ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ขอนอกเรื่องหมาหน่อย ฝากelephantjoeช่วยสำรวจให้หน่อย
  • พอดีเช้านี้กำลังนั่งดูรูปถ่ายใต้น้ำอย่างเพลินๆ ก็ได้รับการติดต่อกับเฮียเหลียงกับJUGKYที่ตอนนี้อยู่ที่เกาะภูเก็ต และเมื่อวานเพิ่งไปดำน้ำกันมา
    ว่า "แย่ละ ยุสสส ปะการังฟอกขาวหมดเลยหวะ" ไม่เหลืออะไรเลย น้ำก็ขุ่น ปลาตัวใหญ่ๆหายหมด มีก็แต่พวกเล็กๆ
    ฟังแล้วน้ำตาแทบไหล เศร้าเลย....

    เลยอยากจะให้ช่วยดูปะการังแถวๆหลีเป๊ะหน่อย ว่าฟอกขาวหรือเปล่า เพราะว่าตุลานี้SCUBAPIT ว่าจะไปดำน้ำทริปใหญ่กันที่ฝั่งอันดามัน
    ยังไงช่วยส่งข่าวหน่อย เป็นห่วงท้องทะเลไทยจิงๆ ต่อไปแล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันเนี่ย:022:
    ไฟล์แนบ
    DSC_9663.jpg 125K
  • ข้อมูลจากไทยรัฐ




    สำหรับในปี 2553 ทช.ได้สำรวจสภาวะการฟอกขาวของปะการังในน่านน้ำไทย ผลปรากฏว่า เกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงผิดปกติ(อุณภูมิปกติประมาณ 28-29 องศาเซลเซียส) โดยพบว่าอุณหภูมิน้ำทะเลสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2553 เป็นต้นมา และอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นถึง 31 องศา เมื่อต้นเดือนเมษายน (อุณหภูมิที่อาจถือว่าเป็นจุดกระตุ้นให้เกิดการฟอกขาวคือที่ 30.1 องศาเซลเซียส หากปะการังอยู่ในสภาพที่อุณหภูมิสูงกว่า 30.1 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานต่อเนื่องเกิน 3 สัปดาห์ จะทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวขึ้น) ซึ่งเริ่มเกิดในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน นอกจากในประเทศไทยแล้ว ยังมีการฟอกขาวของปะการังทั่วภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย ได้แก่ แถบตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา มัลดีฟ ซีเชลส์ พม่า มาเลเซีย และอินโดนีเซียด้วย
    ไฟล์แนบ
    206612.jpg 34K
  • จากการสำรวจข้อมูลในประเทศไทย พบว่าแนวปะการังทุกจังหวัดทางฝั่งอันดามัน เกิดการฟอกขาวมากกว่า 70 % ของปะการังมีชีวิตที่มีอยู่ และหลังจาก 1 เดือน ปะการังที่ฟอกขาวเริ่มตาย 5–40 เปอร์เซ็นต์(ขึ้นกับสถานที่) สำหรับฝั่งอ่าวไทย พบการฟอกขาวรุนแรงเช่นเดียวกับฝั่งอันดามัน โดยบริเวณกลุ่มเกาะตอนบนของจังหวัดชลบุรี(เกาะสีชัง เกาะนก เกาะสาก เกาะครก เกาะจุ่น) พบการฟอกขาวช้ากว่าจุดอื่นๆ
    ไฟล์แนบ
    206613.jpg 30K
  • ปลัดทส. กล่าวต่อไปว่า ปรากฏการณ์ฟอกขาวที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเล เกิดขึ้นระดับภูมิภาคหรือระดับโลก จึงไม่สามารถจัดการใดๆ ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลยืนยันได้ว่า ปะการังฟอกขาวฟื้นตัวได้หากสภาพสิ่งแวดล้อมกลับมาเป็นปกติในระยะเวลาไม่นาน ลักษณะการฟื้นตัวอาจเกิดได้ 2 รูปแบบ คือ

