ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ฝากถึง ผู้จัดงานลากน้ำหนัก
  • ผมได้สอบถามเรื่องการตั้งรางสำหรับการแข่งขันไปที่ผู้จัดงานบางรายในอเมริกา
    และนี้คือคำตอบที่ผมได้รับ เลยขอนำมาแชร์กันเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการ
    แข่งขันในครั้งนี้

    I'd like to know about pulling track set up.
    In competition, when pull on track (carpet), do they set slope up?
    If they do how high.
  • และนี้คือคำตอบที่ได้รับครับ

    Some tracks have an incline and some don't. The most I have seen at a sanctioned event was a 4" incline.

    บางสนามก็ตั้งความลาดชันบางสนามก็ไม่ได้ตั้งความชัน แต่ในการแข่งขันที่ผ่านมา
    รางถูกตั้งสูงถึง 4นิ้ว (10ซม.)


  • และนี้คืออีกหนึ่งความเห็นครับ

    I would go with a slight incline(1-2 inch), but not so high(nothing over 4 inches) that it pulls the dog back. I believe, a steep incline is good for an experienced dog, so you do not have to load as much weight, but too steep can wreck a young dog's confidence.

    สำหรับผม ผมคิดว่าประมาณซะ 2.5 - 5 เซนฯ กำลังดี แต่ไม่เกิน 10ซม. อย่าตั้งชันเกิน
    มันจะไหลกลับ การตั้งรางชันมันเหมาะสำหรับนักกีฬาที่มีประสบการณ์ คุณไม่ต้องโหลด
    น้ำหนักเยอะ แต่มันอาจจะทำลายความมั่นใจสำหรับนักกีฬาที่อ่อนประสบการณ์
  • ฝากไว้เป็นแนวทางให้กับทีมงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ
  • ขออนุญาติตอบแทนน้องๆยังเติร์กนะครับ

    การแข่งขันครั้งนี้ เราเซ็ทระดับความลาดเอียงของรางไว้ไม่น้อยกว่า 3 เซนต์ แต่ไม่เกิน 5 เซนต์ เพราะช่วงนี้เรายังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้น สุนัขที่ลงแข่งประสบการณ์ยังไม่มากนัก และสุนัขในบ้านเราน้ำหนักเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 25-35 กิโลกรัม เสียเป็นส่วนใหญ่ และเราต้องการส่งเสริมให้มือใหม่ กล้านำสุนัขเข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น เราอยากให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมของผู้เลี้ยงพิตบูลทุกคน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น และการตั้งความลาดเอียงสูงเกินไปและลากบนพรม จากการทดสอบในหลายๆครั้ง สุนัขที่มีน้ำหนักตัวน้อย แทบจะหมดสิทธิลากได้เมื่อน้ำหนักที่โหลดสูงเกินพันกิโลกรัม แต่ไม่ใช่ว่าหมาลากไม่ไหวหรือไม่ยอมลาก แต่เป็นเพราะความลื่นของพื้นพรมทำให้เขาไม่สามารถออกตัวได้ครับ

    ด้วยความเคารพ ^:)^

    หมายเหต รางลากที่เพิ่งต่อใหม่ เราจะทดสอบว่ารับน้ำหนักได้จริงเท่านั้น แต่จะไม่อนุญาติให้สุนัขตัวไหน ลงทำการซ้อมอย่างเด็ดขาด สุนัขทุกตัวจะได้ทดสอบพร้อมกัน ในวันงานก่อนการแข่งจริงเท่านั้น เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม ไม่มีการได้เปรียบหรือเสียเปรียบครับผม
  • แล้วแต่ความสดวกของผู้จัดเลยครับ แต่อยากฝากเรื่องเวลา+น้ำหนักที่โหลด ยาวแน่ๆครับงานนี้
  • เราอาจจะอนุญาติให้ข้ามได้มากกว่าสองครั้งครับ เพื่อประหยัดเวลา สำหรับสุนัขที่ฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี ส่วนมือใหม่ก็ลงตามสะดวกเลยครับ
  • ผมว่างานนี้น่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมเฉียด 40 ตัว ต้องมืดชัวร์ครับงานนี้
    ในเมื่อเมืองไทยเรามีรางลากน้ำหนักที่มาตรฐานจำนวนหลายอัน
    อยากให้พิจารณาทดลองใช้ 2 รางสําหรับงานนี้ดู หมาต่ำกว่า 30 กิโลใช้หนึ่งราง
    อีกรางสำหรับ 30.1 กิโลขึ้นไป พอบางจำนวน ผ่านน้ำหนักที่ตันห้าถึงตันแปด
    ก็ตัดมาเหลือรางเดียว อิฐบล็อกก็โยกย้ายจำนวนเท่าเดิม แต่ประหยัดเวลาได้ครึ่งต่อครึ่ง

