ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ขายลูกชิบะ อินุ นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวนจำกัด
  • ลูกสุนัข ชิบะ อินุ นำเข้าจากต่างประเทศ มีเพียง 4 ตัว สนใจรีบติดต่อด่วน ช้าอด สั่งอีกทีรอเป็นเดือน หรือนานกว่านั้น สนใจโทร 081-344-5403 ราคาตัวละ 4.5 หมื่นทุกตัวครับ ขอเป็นผู้ที่สนใจจริงๆนะครับ หากกรณีสุนัขหมด ต้องจองล่วงหน้า เพราะทางผู้นำเข้าต้องใช้เวลาในการจัดหาพอสมควร
    ไฟล์แนบ
    Ban1.jpg 61K
    LacieNMe3.jpg 101K
    Thailand-Shiba2.jpg 40K
    Thailand-Shiba1.jpg 27K
  • หน้าตาเหมือนหนังเรื่อง ฮาชิ เลย
  • ขอโทษนะคับ นี่ชิบะ หรือ ไอ้ด่างวัดดอนคับ
  • ที่นี้เขาเลี้ยง พิทบลูกัน ไปปปปป
  • สภาพดูไม่ได้ เคยขายหมาอยู่จตุจักรแน่เลย

    1500 ไปขาดตัว
  • มันก็เป็นซะแบบนี้ ทำไมต้องไปก่อกวนเขาด้วยครับ
    อย่าเอาความเสรีมาใช้โดยพร่ำเพรื่อเลยครับ
  • นี้มันไอ้เขียวเงินอ่ะเปล่าครับ ฮ่าๆ
    ปล.สวยทุกตัวเลย
  • ปิดการขาย หมดแล้วครับ ขอบคุณครับ
  • เป็นหมาที่เคยอบากเลี้ยงเลยครับ แต่สู้ราคาไม่ไหว แต่ก่อนแพงยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยั่งงั้น
  • ขอโทษนะครับก่อกวนตรงไหนครับ

    หมาสภาพแบบนี้ รูปพ่อแม่ก็ไม่มีให้ดู

    เหตุผลที่มีผีเพื่อเอาไว้โต้แย้งไม่ใช่เหรอครับ
  • คงไม่ต้องทะเลาะกันมั้งครับ มีเจ้าของหมดแล้ว เรื่องเล็กๆ อย่าให้เป็นเรื่องเลยครับพี่ผี พี่มาร์คครับ เป็นไปได้ลบกระทู้ไปเลยละกันครับ เดี๋ยวจะยาว เชื่อว่าพี่ผีเองก็คงไม่ได้สนใจจริงๆหรอก จริงมั้ยครับ เรื่องแบบนี้คนที่เค้าสนใจจริงๆ เค้ามีวิธีดีๆอีกหลายอย่าง เบอร์โทรก็มีให้ ราคาก็ลงไว้ อยากมีตัวตน ลงชื่อแล้วเข้ามาวิจารณ์ก็ไม่มีใครว่าหรอก เรื่องสภาพหมาแบบไหน นั้น ไม่ได้เห็นด้วยตา ก็อย่าเพิ่งวิจารณ์สิครับ แตยังงัยก็ขอบคุณพิทบูลโซนครับ ถือว่าเป็นสีสัน นะครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม
  • ขนาดหมาสภาพแบบนี้นะเนี่ย เฮอๆ...ราคา 45K ครึ่งวันก็หมดแล้ว ...หุหุ ของเค่าดีจริง :063:
  • ล็อตหน้าอย่าลืมยีนละพี่เบริธ

    ไม่เอาหน้าดำนะพี่ เดี๋ยวมาซ้ำกับคนอื่นเค้า 5 5 5

    ส่วนกระโหลกนะครับถ้าอย่างนี้ยังดูไม่ออกว่าก่อกวนตรงไหนก็ คุณก็สุดจะพรรณณาเเล้วละครับ

    จะดูพ่อเเม่ก็บอกเค้าสิครับเบอร์ก็ลงอยู่ ส่วนชิบะเนี่ยหาได้ต่ำกว่า 4 หมื่นก็เก่งเเล้วครับ

    ไม่ต้องรอรูปพ่อเเม่เลย ครั้งนี้ขอเลียซะหน่อยน่ะอย่าว่านะพี่มาร์ค 5 5 5 :o022:
    ไฟล์แนบ
    195.jpg 39K
  • ผมเช็คราคาจากคนญี่ปุ่นละเค้า ซื้อมาเป็นเงินไทยก็เกือบ 50k แต่ถ้าใครไม่เชื่อลองเช็ค แต่เป็นสีขาวดำนะ *-* ผมยังอยากได้เลย แต่คิดอีกนี้หมาขน ไม่ค่อยชอบ แต่เรื่องความซื่อสัตว์นี้ไว้ใจได้ครับ