    1. ปะการังที่ฟอกขาวสามารถทนสภาพที่อ่อนแอได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง หากอุณหภูมิน้ำลดลง ปะการังที่ฟอกขาวอยู่นั้นก็สามารถดึงสาหร่ายซูแซนเทลลี่สามารถกลับเข้าสู่เนื้อเยื่อ และสามารถฟื้นตัวมีสีดังเดิม กระบวนการฟื้นตัวของแนวปะการังแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้เร็วภายใน 2-3 เดือน เมื่ออุณหภูมิลดลงสู่สภาพปกติ(อุณหภูมิลดลงได้เนื่องจากลมมรสุมเข้าหรือมีเมฆฝนมาก) แต่หากสภาพแวดล้อมยังไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ปะการังบางชนิดจะเริ่มตายลง โดยสามารถสังเกตได้จากเริ่มเห็นสาหร่ายและตะกอนที่ขึ้นคลุมปะการัง
    ไฟล์แนบ
    206614.jpg 31K
  • 2. กรณีที่ปะการังที่ฟอกขาวได้ตายไป พื้นที่แนวปะการังที่เสื่อมโทรมลงจากการตายของปะการังเนื่องจากการฟอกขาวก็ ยังสามารถฟื้นตัวได้ โดยมีตัวอ่อนปะการังเข้ามาเกาะในพื้นที่ หรือปะการังบางชนิดที่ยังเหลืออยู่ค่อย ๆ เจริญเติบโตครอบคลุมแนวปะการัง กระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี เป็นอย่างน้อย แนวปะการังจึงกลับมามีสภาพดีดังเดิม ทั้งนี้พื้นที่นั้นต้องมีสภาพแวดล้อมเหมาะสม มีคุณภาพน้ำดี เช่น น้ำใสสะอาด ปราศจากการรบกวนของกิจกรรมของมนุษย์ มีพื้นแข็งสำหรับตัวอ่อนปะการังลงยึดเกาะเพื่อเจริญเติบโต รวมทั้งมีระบบนิเวศที่ยังอยู่ในสภาพสมดุล ไม่มีการจับปลาหรือสัตว์ที่กินสาหร่ายออกจากพื้นที่มากเกินไป(เนื่องจากสาหร่ายที่คลุมตามพื้นจะทำให้ตัวอ่อนของปะการังไม่สามารถลงเกาะ ได้ รวมทั้งแก่งแย่งพื้นที่การเจริญเติบโตของปะการัง) แต่หากสมดุลของระบบนิเวศสูญเสียไป การฟื้นตัวของแนวปะการังจะเกิดขึ้นได้ช้ามาก หรือไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
    ไฟล์แนบ
    206615.jpg 30K
  • ทำมัยต้องเป็นแบบนี้ สงสารปะการังจัง โลกใต้น้ำกำลังจางหายไป

    หือ หือ ...:002::002:
  • คำว่าวันสิ้นโลกคงยังไกลเกินตัว แต่ธรรมชาติไทยสิ้นจากแผ่นดินไม่ไกลเกินฝันแล้วครับ


    เห็นมากับตาได้แค่เสียดายธรรมชาติ นี่กระมังธรรมชาติลงโทษ เศร้า
  • ผมคุยกะเฮียเหลียงนะป๋า
    ตอนแรกกันยานี้ ผมก็ว่าจะไปกองหินโลซินกับเฮียเหลียงกะจั๊กกี้นะป๋า แต่ขอเช็คคลื่นลมก่อน
    แต่ล่าสุดพอเฮียไปคุยกะครูเอ๋ เค้าว่าปีนี้เรือเค้า งด ไป เรือไม่พร้อม แต่พอเฮียเค้าถามคะยั้นคะยอไปเรื่อยๆ
    ครูเอ๋ ถึงยอมสารภาพ ว่าที่ไม่ไปก็เพราะว่า โลซินไม่เหลือแล้วเช่นกัน
    แต่ตัวเขาพูดตรงๆไม่ได้ เพราะมันจะกระทบต่อคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการดำน้ำ

    ลองคิดดูว่า ถ้าปะการังหมดไปจากทะเลไทย ไม่ใช่เพียงแค่เราไม่มีที่เที่ยวนะ ป๋า แต่เศรษฐกิจจะไปขนาดไหน ...