    ป.ล. ดื่มหนักแข่งนานพอตกกลางคืน ตาผมมองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้ว 555
  • ด้านหลังรางที่โหลดน้ำหนักหันเข้าหากัน ลากฝั่งตรงกันข้าม คงนึกภาพออกนะครับ... :020:
  • ตั้ง 2 ราง คนมีหมา 2 ตัวไม่ไหวครับ :)

    แนวทางการข้ามมากกว่า 2 ครั้งน่าจะสะดวกกว่าครับ
  • มีคุณยุทธมีหมาลาก 2 ตัวคนเดียว เชื่อว่าถ้าตั้ง 2 รางได้จริง
    คงบริหารเวลาให้ไม่ตรงกันได้อย่างสบายครับ ข้อดีของการมี 2
    รางคือ สุนัขจะได้ไม่ต้องคอยหมุนเวียน 30-40 ตัวทุกครั้งก่อน
    ลาก เครื่องไม่ดับทั้งคนและหมา ยิ่งครั้งนี้มีแต่แฮนด์เลอร์ขั้นเซียน
    มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ผมว่าไม่จบง่ายครับงานนี้...
  • เห็นด้วยครับ กับแนวทางข้ามได้มากกว่า2ครั้ง
  • สงสารคนเตรียมงานบ้างเถอะพ่อคู้ณณณณณณ รางเดียวก็จะแย่แล้ว ทางงานเขาให้เวลาเซ็ทอับแค่ชั่วโมงเองครับ :-D
    และอีกอย่าง รางเก่าก็สภาพไม่ไหวแล้วจริงๆ รางที่เขาให้ยืมมาก็เหล็กอ่อนมาก รับน้ำหนักตันเดียวก็แอ่นแล้ว นี่คือเหตุผลที่ต้องทำรางใหม่ครับ

    ผมเสนอว่า เราสามารถลดงานของกรรมการได้คือ สมัครกันให้เรียบร้อบ ชั่งน้ำหนักหมาให้ชัวร์จะได้จัดรุ่นถูกต้อง วันจริงทุ่นเวลาได้เยอะ สิบโมงตรงเริ่มชั่งน้ำหนัก สิบเอ็ดโมงหรือไม่เกินเที่ยงต้องเริ่มแข่ง ใครซ้อมมาดีสามารถข้ามได้ตามสบาย จะเริ่มที่น้ำหนักตรงไหนก็ได้ ใครทำฟาวล์หรือลากไม่ผ่าน อนุญาติได้หนึ่งครั้ง และ ต้องซ่อมทันที มั่นใจว่าไม่เกินห้าโมงจบครับ ^:)^
  • ก็สงสารนี่ล่ะครับ เลยนําไอเดียมานําเสนอ ตัวเลขมีให้กันเห็นๆ
    ตีนักกีฬา 30 ตัว เริ่มต้นกันที่ 500 กิโล น้องใหม่หยุด 1 ตันคงได้
    ตัวเก่งๆ ก็ประมาณ 2 ตันขึ้น เฉลี่ยคร่าวๆ แล้วก็ลากอยู่ที่ตันห้า
    ข้ามได้สองก็ลบไปเหลือตันสาม 8 ครั้งในการลากของสุนัขแต่ละตัว (500-1,300กิโล)
    ถ้าสุนัข 30 ตัว x 8 ครั้ง งานนี้ลากกันประมาณ 240 ครั้ง ให้เวลาจํากัดครั้งละ 1 นาที
    หมาเดินเข้าเดินออกจัดเตรียมสายลากก็ไม่ตํ่ากว่า 3-5 นาที ชั่งโมงนึงเร็วสุดคง
    ลากได้ไม่เกิน 20 ตัวหรือ 20 ครั้งจากทั้งหมด 240 ครั้ง (12 ชั่วโมง) สิบเอ็ด
    โมงเช้าถึงห้าโมงเย็นมันพูดง่าย แต่ดูตามแง่วิทยาศาสตร์แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ครับ...:012:
  • งานมหาสารคามที่มีขึ้นล่าสุด ถ้าจําไม่ผิด เช้ายันมืดครับ... :003:
  • งานที่สารคามเขาเริ่มต้นกันที่น้ำหนักกี่โล และอนุญาติให้ข้ามได้กี่ครั้งครับ
    ผมจะพยายามหาจุดที่ลงตัวที่สุดให้นะครับ