    ส่วนคุณ sorajin41 ไอ้เขี้ยวเงินมัน อคิตะ ม่ะช่ายหรอครับ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยครับ ^^
  • สวยใช้ได้ วันข้างหน้ามันจะถูกรึป่าวครับ ถูกกว่านี้ก็หน้าสน

    ตอนนี้ก็สนนะครับแต่เงินไม่ถึง (แฟนอยากได้)

    ดีนะครับหมดแล้วไม่งั้น สงสัยเดือนร้อนเงินค่าอาหารพิทบูลแน่เลย
  • พันธุ์ดังในเรื่องซื่อสัตย์ ไม่ต่างจาก บางแก้ว

    แต่ความก้าวร้าว แพ้ บางแก้วขาด
  • CommentAuthorMushachi71 CommentTime1 ชั่วโมงก่อน | August 14, 2010, 9:28 pm
    ผมเช็คราคาจากคนญี่ปุ่นละเค้า ซื้อมาเป็นเงินไทยก็เกือบ 50k แต่ถ้าใครไม่เชื่อลองเช็ค แต่เป็นสีขาวดำนะ *-* ผมยังอยากได้เลย แต่คิดอีกนี้หมาขน ไม่ค่อยชอบ แต่เรื่องความซื่อสัตว์นี้ไว้ใจได้ครับ

    ส่วนคุณ sorajin41 ไอ้เขี้ยวเงินมัน อคิตะ ม่ะช่ายหรอครับ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยครับ ^^
    _________________________________________________________________________________________________

    ครับ...ผมเองก็ไม่รู้ว่า ไอ้เขี้ยวเงินมานพันธุ์อะไร จำได้แค่ตอนเด็กๆชอบดูมาก อิอิ
  • บางแก้วดุมากครับคอนเฟิม:067:
  • ไอ้เขี้ยวเงิน คือ เจแปนนิส อคิตะครับ ตัวใหญ่กว่าบางแก้ว ความดุก็น้อยกว่า แต่ความซื่อสัตย์ ไม่มีพันธุ์ไหนน้อยกว่ากันหรอกครับ
    ที่แพงไม่ใช่เพราะเพาะยาก หรือเอาเข้ายากอย่างที่เข้าใจกันครับ ไม่มีอะไรยากเกินความต้องการของมนุษย์หรอก อิอิ ที่มันหายากเพราะหน้าตามันคล้ายหมาไทย หมาข้างถนนในบ้านเรา พวกที่ทำธุรกิจเพาะสุนัขขายเค้าไม่ทำกัน เพราะโอกาสเสี่ยงมันสูง ที่จะเจ๊งครับ มันเลยกลายเป็นสุนัขที่หายาก ไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรา เหมือนหมาไทยเรานี่แหละ ไม่เตี้ย ไม่ย่น ไม่อ้วน ขายยาก แต่ลองไปดูในยุโรป ในเมกาสิครับ หมาไทย หรือหมาจากเอเชีย พวก Wolf/Fox type หรือพวก Primitive Dog บ้านๆของเรา ราคาแพงมากๆๆๆๆ มันก็คงอารมณ์ของแปลกบ้านเค้า แต่ที่สำคัญเลย ฝรั่งมีจุดเด่นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ทรยศความรู้สึกตัวเอง เราจึงเห็นสุนัขหลายๆพันธุ์ในเมืองนอกถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่แคร์กระแส เหมือนบ้านเรา บรีดเดอร์คนนึงบรีดหมาพันธุ์เดียว20-30 ปี หรือจนตายกันไปข้างลูกหลานเอามาทำต่อ แบบมรดกตกทอดขนาดที่ว่าหมาจากคอกพวกนี้ราคามหาโหด จองกันเป็น 2-3ปี ต้องส่งภาพถ่ายบ้านหรือฟาร์ม ไปให้เค้าดูประกอบการตัดสินใจ มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ บางคอกต้องไปรับหมาด้วยตัวเอง ถ้าบ้านเราทำแบบนี้ได้บ้างเราคงไม่ต้องขาดดุลย์ เอาเงินออกไปซื้อหมาเหมือนทุกวันนี้ มันเหมือนว่าลูกค้าไม่ได้ไปซื้อหมาจากเค้า แต่ไปรับเอาของที่มีค่ามากๆๆๆ ใครได้ไปก็ภูมิใจ
    ไม่แน่ครับ วันนึงถ้าพวกเรามองเห็นคุณค่าของสุนัขที่เราเลี้ยงไม่ตามใคร เราอาจเห็นสุนัขแปลกๆดีๆในราคาเหมาะสมก็ได้ครับ
    ไฟล์แนบ
    hlava[1].jpg 17K
  • ขอ ตอบ ท่าน ผีคับ เสรี ได้ แต่อย่าไร้ สาระ คับ เพราะ จาก ที่อ่าน มา พวก ท่าน ตอบ แบบ

    เอามัน อย่างเดียว ไม่ไหว คับ แบบนี้
    ......................................

