบบฝึกหัด ที่หมาทำได้ถูกต้องและได้รางวัล ซ้ำๆ กันมากๆ จะมีแต่ผลดี ยิ่งทำมากเท่าไร

    ผู้ฝึกจะได้มีโอกาสได้สังเกต พฤติกรรม , ท่าทาง , การแสดงออกหรือภาษากายของหมาได้ถูกต้องชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และนำมาปรับปรุงวิธีการให้รางวัล ให้เหมาะสมกับช่วงจังหวะเวลาที่หมาทำท่าทางที่ถูกต้อง เมื่อทั้งผู้ฝึกและหมามีโอกาสได้เรียนรู้และสังเกตภาษากายของกันและกันได้มาก ก็จะยิ่งทำให้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ ได้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ถ้ามันงับแบบนั้นผมไม่ฝึกแล้ว แต่ไม่เป็นไรมันงับขาเพื่อนไม่ใช่ขาเรา
  • พี่จุ๊บทำงานอยู่การไฟฟ้า ตำแหน่งไรคับ
  • ถามทำอะไรครับ

    เล่นถามกันบนบอร์ด เดี๋ยวพี่ ซวย
    ตอบได้ ก็ตอบ...
  • ไม่มีไรคับ ผมทำการไฟฟ้าอยู่พัทยาคับ
  • พี่ อยู่ กกง.
    รู้จักชื่อจริงแล้ว เช็คเอาเองใน intra ของกฟภ.

    ว่าแต่joepattaya ชื่อ อะไร พี่ ได้เข้าไปเช็ค ดู ได้รู้จักหน้าตากัน
    ยินดีที่ได้รู้จัก ครับ
  • ผมเป็นบริษัทของเอกชลคับ ทำงานด้านตัดไฟคับ
  • สมองเริ่มมีรอยหยักขึ้นอีกนิสนึงเรา...
  • :063: พี่ครับ ผมว่าเอาแบบง่ายๆ เข้าใจเร็ว เผื่อน้องๆอยากนำไปฝึกบ้าง
    :006: เป็นสาระที่ดีครับผม :006:
    ไฟล์แนบ
    A298825.jpg 61K
  • :o001: ดีมากเลยครับ ถึงเวลาจะลองฝึกดูครับ