    ปัญหาที่ส่วนใหญ่กังวลกันคือกลัวงานจะเลิกดึกใช่ไหมครับ
  • ไม่ทราบเหมือนกันครับ ต้องให้เจ้าภาพเค้ามาแจ้ง งานนี้มันใหญ่
    และนักกีฬาเยอะจริง หลังจากคํานวณตัวเลขพร้อมดูตัวอย่างจากงาน
    มหาสารคามแล้ว ผมจึงเกรงว่ามันจะไม่จบ ทางอิมแพคเค้าปิดกี่โมงครับ?
  • ใจเย็นค่อยๆปรึกษากันไป ยังพอมีเวลา อยากให้คำนึง+สร้างมาตราฐานไว้ด้วยครับ ด้วยความเคารพ
  • ผมอยากให้ทุกคนที่มา สนุก กลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มและมีความสุขครับ :-D

    เรื่องไหนที่ทำให้ได้และเป็นความต้องการของส่วนรวม ก็จะไม่ลังเลที่จะนำไปปฏิบัติเลยครับ
    แต่บางเรื่องมันมีข้อจำกัดจริงๆก็อยากให้เข้าใจ ดังนั้นมาช่วยกันหาข้อสรุปที่ลงตัวกันดีกว่า ^:)^
  • เคลียร์กันให้จบ....ก่อนงานจะเริ่ม...จะได้....จากกันด้วยดี.. มีรอยยิ้ม..

    ทะเลาะกันก่อน...ดีกว่า ทะเลาะกันทีหลัง..... ;-)

  • ใจผมอยากหา จุดที่ทุกฝ่ายแฮปปี้ แล้วยึดตรงนั้นเป็นมาตรฐาน เราจะได้มีมาตรฐานเดียวกันในทุกงานครับ
    ต่อไปใครจัดงานก็ง่าย ตอนนี้ที่ผมกังวลก็คือ สโลป ควรกี่เซนต์ดี สโลปน้อย หมาเล็กเล่นได้ แต่ช่วงน้ำหนักน้อยมันน่าเบื่อ หมาใหญ่ลากแล้วอันตรายด้วย คนโหลดน้ำหนักขี้แตกอีกต่างหาก แต่ถ้าสโลปเยอะเกิน หมาเล็กก็ไม่ไหวจบไม่เกิน 1000

    สำหรับผม 3-5 เซนต์ ไม่มีปัญหา จึงอยากให้คนที่ส่งหมาลงแข่ง ช่วยกันเสนอครับ
  • ส่วนตัวไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ 2 ราง หรือเวลาที่จะเลิกดึกหรือไม่ แต่ที่นําขึ้นมาคือการตักเตือนด้วยความเป็นห่วง นักกีฬาของอีสานกับล้านนารวมไปถึงกทม. หลายตัวมาด้วยความพร้อม แต่ละตัวเจ็บๆ ทั้งนั้น ตันห้าคงสบายๆ ถ้าห้าโมงเย็นได้ครึ่งทางปัญหาความล่าช้าจะตามมา ผมให้หัวข้อด้านบนพร้อมคณิตศาสตร์ไว้แล้ว ก็ขอให้ผู้จัดนําไปปรึกษาทําการบ้านกันเอาเอง ยังพอมีเวลาครับ