    Ultradog มีรูปอคิตะ งามๆ บ้างหรือเปล่าคับ

    แล้วมันเป็นหมาล่าหมี เหมือน ใน การ์ตูน หรือเปล่าครับ อยากทราบ
  • มีเยอะครับ แต่เกรงว่าเอามาลงในนี้เยอะๆมันไม่เกี่ยวกับพิทบูล จะโดนผีดุเอาครับ เอาเป็นว่าอยากได้ทิ้งเมลล์ไว้เดี๋ยวผมส่งให้ดีกว่า
    ที่ลงเป็นเจแปนนิส อคิตะ นะครับ
    เรื่องล่าหมีนั้นคงเป็นในอดีตมั้งครับ เพราะส่วนใหญ่หมาพวกนี้ในสมัยก่อนเค้าเอาไว้ล่าสัตว์ แต่ก็น่าจะไม่ได้เป็นสัตว์ใหญ่ขนาดหมีนะครับ ถ้าเอาไว้ป้องกันหมีที่จะเข้ามาในหมู่บ้าน อันนี้น่าเชื่อครับ เพราะเห็นพวกโดโก เค้าก็เอาไว้ล่าหมูป่า คงแนวๆนั้น
    ไฟล์แนบ
    ib_p001_6_4.jpg 24K
    ib_p001_0_10.jpg 38K
    350px-Japanese-Akita-Inu.jpg 33K
  • อเมริกัน อคิตะครับ
    ไฟล์แนบ
    zacrunning1.jpg 87K
    parker235.jpg 37K
    parker149.jpg 56K
    regime.jpg 96K
  • Ultradog CommentTime7
    นี้ คับ khajohn-003@hotmail.com

    ขอบคุณคับ
  • ขนฟูน่ากอด
  • วูววว+++ เจแปนนิส อคิตะ สวยโคตรๆ ....เล่าต่อครับ ความรู้ทั้งนั้น เลี้ยงพิทไม่จำเป็นต้องมีความรู้แค่เรื่องพิท ถ้ารู้แค่พิทอย่างเดียวไม่เปิดสมองรับเรื่องอื่นก็โง้ตายแล้ว...ต่อเลยครับ อย่างไปสนใจพวกปากหมา
  • เหมือนในหนังเรื่องฮาชิ เลย