    เศร้ารอบสอง:002:
    ไฟล์แนบ
    DSC03074.JPG 78K
  • อะ..เฮียมาพอดีเลย
    นี่สดจากภูเก็ตเลยนะเนี่ย
    เฮียถ่ายรูปยอดกอง SHARK POINT มาป่าว เดิมที่เป็นแบบนี้ ตอนนี้เป็นยังไง เฮีย.....
    ไฟล์แนบ
    PA041000.jpg 101K
    PA040996.jpg 90K
  • ถามหน่อยที่ว่าฟอกขาว นี่มันแค่เปลี่ยนสีชั่วคราวใช่ป่าว ถ้าน้ำเย็นมันก็จะมามีสีเหมือนเดิมถูกต้องไม๊เสี่ยยุท..........
  • ข่าวร้าย ...... เศร้าใจวะ
  • ปะการังถ้าถ้าฟอกขาวแล้ว จะตายเน่นอนกือบร้อยเปอร์เซ็น
    เนื่องจากปะการังเป็นสัตว์หากตาย/ฟอกขาวก็คือหยุดการเจริญเติบโต
    และรอการย่อยสลายตามกาลเวลา
  • เกิดจากมนุษย์เราทุกคนใช้พลังงานเกินจำเป็น ทั้งตัดไม้ทั้งควันรถไอเสียโรงงานอุตสาหกรรมสารเคมีต่างๆเลยทำให้โลกร้อน
    คือเราทุกคนมีส่วนเร่งให้โลกเราหมดอายุมากขึ้นทุกวัน

    เรารู้กันหมดแล้วแหละที่ผมพูดไป อเมริกาเลยตัวดีเป็นประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกเยอะสุดในโลก

    นอกเรื่องต่อ

    อเมริกากล่าวหาจีนรังแกทิเบต(ผมก็เห็นด้วย)แต่อเมริกาเองก็ฆ่าชาวอินเดียนแดงจนจะสูญพันธุ์เพื่อยึดประเทศเขา
    อเมริกาว่าซัดดัมว่าฮิตเลอร์ แต่อังกฤษ(อเมริกา)ก็ไปฆ่าชาวอะบอริจิ้นจนจะสูญพันธุ์เพื่อยึดออสเตรเลีย
    อเมริกาต่อต้านอาวุธเคมีแต่มันก็เอาฝนเหลืองมาทำให้คนเวียตนามเป็นมะเร็งเป็นง้อยมาจนถึงทุกวันนี้
    อเมริกาห้ามประเทศอื่นพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์(ผมเห็นด้วย)แต่อเมริกาเองกลับทดลองเองจนรู้หมดแล้วว่าจะทำยังไง
    อเมริกาชอบตรวจสอบคนอื่นแต่ไม่มีใครกล้าไปตรวจมัน
    อเมริกาให้ชาวโลกช่วยกันลดการใช้พลังงานลดโลกร้อนแต่ไม่ดูแลประเทศตัวเอง

    ประเทศที่ชอบแก้ปัญหาเพราะเข้าใจปัญหาเพราะมันอยู่กับปัญหาของตัวมันเองมาโดยตลอดมันเลยสงวนสิทธิ์ที่จะสร้างปัญหาของมันเองประเทศเดียว โดยสื่อวารสารบทความ นักวิชาการต่างๆของมันให้ประเทศอื่นดูแลโลกไว้ให้มันใช้ประเทศเดียว

    อาจจะมีปัจจัยอื่นที่ผมไม่รู้จริงแต่เป็นความเชื่อส่วนตัวน่ะครับ
  • http://www.vcharkarn.com/vnews/153102


    ปะการังฟอกขาว ยังฟื้นตัวได้ ถ้าสิ่งแวดล้อมปกติ

    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยผลสำรวจสถานการณ์ปะการังฟอกขาว ชี้สาเหตุหลักเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น แต่สามารถฟื้นตัวได้หากสภาพสิ่งแวดล้อมกลับมาเป็นปกติ...

    นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ได้ดำเนินงานวิจัยเกี่ยวกับปะการังฟอกขาวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และยังได้ร่วมงานวิจัยกับนักวิจัยต่างประเทศ เช่น การศึกษาพันธุกรรมของสาหร่ายซูแซนเทลลี่ ที่อยู่ในปะการังที่ทนต่อการเกิดฟอกขาว การศึกษาอิทธิพลของคลื่นใต้น้ำที่นำมวลน้ำเย็นกระทบแนวปะการังซึ่งอาจทำให้ ปะการังปรับตัวทนทานต่อการเกิดฟอกขาว

    สำหรับในปี 2553 ทช.ได้สำรวจสภาวะการฟอกขาวของปะการังในน่านน้ำไทย ผลปรากฏว่า เกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงผิดปกติ(อุณภูมิปกติประมาณ 28-29 องศาเซลเซียส) โดยพบว่าอุณหภูมิน้ำทะเลสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2553 เป็นต้นมา และอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นถึง 31 องศา เมื่อต้นเดือนเมษายน (อุณหภูมิที่อาจถือว่าเป็นจุดกระตุ้นให้เกิดการฟอกขาวคือที่ 30.1 องศาเซลเซียส หากปะการังอยู่ในสภาพที่อุณหภูมิสูงกว่า 30.1 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานต่อเนื่องเกิน 3 สัปดาห์ จะทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวขึ้น) ซึ่งเริ่มเกิดในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน นอกจากในประเทศไทยแล้ว ยังมีการฟอกขาวของปะการังทั่วภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย ได้แก่ แถบตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา มัลดีฟ ซีเชลส์ พม่า มาเลเซีย และอินโดนีเซียด้วย

    จากการสำรวจข้อมูลในประเทศไทย พบว่าแนวปะการังทุกจังหวัดทางฝั่งอันดามัน เกิดการฟอกขาวมากกว่า 70 % ของปะการังมีชีวิตที่มีอยู่ และหลังจาก 1 เดือน ปะการังที่ฟอกขาวเริ่มตาย 5–40 เปอร์เซ็นต์(ขึ้นกับสถานที่) สำหรับฝั่งอ่าวไทย พบการฟอกขาวรุนแรงเช่นเดียวกับฝั่งอันดามัน โดยบริเวณกลุ่มเกาะตอนบนของจังหวัดชลบุรี(เกาะสีชัง เกาะนก เกาะสาก เกาะครก เกาะจุ่น) พบการฟอกขาวช้ากว่าจุดอื่นๆ