    ถึงวันงานจะคอยชม ถ้าต้องแร่งรีบไม่ทัน ผมขอเคลมเครดิตไว้ก่อนเลยนะว่า "I Told You Already" 555

    image
    ไฟล์แนบ
    753434_f520.jpg 38K
  • แต่ถ้าลากหมากลางวันเสร็จเร็ว ตอนกลางคืนล้านนาคงพากันไปล่านางแมว... :013:

    image
    ไฟล์แนบ
    291610.png 143K
  • สโลปอัพผมโหวด 5 เซนต์หนึ่งเสียงครับ... :020:
  • ผมเห็นด้วยกับคุณ tek ครับ
    ถ้าความเป็นจริงเรามีราง เรามีรางเดียว และนักกีฬาก็มีจำนวนมาก เกรงว่าเวลาอาจจะยื้อค่อนค้างนาน
    งานที่สารคามเริ่มที่น้ำหนัก 400 kg ครับ หลังจากชั่งน้ำหนักใช้เวลาไม่นาน เริ่มลากหน้าจะช่วงสายๆไม่มาก
    เพราะได้มีการเซ็ทรางไว้ก่อนแข่ง1 วัน ช่วงแรกอาจจะเสียเวลาหน่อยเพราะนักกีฬามากและใช้เวลานานหน่อย
    ไหนจะรอบแก้ตัว แต่นั้นพอน้ำหนักมากขึ้น บวกกับสโลปอัพ มันก็จะตัดนักกีฬาออกไปโดยอัตโนมัติ งานวันนั้นทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ พัก1ครั้งตอนเทื่ยงวันรับประทานอาหาร(คน) กระนั้นก็ไม่วาย ยันค่ำต้องสปอร์ตไลท์ช่วย

    งานครั้งนี้ มีหลายอย่างที่ยังใหม่อยู่ต้องจับผิดจับถูก ต้องเพื่อเวลาไว้ด้วย อยากจะฝากทางเจ้าภาพควรมี
    ทีมงานที่จะต้องชั่งน้ำหนัก เมื่อชั่งเสร็จก็ต้องแบ่งรุ่นนักกีฬา จากนั้น เจ้าของหมาแต่ละท่านจะได้วางแผนแต่เนิ่นๆ
    ถ้าช่วงนี้เสียเวลาไม่มากเราก็จะได้ไปมีเวลาไปมันส์กันในสนามเร็ว เรื่องข้ามอันนี้ สำคัญเช่นกัน ฝากเจ้าภาพพิจรณาด้วยครับ :025:
  • คุณ
    macus_bull_ 3:45AM Permalink

    ผมว่าผิดแล้วล่ะ
    เิริ่มชั่ง นน .แต่เช้าก็จริง ใครมาถึงก็ชั่งก่อน แต่เริ่มแข่งประมาณ 11 โมงกว่า ครับ จบงาน 3 ทุ่มครับ

    1. นน.เริ่มที่ 400 KG เที่ยงวันจบที่ 800 KG พักกินข้าว ประเด็นนี้น่าสนใจมาก อันเนื่องมาจากเจ้าภาพ ก่อนหน้านี้ 1 วันได้จัดให้มีงานเลี้ยง ดังนั้นไม่ว่ากรรมการ หรือคณะนักกีฬาที่เข้าร่วมงานเลี้ยง ต่างตบเท้า มาถึงสนามเกือบ 10 โมง กว่าจะชั่งนนจบ กว่าประธานจะเปิดงาน กว่าโชวจะจบ