    ดูแล้วร้องไห้เลยซึ่งมาก

    อยากได้น่ารัก
  • ขนสวยดีครับ
  • อคิตะ จะไม่คาบของให้จะไม่เล่นกับเจ้าของ แต่เค้าทำด้วยความซื่อสัตย์ ( ชักมั่ว ฮ่าๆเอามาจากหนังครับ ) เห็นว่าขนเค้าฟูแต่ไม่ยาวมาก ผมว่าโครตน่ากอดเลย เคยคิดว่าจะสั่งเข้าเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมา ขนเต็มบ้านแน่เลยกู เลยบะบาย แค่พิทตัวเดียวก็มหาโหดกับแมวที่บ้านทุกวันจะบ้าตาย
  • ปัจจุบันผู้เลี้ยงสุนัขยุคใหม่มีความพยายามมากที่จะพัฒนาจิตประสาท และมีการสอบคัดพันธุ์โดยการเน้นเรื่อง การทดสอบจิตประสาท(Temperament Test) เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญ นอกเหนือจากโครงสร้าง และ โรคทางพันธุกรรม เพราะในปัจจุบันสุนัขในสังคมเมืองมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ในชุมชนที่มีความหนาแน่นสูง การเน้นเรื่องจิตประสาท และเชื่อฟังคำสั่งจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย หากอย่างใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นสุข ทั้งคนและสุนัข รวมถึงเพื่อนบ้านสิ่งแรกที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของ การคัดพันธุ์ที่จะลดการก่อให้เกิดปัญหาเรื่อง การสร้างสุนัขที่จิตประสาทเข้มแข็ง และสติปัญญาดี คือหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์ในเครื่อญาติแบบหลายชั้น เพราะผลลัพธ์ที่จะได้จากการทำแบบนั้น คือ การพยายามสะสมลักษณะด้อยทางสายพันธุ์และสติปัญญา จริงอยู่ที่ผู้เพาะพันธุ์อาจได้การคงอยู่ของลักษณะทางกายภาพ (Phenotype) และ พันธุกรรมในระดับของยีนส์ (Genotype) แต่ของแถมที่มาด้วยนั่นก็คือ สติปัญญา อารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งถ่ายทอดกันมาได้ราวกับว่าผ่านเครื่องถ่ายสำเนามาทีเดียว ท่านเคยสังเกตกันหรือไม่ สุนัขที่พ่อแม่ มีประวัติในเรื่องการกัด เห่าอย่างไร้เหตุผล มันมักจะเป็นมรดกตกทอดมายังลูกหลาน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าการทำแบบนี้ทั้งหมดไม่ดี ในกรณีของสุนัขใช้งานในราชการทหาร ตำรวจ อย่างพวก เยอรมันเชพเพิร์ด โดเบอร์แมน มีความจำเป็นอย่างมากที่ลูกสุนัขจะต้องมีประวัติทางสายพันธุ์ที่เป็นสุนัขที่มีจิตประสาทมั่นคง เชื่อฟัง พร้อมที่จะกัด เห่า เมื่อสั่ง และพร้อมจะปล่อย หรือหยุดเมื่อห้าม แต่ในทางกลับกัน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเกิดในสุนัขที่มีความด้อยทางสติปัญญา เห่าแม้กระทั่งใบไม้ จิ้งจก หรือ กัดอย่างไม่มีเหตุผล แม้กระทั่งเจ้าของ อยากเห็นคนไทยช่วยกันเอาใจใส่และเน้นในเรื่องนี้มากพอๆกับความพยายามที่จะคงลักษณะเด่นทางร้างกาย หรือลักษณะภายนอก เพราะในปัจจุบัน พิทบูล หรือ บูลลี่ นิยมที่จะใช้การผสมพันธุ์ในเครือญาติชั้นใกล้ชิดบ่อยๆ จนเป็นเรื่องสนุก โดยอาจจะลืมไปว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการที่เรียกว่าพัฒนาสายพันธุ์ แบบนั้นเราอาจกำลังถอยหลังลงคลองอยู่ก็เป็นได้ เพราะเราจะได้ประชากรสุนัขที่มีความด้อยทางสติปัญญา มากกว่าความสวยงามภายนอก
  • เอาบทความจาก คุณภูมิพิทักษ์ แห่ง ศูนย์ฝึกสุนัข บางนา มาฝาก เกี่ยวกับเรื่อง จิตประสาทของสุนัข

    ปกติไม่ปกติ วัดกันตรงไหน - หลักเกณฑ์ การทดสอบจิตประสาท
    โดยภูมิพิทักษ์

    เพียงวันเดียวที่บทความเกี่ยวกับจิตประสาทบกพร่องเริ่มออกเผยแพร่ ก็มีนรู้จักในกวงการโทรมา โป๊งเบ๊ง ถกเถียงกับข้าพเจ้า
    ถามข้าพเจ้า ว่ารู้ได้อย่างไรว่า หมาตัวที่กัดน้องนิน่า ตายจิตประสาทบกพร่อง ข้าพเจ้าก้ตอบว่า ถ้าไม่เรียกว่า จิตประสาท
    บกพร่องจะให้เรียกว่าอย่างไร ถ้าเป็นที่เยอรมมัน เราจะเรียกว่า Temperament fehler หรือ Wesenmamgel ซึ่งก็คือสิ่งเดียว กันนั้นเอง

    จิตประสาทบกพร่องแสดงออกมาให้เห็นเป็นอุปนิสัยบกพร่องซึ่งเป็นเหมือนสองหน้าของเหรียญเดียวกัน และไม่เกี่ยวกับโรคกลัวน้ำ
    หรือที่เรียกว่า Rabies

    เราก็ถามต่อวา มันเป็นความผิดของหมาหรือ ข้าพเจ้าก้ตอบว่าใช่ เพียงแต่เจ้าของไม่รู้ไม่เขาใจจึงไม่ได้ป้องกัน ถ้าพ่อเขาอยู่
    แล้วตะปบหมาได้ทัน ก็จะนำมันไปยิงทิ้งแน่นอน ตามจริงข้าพเจ้าน่าจะอธิบายต่อวา มันเกิดจากยีนที่ผิดปกติ ในตัวหมา
    ถ้ายีนมันปกติเรืองคงไม่เกิดขึ้น