    ข้อสังเกตอื่นๆ ที่พบคือ บริเวณที่สิ่งแวดล้อมดี มีปะการังหลากหลายมักพบปะการังฟอกขาวไม่เต็มที่ บริเวณที่มีสิ่งแวดล้อมดีในน้ำลึก มีแนวโน้มฟอกขาวน้อยกว่าในบริเวณน้ำตื้น ส่วนบริเวณน้ำขุ่นแต่การไหลเวียนของกระแสน้ำดี ก็พบว่ามีปะการังที่ไม่ฟอกขาวเลยโดยเฉพาะในที่ลึก ซึ่งน่าจะเกิดจากการปรับตัวให้ทนทานต่อสิ่งแวดล้อม และความขุ่นของน้ำยังช่วยลดปริมาณแสงลงด้วย และแนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์พบว่ามีการฟอกขาวมากกว่าปกติ ส่วนแนวปะการังบริเวณฝั่งตะวันตกตามเกาะต่างๆ ทางฝั่งอันดามัน มีแนวโน้มการเกิดฟอกขาวน้อยกว่าด้านอื่นๆ ของเกาะ ซึ่งอาจเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของมวลน้ำจากทะเลลึกที่เข้ามาช่วยบรรเทาผล ของอุณหภูมิน้ำทะเล นอกจากนี้ยังพบว่าปะการังลายดอกไม้ (Pavona decussata) ปะการังดาวใหญ่(Diploastrea heliopora) และ Leptastrea transversa เป็นชนิดที่มีแนวโน้มต้านทานต่อการฟอกขาวได้ดี
  • ปลัดทส. กล่าวต่อไปว่า ปรากฏการณ์ฟอกขาวที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเล เกิดขึ้นระดับภูมิภาคหรือระดับโลก จึงไม่สามารถจัดการใดๆ ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลยืนยันได้ว่า ปะการังฟอกขาวฟื้นตัวได้หากสภาพสิ่งแวดล้อมกลับมาเป็นปกติในระยะเวลาไม่นาน ลักษณะการฟื้นตัวอาจเกิดได้ 2 รูปแบบ คือ

    1. ปะการังที่ฟอกขาวสามารถทนสภาพที่อ่อนแอได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง หากอุณหภูมิน้ำลดลง ปะการังที่ฟอกขาวอยู่นั้นก็สามารถดึงสาหร่ายซูแซนเทลลี่สามารถกลับเข้าสู่เนื้อเยื่อ และสามารถฟื้นตัวมีสีดังเดิม กระบวนการฟื้นตัวของแนวปะการังแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้เร็วภายใน 2-3 เดือน เมื่ออุณหภูมิลดลงสู่สภาพปกติ(อุณหภูมิลดลงได้เนื่องจากลมมรสุมเข้าหรือมีเมฆฝนมาก) แต่หากสภาพแวดล้อมยังไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ปะการังบางชนิดจะเริ่มตายลง โดยสามารถสังเกตได้จากเริ่มเห็นสาหร่ายและตะกอนที่ขึ้นคลุมปะการัง

    2. กรณีที่ปะการังที่ฟอกขาวได้ตายไป พื้นที่แนวปะการังที่เสื่อมโทรมลงจากการตายของปะการังเนื่องจากการฟอกขาวก็ ยังสามารถฟื้นตัวได้ โดยมีตัวอ่อนปะการังเข้ามาเกาะในพื้นที่ หรือปะการังบางชนิดที่ยังเหลืออยู่ค่อย ๆ เจริญเติบโตครอบคลุมแนวปะการัง กระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี เป็นอย่างน้อย แนวปะการังจึงกลับมามีสภาพดีดังเดิม ทั้งนี้พื้นที่นั้นต้องมีสภาพแวดล้อมเหมาะสม มีคุณภาพน้ำดี เช่น น้ำใสสะอาด ปราศจากการรบกวนของกิจกรรมของมนุษย์ มีพื้นแข็งสำหรับตัวอ่อนปะการังลงยึดเกาะเพื่อเจริญเติบโต รวมทั้งมีระบบนิเวศที่ยังอยู่ในสภาพสมดุล ไม่มีการจับปลาหรือสัตว์ที่กินสาหร่ายออกจากพื้นที่มากเกินไป(เนื่องจากสาหร่ายที่คลุมตามพื้นจะทำให้ตัวอ่อนของปะการังไม่สามารถลงเกาะ ได้ รวมทั้งแก่งแย่งพื้นที่การเจริญเติบโตของปะการัง) แต่หากสมดุลของระบบนิเวศสูญเสียไป การฟื้นตัวของแนวปะการังจะเกิดขึ้นได้ช้ามาก หรือไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย

    สำหรับระยะเวลาการฟื้นตัวของแนวปะการังจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการฟอกขาว ปริมาณและความหลากหลายของชนิดปะการังที่เหลืออยู่ในบริเวณนั้นๆ การกระจายตัวอ่อนจากบริเวณใกล้เคียง และที่สำคัญที่สุดคือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการฟื้นตัวและการเจริญเติบโตของปะการัง