    2. การตั้ง SLOPE พอไปถึงก็ลองดึงดู แล้วต่างมองหน้ากัน ว่างานนี้ 3 ตันแน่ๆ ก็เป็นจริง เพราะ SLOPE ถือว่าชันน้อยมาก บวกกับเป็นพื้นหญ้าจึงทำ สุนัขมีพื้นผิวที่จะ จิก ได้มากกว่าพรหม และที่อันตรายมากกว่าอีกก็ตรงที่หินที่ยกขึ้นไปบนรถ สูงท่วมหัวน่าหวาดเสียวมาก

    ต้องขอโทษทางเจ้าภาพ งานสนามที่แล้วด้วยครับ ทั้งนี้ที่ผมพูดเพราะอยากให้ใช้เป็นประสบการณ์ในการพัฒนา สนามต่อๆไปให้ดีขึ้น และอยากให้ทางทีมงาน กทม พิจารณาใว้เป็นกรณีศึกษาครับ
  • ปัญหาหลักๆเท่าที่ได้สัมผัสมา มี 2 เรื่องคือ
    1. เวลาเริ่ม และ จบการแข่งขัน
    ทั้งนี้ทางเจ้าภาพ ควรกำหนดหมากำหนดการออกมาทั้งหมดก่อนและจัดตารางให้ผู้เข้าร่วมเข้าแข่งขันทราบ ทั้งทาง web และแจกเป็น สูจิบัตร ทั้งนี้ผมไม่ทราบว่าทางผู้จัดจะมีโชว์นอกเหนือจากงานลาก นน หรือไม่หากมีผมคิดว่าน่าจะโชว์ ช่วงพักเบลค เที่ยงวัน น่าจะดีกว่าเพราะเป็นช่วงที่ นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยี่ยมชมเข้ามา กันมากกว่า


    3. slope up
    สำหรับสนาม พรม ผมคิดว่าไม่น่าห่วงมาก เพราะน่าจะจบได้เร็วหากมีการ set slope ที่เหมาะสมกับ ทั้งนี้ที่ผมพูดเพราะแต่ละรางแต่ละรางความแข็งแรงของคาน และลูกล้อ เพลา ในการรับ นน ไม่เท่ากัน อาจจะทำให้ความผืดเมือมีแรงกดลง มีผลต่อ นน ที่ลากได้อาจจะลองปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม กับ จำนวนนักกีฬา จำนวนมากก็สูงหน่อย จำนวนน้อยก็ ลดลง :)

    Cheers,
  • สวัสดีครับ

    อยากบอกว่าแล้วแต่ทางเจ้าภาพเห็นสมควรและขอให้สะดวกต่อคนทำงานให้มากที่สุดครับ

    ทั้งนี้ข้อมูลที่หลายๆท่านได้ให้มาผมคิดว่าคงจะไม่ยากเกินไปที่เราจะปรับปรุงให้งานดำเนินไปได้อย่างลงตัว

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจงได้โปรดรับรู้กันใว้ด้วยครับว่า " มีคนเสียสละทำงานดีดีทำหน้าที่ดีดีให้ได้เล่นก็พอแล้ว "

    ฉะนั้นตามสะดวกเจ้าภาพเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้กล้าทุกๆท่านนะครับ

    ผมในฐานะเป็นนักกีฬาไปร่วมงานก็ขอเป็นนักีฬาผู้ร่วมงานอย่างเต็มที่ครับ

    ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ
  • ตอนจัดที่เชียงใหม่ หมาน้อย แต่เริ่มที่ 500 โล ข้ามได้หนึ่งครั้ง เวลาเหลือเฟือ มีพักเบรค

    แต่งานที่เมืองทอง หมาเยอะมากและหลายตัวก็เป็นหมาที่มีประสบการณ์ เราจึงกำหนดไว้ในเบื้องต้นว่า ให้เริ่มที่เท่าไรก็ได้ ข้ามกี่ครั้งก็ได้ และลากไม่ผ่านต้องซ่อมเลย ซึ่งผมก็ยังไม่มั่นใจว่าเวลาจะพอไหม ตอนนี้ที่ยังไม่ได้บอกว่า สโลปเท่าไรเพราะรถกับรางยังไม่เสร็จครับ บ่ายนี้ผมจะเข้าไปเพื่อทำการทดสอบดู แต่ตั้งใจไว้ว่าไม่เกิน 5 เซนต์ครับ