    พอการถกเถียงเริ่มร้อนแรงขึ้น เขาก็บอกว่า เด็กน่าจะไปแหย่หมาจนหมาโกรธแค้น และวันนั้นแม่เด็กก็เมาด้วย ข้าพเจ้าก็บอกว่า อย่างงี้ก็เข้าอีหรอบเดิม
    กล่าว คือ หาข้อแก้ตัวให้หมา ยิ่งถ้าไม่ได้ศึกษาระบบการสอบและอะไรต่าง ๆ ของเยอรมันแล้ว ยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันใหญ่

    หลายปีก่อน ข้าพเจ้าได้เคยพยายามรณรงค์เรืองการสอบสุนัขประจำตัว หรือที่เรียกว่า Begliedhund prufungen ในการสอบนี้ สุนัขต้องมีอายุ 15 เดือนขึ้นไป
    การสอบแบ่งออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกเป้นการสอบเรืองฟังคำสั่ง ในส่วนที่สอง เป็นการสอบเกี่ยวกับสุนัขในสภาวะที่มีการเจรจา (Prufung im Verkehr)

    ส่วนที่ 2 นี้ จะไม่มีคะแนะให้แต่จะประเมินว่าให้ผ่านหรือไม่ผ่าน หลักก็คือว่า ในสภาวะแวดล้อมปกติของมนุษย์ทั่วไป สุนัขต้องแสดงพฤติกรรมปกติ
    กล่าวคือไม่กลัวหรือ ก้าวร้าว สุนัขที่ผ่านคือ ตัวที่แสดง พฤติกรรมเป็นกลาง (Unbefangen) เป็นต้น

    เป็นที่น่าเสียดายว่า ไม่มีแบบฝึกหัดที่ให้เด็กเล็กเดินเข้ามาใกล้หมา (ใครจะยอมให้ลูกตัวเองมาเสี่ยง) แต่เราก็อนุมานได้ว่าถ้าระหว่างการสอบ แล้ว กรรรมการ
    เห็นหมาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ต่อเด็กที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กรรมการย่มไม่ยอมให้สุนัขตัวนั้น ผ่านแน่นอน เพราะถือว่า เป็นสภาวะแวดล้อมปกติของสังคมมนุษย์

    ข้าพเจ้ายังจำได้ว่า สมัยที่เลี้ยงร๊อตอยู่เมืองนอก ข้าพเจ้ามักนำหมาของข้าพเจ้าไปเดินเล่นแถว สนามเด็กเล่นเพื่อสังเกตพฤติกรรมของมัน

    อย่างที่บอกไปแล้ว หมาที่มีจิตประสาทบกพร่องถึงจะเห็นเด็กเป้นกระต่าย จนเกิดแรง ขับไล่ล่าแล้วไเข้าทำร้ายในที่สุด

    ศัพท์เกี่ยวกับการทดสอบ หรือศัพท์ที่ใช้อธิบายคุณลักษณธของหมามีดังนี้
    1. Klar im Koph มีสมองที่สามารถแยกแยะได้ ไม่สับสน ไม่ใฃ่เห็นเด็กวิ่งเล่นก็นึกว่าเป็นกระต่าย
    2. Umweltsicher มีความมั่นคงในสิ่งแวดล้อมก็คือ ไม่ตื่นกลัว หรือก้าวร้าวในสภาวะแวดลอ้มปกติของมนุษย์
    3. Nervernfest มีจิตประสาทมั่นคง

    ในทางปฎิบัติ สำหรับผู้ที่ไม่เชียวชาญอาการที่แสดงถึงความผิดปกติทางจิตประสาทอาจสังเกตยาก จนทำให้เข้าใจว่าหมาปกติ เช่น
    ถ้าเวลาไปจูงเดินข้างนอก หมาเห็นเด็ก็จ้องและเกร็งตัว เจ้าของก็กระชากสายจูง การแก้ไขแบบนี้ก้จะทำให้อาการผิดปกติถูกเก็บกดไว้
    หาใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงยีนผิดปกติให้ปกติในตัวมัน วันดีคืนดี อาการดังกล่าวอาจมีให้เห้นอีก

    ครับ ! ข้าพเจ้าเลี้ยงหมามาเกือบ 20 ปี และผึกหมาสิบกว่าปี คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ต้วเองเคยมีหมาจิตประสาทบกพร่องอยู่ เพียงแต่
    สมัยแรก ๆ ไม่รู้ ไม่ได้ศึกษาเลยเป้นแบบคนทั่วไปเป็น คือ ชอบหาข้อแก้ตัวให้หมา