    “การดำเนินการและการจัดการพื้นที่แนวปะการังที่ได้รับผลกระทบจากการ ฟอกขาว ควรส่งเสริมการฟื้นตัวตามธรรมชาติของปะการังหลังการเกิดฟอกขาวโดยการจัดการ พื้นที่ เช่น การงดกิจกรรมใดๆ ที่รบกวนปะการัง เพิ่มความระมัดระวังในการใช้ประโยชน์จากแนวปะการัง โดยเฉพาะระยะแรกๆ หลังการเกิดฟอกขาว ในระยะยาวที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวตาม ธรรมชาติของปะการัง การเข้าฟื้นฟูโดยมนุษย์อาจกระทำได้โดยใช้วิธีการที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละบริเวณ และควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ ควรเฝ้าระวังรักษาแนวปะการังที่สามารถต้านทาน หรือทนทาน ต่อการเกิดปะการังฟอกขาวให้เป็นแหล่งกระจายตัวอ่อนของปะการังตามธรรมชาติ ส่วนมาตรการระยะยาว อื่นๆ ที่ต้องทำคือ การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภาวะคุกคามต่อแนวปะการังเนื่องจากภาวะโลกร้อน” ปลัด ทส. กล่าว
  • เห็นข้อมูลแล้วไม่สบายใจเลยพี่ :017:

    เดี๋ยวผมสอบถามให้ครับพี่ยุทธ สิ้นเดือนนี้ผมกลับใต้พอดี

    ขอให้เป็ฯไปในทางที่ดีไว้ก่อน เพราะที่ผ่านๆมา หากอะไรเกิขึ้นกับธรรมชาติแถวๆรอบๆเกาะหลีเป๊ะ มักจะฟื้นตัวเร็วหน่อย

    แต่ระยะหลังๆ มันดูจะฟื้นตัวช้าลง แต่ไม่ถึงกับแย่มาก

    พอฟังข้อมูลตัวนี้ของพี่ยุทธและเฮียเหลียงแล้ว ..... กลุ้มครับ :014:
  • ดีใจที่ยังมีคนห่วงทะเลเหมือนกันกับพวกเราเยอะเลย ถือโอกาสชวนเลย ถ้าว่างๆมีโอกาสลองไปสัมผัสกับโลกใต้ทะเลดูครับ แล้วคุณจะรักมันมากกว่านี้ เชื่อผม:033:

    ปรากฏการณ์นี้มันไม่ได้เกิดจากคนเพียงคนเดียว แต่มันเกิดจากโลกของเราร้อนเกินไป
    ก็หวังว่าคงจะไม่หมดทะเลนะครับ เหลือไว้ให้พวกผมได้เที่ยวบ้างก็ยังดีนะ:005:

    ฝากELEPHANTJOEส่งข่าวด้วยนะ ถ้าที่นั่นยังกระทบไม่มาก เราได้เจอกันแน่ๆ ตุลานี้:063:
    ไฟล์แนบ
    _mg1.jpeg-6-2.jpg 125K
  • สวัสดีป๋า สวัสดีเฮียใหญ่
    ดูภาพล่าสุดเมื่อปลาย พค.ปีนี้ ที่เกาะเต่าดิ หมดเลย
    ขอบคุณภาพจาก SIAMSCUBADIVING.COM
    ไฟล์แนบ
    12767876293709.jpg 95K
  • เทียบกันดิ ปีนี้กับปีที่แล้ว
    ไฟล์แนบ
    12772912123709.jpg 84K
    DSC_0649.jpg 125K
  • น่าเสียดายครับที่ผมยังดำน้ำไม่เป็น แต่นี่ก็เปนเหตุผลที่ผมกำลังจะเร่งเรียนแล้วหละครับ

    รีบไปโลกใต้สมุทร ก่อนที่ ความสวยงามจะเลือนหายไป