    ถ้าทำสนามแข่งยากเกินไป จนหมาเล็กลากไม่ผ่าน และหมาใหญ่ทำน้ำหนักได้สูงสุดพันกว่าโลก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าน้อยไปลากกันห้าหกตันอันนี้ก็คงเตรียมน้ำหนักไม่ไหวเหมือนกัน ผมว่าจบที่ประมาณสามตันน่าจะกำลังดี แต่ที่ผมไม่กล้าบอกตอนนี้เพราะกลัวหน้าแหกครับ ผมมีข้อกำหนดคือ ต้องจบให้ได้ภายในเวลา เพราะสถานที่คงไม่ปล่อยเราแข่งจนถึงเที่ยงคืนแน่ๆครับ ถ้าจบได้ไม่เกินหนึ่งทุ่มน่าจะกำลังดี

    เจตนาผมอยากให้ทุกคนมางานสนุก อยากให้มีหมาครบทุกรุ่น <25-40 Up ทั้งมือใหม่มีอเก่า หมาใหญ่หมาเล็กได้ร่วมสนุก สนามแข่งต้องไม่ยากเกินไปและก็ไม่ง่ายเกินไป ต่อไปกิจกรรมนี้คงจะขยายตัวออกไปเล่นในหลายๆพื้นที่ <br />
    โปรดใจเย็นอีกนิดครับ
  • เรื่องเวลาเลิก อยากได้ความเห็นจากท่านที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดครับ เพราะงานที่เมืองทองปกติปิดประมาณสามทุ่ม ช่วงหกโมงถึงหนึ่งทุ่มเป็นช่วงที่คนเยอะมากครับ แต่ถ้าทำให้สมาชิกลำบากในการเดินทางอยากให้จบเร็วก็จะพยายามกระชับเวลาให้จบเร็วขึ้น

    ยกตัวอย่างนะครับ
    ปกติเราเพิ่มน้ำหนักที่ละ 100 กก เราก็อาจจะเพิ่มเป็น 200 กก เผื่อไว้ในกรณีเวลาไม่พอ อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ ผมเองก็กังวลใจไม่น้อย ต้องทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ให้ได้ ทั้งนักกีฬา ผู้ชม เจ้าภาพ และสปอนเซอร์
  • ถ้าจะจำกันได้ผมเสนอให้ลากผ่านน้ำหนักแรกที่กำหนด
    ดังนี้
    รุ่น 20-25กิโล ต้องลากน้ำหนักแรก 500 กิโล
    รุ่น 25-30กิโล ต้องลากน้ำหนักแรก 600 กิโล
    รุ่น 30-35กิโล ต้องลากน้ำหนักแรก 700 กิโล
    รุ่น 35-40กิโล ต้องลากน้ำหนักแรก 800 กิโล
    รุ่น 40กิโลขึ้นไป ต้องลากน้ำหนักแรก 900 กิโล

    การที่กำหนดแบบนี้ ผมไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง
    แต่มันเป็นกฎกติกาที่่สมาคมลากน้ำหนักหลายๆที่
    ได้กำหนดเป็นกฎการแข่งขัน

    ซึ่งผมเห็นว่ามันน่าจะทำได้และเป็นการวัดความฟิตของ
    นักกีฬา ซึ่งหากลากผ่านแล้ว
    ผู้เรียกสามารถเรียกน้ำหนักได้เท่าไรก็ได้ที่คิดว่านักกีฬา
    ของท่านจะทำได้หรือทางผู้จัดอาจจะให้ข้ามได้ครั้งล่ะ
    200-300กิโล ตามที่เห็นสมควร