    ข้าพเจ้าจำได้ว่าเคยมีหมาชื่อ Maro vonder Flugschneise ซึ่งสั่งซื้อจากประธาน ADRK ในขณะนั้น หมาตัวนี้มีแรงขับไล่ล่าสูง
    เห็นฟุตบอลเป็ฯไม่ได้ต้องวิ่งไล่กัด แต่อยู่มาวันหนึ่ง ได้หลุดออกจากกรงแล้ว วิ่งเข้าชาร์จหลานวัน 5 ขวบ
    ของข้าพเจ้า เคราหืดี ที่พ่อของเขาตะปบที่คอหมาหยุดมันไว้ได้จำได้ว่า Maro เคยกัดลูกหมาตัวหนึ่งจนหัวบวมด้วย

    บังเอิญต่อมาข้าพเจ้าต้องเดินางไปอยู่ต่างประเทศเลยขาย Maro ไป ทราบภายหลังว่า Maro ได้ไปกัดเด็กกับพี่เลี้ยงเด็ก
    แถวใต้ถุนคอนโด ข้าพเจ้าไม่ทราบรายละเอียด แต่พอมานึกย้อนหลังก็สันนิฐานได้ว่า หมาตัวนี้น่าจะจิตประสาทบกพร่อง
    เห็นเด็กเป็นกระต่ายแน่นอน

    อีกตัวหนึ่ง ชื่อ King เป็นหมานำเข้าจากเยอรมันโดยทางเจ้าของคอกเป็นคนเลือกให้ หมาตัวนี้แสดงความผิดปกติตั้งแต่ยังเล็ก
    คือ เวลาเข้าใกล้คนแปลกหน้ามันจะแสดงอาการหลบหลีกไม่มั่นใจ แต่ก้เป็นอาการเพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับกลัวและวิ่งหนี

    ต่อมาภายหลังข้าพเจ้าได้ขายหมาตัวนี้ให้เพื่อน คนรู้จักทราบต่อมาว่าได้ กัดคนหลายคน และเด็กด้วย

    แน่นอน ที่เดียว หมาส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้ามี มีจิตประสาทปกติเล่นกับเด็กได้ไม่มีปัญหา และเป็นหมาที่แรงขับไล่ล่าสูง
    และเป็นหมาชุทซ์ฮุนด์ที่ดี

    ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า อุบัติเหตุร้ายแรงดังกล่าวเกิดจากความไม่รู้ไม่ระวัง และที่ไม่รู้ไม่ระวังก็เพราะไม่ได้สังเกต เจ้าของดั่งเดิม
    หมาตัวที่เป็นปัญหาทั้งสองตัว ก็ยืนยันว่า หมาเป็นปกติดี แต่ข้าพเจ้า เชื่อว่าเขาไม่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอเหมือนกับตัวข้าพเจ้าในอดีต
    ด้วยเหตุนี้ละครับอุบัติเหตุร้ายแรงมันถึงเกิดขึ้น ถ้าความผิดปกติเป็นสิ่งที่สังเกตได้ง่าย เรื่องก้คงไม่เกิด ยกตัวอย่างเช่นหมาที่แสดงความอยากเล่นกับเด็ก
    แตกต่างจากตัวที่จะเข้าไปกัดอย่างไร บางที่มันอ่านยาก และบางครั้งก็แสดงออกบางครั้งก้ไม่แสดงออก เหมือนกับ Maro ซึ่งข้าพเจ้า ก็เคยจูงไปประกวด
    ในสถานที่มีเด็กอยู่เยอะแยะ

    อันตรายมันอยู่ตรงนี้ครับ !

    ย้ำ:
    การแก้ไขพฤติกรรมโดยการทำโทษ ไม่ได้หมายความว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงยีนให้ปกติได้
    เพียงแต่เป็นการกดไม่ให้หมาแสดงพฤติกรรมที่ไม่ต้องกัน
    ยีนผิดปกติยังคงแฝงอยู่ในตัวหมา และพร้อมจะแสดงออกให้เห็นถ้ามีโอกาส
  • จิตประสาทบกพร่องในสุนัข



    จิตประสาทบกพร่องในสุนัข
    ระเบิดเวลาหน้าขน
    (น้องนิน่าจะไม่ใช่ เหยื่อรายสุดท้าย)

    ถ้าเราลองย้อนมองดูอดีต ร๊อตไวเลอร์ กัดเด็กตายไม่ใช่เรื่องใหม่เหตุการณ์เช่นว่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งยังไม่นับรวมกับที่ไม่เป็นข่าว และที่ไม่ถึงสาหัส และถ้าเรามองย้อนให้ลึกกลับไปในอดีต เมื่อสุนัขพันธ์นี้ ยังไม่เป็นที่แพร่ หลาย คือกล่าวคือประมาณ 20 ปี ก่อนก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งหมายความว่าเราเอาปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองนอกเข้ามาบ้านเราโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนในปัจจุบันมันกลายเป็นระเบิดเวลาในบ้านหนึ่งบ้านใดทั่วเมื่องไทย

    คำว่าจิตประสาทบกพร่อง อาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปหรือแม้แต่สัตว์แพทย์ ไม่เคยได้ยิน แต่ในหมู่คนฝึกหมาในต่างประเทศ มันเป็นเรื่องที่รู้กันโดยทั่วไป และมีมาตรการว่าต้องทำอะไร กับหมาตัวนั้น

    แน่นอนที่เดียว ขั้นตอนแรกคือการเตือนเจ้าของว่า หมาของเขาอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ควรหาทางป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น ทางชมรมฯ หรือสมาคมฯ ก็จะไม่อนุญาติให้ผสมพันธุ์

    จิตประสาทบกพร่องมีอยู่หลายประเภทและหลายระดับ และในบางครั้งก็ยาก ต่อการพิสูจน์เพราะความผิดปตกอาจไม่ปรากฏในการทดสอบ ซึ่งต้องทำในสาภพแวดล้อมที่ต่างกัน และเงื่อนไขการกระตุ้นที่ต่างกัน แต่อย่างน้อย ถ้าเป็นกรณ๊ที่น่าสงสัยก็เพียงพอแล้วที่เจ้าของต้องระมัดระวัง

    ความผิดปกติส่วนใหญ่จะค่อย ๆ ปรากฏชัดเมื่อหมาโตขึ้นและอาจไม่แสดงออกกับคนที่หมาคุ้นเคยแต่อาการมักเด่นชัดขึ้น เมื่อหมาย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นกล่าวคือประมาณ 1 ขวบ ขึ้นไป

    เราอาจจะจำแนกประเภทของความบกพร่องได้ ดังต่ไปนี้ :

    1. ก้าวร้าวต่อมนุษย์อย่างไม่มีเหตุผล เจอคนแปลกหน้าในที่สาธารณะก็จะกัด

    ในการสอบสุนัขอารักขา จะมีแบบฝึกหัดซึ่งสุนัขต้องเดินเข้าฝู้งชนกับผู้คุม และมีแบบฝึกหัดซึ่งสุนัขจะถูกนำไปผูกทิ้งไว้ตามลำพัง แล้วมีทีมสุนัขที่มันไม่คุ้นเคยย เดินผ่านมาใกล้ ๆ ซึ่งสุนัขตัวที่ถูกผูกไว้ จะแสดงความก้าวร้าวไม่ได้

    ส่วนชมรมร๊อตไวเลอร์ เยอรมัน ADRK ก้มีการทดสอบโดยให้คน 7 – 8 คน เดินกรูเข้าไปล้อมสุนัขโดยเร็ว เพื่อเช็คปฎิกิริยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการคัดพันธุ์สุนัข ว่าควรอนุญาติให้ผสมพันธุ์หรือไม่

    2. ก้าวร้าวกับเด็กหรือเห็นเด็กเป็นการะต่ายอันนี้หมายความว่า สุนัขเกิดแรงขับไล่ล่าเมื่อเห็ฯเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ซึ่งมีความสูงน้อยกว่ามันหรือใกล้เคียงมัน
    การกัดในลักษณะนี้เป็นการกัดเหยื่อเพื่อฆ่ากิน ซึ่งจะรุนแรงยิ่งกว่า ถ้าเป็ฯการป้องกันตัวเพราะหมาจะไล่ติดตาม และกัดอย่างรุนแรง ส่วนถ้าเป็นการป้องกันตัว มันจะแสดงความก้าวร้าว เฉพาะบริเวณใกล้เคียง รอบ ๆ ตัว

    3. ก้าวร้าวกับหมาอื่นในที่สาธารณะ เหตุผลที่ต้งใช้คำว่าสาธารณะก็เพรา ถ้าเป็นบริเวณอาณาเขตของมันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นที่สาธารณะหมาต้องไม่แสดงอาการก้าวร้าว



    เรื่องระดับ ความผิดปกติทางจิตประสาทก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในระดับต่ำ เจ้าของอาจถือว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ ยกตัวอยางเช่น เวลาคนแปลกหน้าเข้าใกล้มันจะหลบหลีก คล้าย ๆ กับว่ากลัวว่าจะเกิดอันตรายไม่มั่นใจ แต่พอโตขึ้นอายุมากขึ้น หมาก็จะแสดงความก้าวร้าวกับอะไรที่มันคิดว่ามันเหนือกว่า เช่นเด็ก หรือผู้หญิงเป็นต้น