    เป็นหนึ่งข้อคิดเห็นครับ เพื่อรวมกันทำงานลากให้มี
    มาตรฐานและออกมาแบบเป็นกลางมากที่สุดและให้
    ทุกท่านสนุกสนานกับการแข่งขันในครั้งนี้ครับ
  • ขออนุญาติตอบนะครับพี่มาร์ค ในเรื่องของคนต่างจังหวัดที่มาไกล อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

    เรื่งเวลาจบนั้นควรให้อยู่ในกรอบของเจ้าของสถานที่ที่ให้เราจัดงานครับเพราะจะได้ไม่เป็นปัญหาในการขอจัดครั้งหน้า อีกอย่างวันงานเป็นวันเสาร์อยู่แล้วครับ เดินทางกลับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดก็ยังไหวครับ

    ส่วนเรื่องการโหลดน้ำหนัก ( เพิ่มในแต่ละรอบ ) เห็นสมควรที่ 100 กก. ครับ เพราะให้กำลังใจแก่หมาใหม่และเหมาะสมสำหรับหมาที่ต้องการ " วอมอัฟ " ไปในตัวครับ เพราะว่า หมาแต่ละตัวต้องการการวอมเครื่องต่างกันครับ ฉะนั้นแล้วแฮนเลอร์ที่ดีควรสังเกตุและรู้จักในรูปแบบของนักกีฬาของตัวเองครับ

    อนึ่งสำหรับหมาที่ไม่ต้องการลงในรอบไหนที่คิดว่าตัวเองสามารถผ่านได้สบายก็ไม่ต้องลงครับ จะไม่เป็นการเสียเวลาครับ ฉะนั้นจะผ่านกี่รอบกี่รอบก็แล้วแต่ " การตัดสินใจของแฮนเลอร์เองครับ " หากแต่ในบางสนามจะกำหนดน้ำหนักที่ลากขั้นต่ำไว้เช่นว่า ที่ น้ำหนัก 600 กก. หรือ 800 กก. ต้องลงลากครับ

    ถ้ามองในแง่ของการเป็นผู้เล่นกิจกรรมที่ดีแล้ว การทำรูปแบบการแข่งขันอย่างนี้จะสามารถส่งผลให้แฮนเลอร์มีการเตรียมตัวที่ดีเองได้ไม่ต้องมีใครมาคอยจัดตารางอะไรให้ เพราะถ้าในความจริงมันเป็นไปตามตารางได้ก็ดีครับแต่เท่าที่ผ่านมาแม้ท่านจะจัดตารางให้กะชับแค่ไหนก็ตาม " ยังไงก็ยังไม่สามารถทำได้ตามนั้น "

    สิ่งที่สำคัญเราควรเน้นไปที่ ป้ายแสดงข้อมูลการแข่งขันขนาดใหญ่ , นาฬิกาจับเวลาใหญ่ , ตาชั่งที่มาตราฐาน ครับ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกๆท่าน

    ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ

  • เสียดายงานนี้เราไม่มีโอกาสได้ประชุมแบบพร้อมๆหน้ากันสักครั้ง ผมว่ามันจะได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายเห็นด้วยแน่นอนเลย ตอนนี้ทางฝ่ายเจ้าภาพเครียดมาก เพราะไม่รู้ว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร

    หลายข้อเสนอเป็นสิ่งดี แต่อยากได้ความเห็นจากคนที่มีส่วนได้เสียครับ เพราะจะรับไว้หมดก็ไม่ไหว จะปฏิเสธหมดก็ไม่ไหว จึงอยากได้มติร่วมครับ
  • อ้าวสวัสดีครับพี่มุ๊ ข้อมูลของพี่กับของผมใกล้เคียงกันครับ
  • จบงานน่าจะมีปาร์ตี้ใหญ่สักครั้งดีไหมครับ เอาข้อดีข้อเสียจากงานนี้มาคุยกัน งานต่อไปน่าจะง่ายขึ้นครับ
  • แล้วแต่จะกรุณาครับ ปลัดตู่บอกถึงไหนถึงกันครับ :)>-
  • เอาหลังเลิกงานดีไหม หรือว่าทิ้งช่วงให้หายเหนื่อยแล้วจัดงานฉลองทีเดียวเลย
  • พี่มาร์คครับ ฝากบอกทางทีมงานด้วยนะครับว่า " อย่าไปเครียด " เพราะเป็นงานอดิเลกครับ ควรส่งเสริมให้รู้สึกสนุก คนทำงานจะได้ไม่เหนื่อยแถมยังมีกำลังใจกำลังกายในการทำงานอีกครับ
    :-D ;-)
  • น้องๆเขาตั้งใจมาก จนเกร็งไม่กล้าออกมาตอบคำถาม เขาอยากให้จบงานแล้วบรรยากาศเหมือนที่เชียงใหม่ครับ
    พี่เองก็ตั้งใจว่าจะขอเป็นเพียงผู้สนับสนุน ไม่อยากออกหน้ามากนัก แต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่เข้ามาเลยเดี๋ยวจะโดนข้อหาลอยแพอีก ฮ่าๆๆ
  • ถ้าหลังเลิกงานก็เห็นควรอยู่ครับเพราะแฮนเลอร์อยู่กันเยอะดีครับ แต่คงจะเหนื่อยกันหน่อย

    หากเป็นการพูดคุยกันแบบในบรรยากาศ " ผ่อนคลาย " หลังจบงานก็ควรใช้เวลาให้กะชับนิดส์นึ่งครับ

    ส่วนเรื่องข้อดีข้อเสียเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าครับเพราะว่าในบ้างเวลาเราคงต้องการมองย้อนกลับไปดูว่ามันไช่หรือยังกันสิ่งที่ผ่านมาครับ ขอบคุณครับ
  • งั้นขอจำนวนผู้ที่จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงหลังจบการแข่งหน่อย จะได้หาสถานที่รองรับได้ถูกครับ
  • " ยังเติร์ก " ครับ น้องได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ครับ งานนี้สนุกแน่ครับ เชื่อผมสิ แค่พวกน้องๆตั้งใจทำรางลากอันใหม่ผมก็ว่าพวกน้องก็คงได้รับรู้รสชาติแห่ความสนุกและมิตรภาพแล้วหล่ะครับ เพราะไม่มีใครที่ไหนลงทุนลงแรงทำในสิ่งที่ไม่ไช่ตัวเองให้เป็นอย่างสนุกสนาน ถ้าเราไม่สนุกจริงๆ =D>
  • หรือถ้าเอาแบบง่ายๆ ก็ล้อมวงกันในสนามเลย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ได้บรรยากาศด้วย
  • ISAN TEAM ขั้นต่ำ 15 คน ครับ
  • ก็ดีครับ
  • เอ๊ะ แต่ขอ " ตากีล่า " สักขวดนะพี่ ;-)
  • ได้เลยเดี๋ยวจัดให้ครับ ซัดกันในสนามเลยนะ และขอสัญญาจะพายังเติร์กบุกอีสานแน่นอน
  • อุ้ย...............พี่จะบุกอีสานเลยเหรอครับ งั้นเตรียมตัวเลยครับ เสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555 ณ ม.ภาคฯขอนแก่นครับ จะเตรียมวัวหันใว้รอนะครับ ไม่ ไม่ ไม่ เอาเป็นว่า เตรียมทั้งวัวหันและหมูหัน ใว้รอเลยดีกว่าครับ ขอบคุณครับ ;-)
  • ตากีล่าขวดนึงสนุกแน่ งานนี้มีเมาแล้วถอดเสื้อเต้นชัวร์ 555
    ผมจะเตรียมโคโรน่ากับมะนาวไปสมทบ น้องๆ จะได้ชิมกันถ้วนหน้า...
  • ขอบคุณครับท่านเต็ก ( ว้าว..........เราจะได้ลองลิ้มชิมรสโคโรน่ากับมะนาวด้วยนะเนี้ย คริ คริ ) 8->
  • สรุปตามนั้นนะท่านเต็ก และลงปฏิทินไว้แล้ว 4 สค จัดทัพ เคลื่อนพล