    ส่วนในระดับที่ความผิดปกติสูงตั้งแต่ยังเล็ก ก็ไม่ต้องพูดถึงอยู่ดี ๆ เข้าใกล้ก้กัดเลย

    อีกอาการหนึ่งที่ มักเห็นในพันธุ์ร๊อตไวเลอร์คือ อาการที่ตาเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวเข้มวาว ๆ ซึ่งหมายความว่าหมาอยู่ในอารมณ์ก้าวร้าวสุดขีด ซึ่งเกิดจากแรงขับป้องกันต้วเปรียบได้กับคนที่โมโหสุดขีดไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้



    สาเหตุอาจจะเป็นเพราะหวงอาหารหรือ หวงตัวเมียและการถูกทำโทษ เป็นต้น การกัดก็รุนแรงแต่ หมามักจะไม่ไล่ตามถ้าเหยื่อวิ่งหนี หรือถอยออกจากบริเวณใกล้ตัวมัน



    คนเลี้ยงมือใหม่ มักไม่มีความรู้ความเข้าใจ และมักมองข้ามปัญหา บางคนนึกแต่จะเอามาเลี้ยงไว้เพื่อป้องกันขโมยแต่หารู้ไม่ว่าหมาเหล่านี้ เป็นเหมือนดาบสองคมและ ในสถานการณ์จริง อาจะไม่กัดขโมยก้อได้ เพราะเป็นเรืองของคุณสมบัติหมาอารักขาที่ดีกับ การฝึกทีถูกต้อง



    เมื่อเลี้ยงมาระยะหนึ่งก็เกิดความคุ้นเคยและผูกพัน เจ้าของก็หาข้อแก้ตัวให้หมา เช่นว่ามันเครียด เพราะถูกกักขังหรือมีใครไปแกล้งมันก่อนบ้างเป็นต้น



    ความผิดปกติทางอุปนิสัยหรือจิตประสาท มักแสดงให้ปรากฎเป็นครั้งคราว ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าอะไรเป็ฯตัวกระตุ้น ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ผีเข้าผีออก แต่มันก็เป็นผีร้ายอยู่นั้นเอง



    สรุปคือว่า ถ้าท่านมีหมาร๊อตไวเลอร์ หรือพันธุ์อื่นใดที่ท่านสงสัยว่า มีอุปนิสัย จิตประสาทบกพร่อง โดยเฉพาะถ้ามันแสดงความก้าวร้าว อย่างไรมีเหตุผล นั้นละครั้บคือหมาดุ (ดุร้ายแบบสัตว์ป่า) ไม่ใช่หมาสำหรับเลี้ยงตามบ้านหรือจะเอามาฝึกเป็นหมาอารักขา หรือหมาตำตรวจ ควรจะหาทางกำจัดโดยเร็ว ยิ่งมีลูกเด็กเล็กแดงอยู่ในบ้านหรือ ข้างบ้าน ก็ต้องระวังใหญ่ อันตรายสุด ๆ เหมือนระเบิดเวลา



    ข้าพเจ้าเองเลี้ยงร๊อตไวเลอร์มาเกือบ 20 ปี และฝึกหมามาสิยกว่าปี เคยเตือนแล้วเตือนอีก และคงต้องเตือนต่อไป เพราะเหตุร้ายจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน



    สาสน์เปิดผนึกถึงเจ้าของร๊อตไวเลอร์ทุกท่าน

    · อย่ามองข้ามความผิดปกติทางอุปนิสัย และจิตประสาทบางคนบอกว่า ร๊อตไวเลอร์ของตนไม่ชอบเด็ก ถ้ามันไล่กัดเด็กก็เอามันไปทำลายเสียโดยการ put to sleep หรือให้นอนตลอดกาล ด้วยยานอนหลับขนานใหญ๋

    · อย่าผสมหมาถ้าท่านไม่มีความรู้ ความเชียวชาญจริงเพราะลูกหมาที่เกิดมาอาจกลายเป็นหมาอันตรายได้ อย่าเห็นแก่เงิน เพราว่าถ้าเกิดเรืองร้าย บาปจะตกอยู่กับตัวท่าน

    · ถ้าหมาแสดงอาการผิดปกติก็อย่ายกให้คนอืนต่อเพราท่านอาจกำลังเอาระเบิดเวลาให้เขา

    · อย่าเห็นแก่รูปลักษณ์ หรือตำแหน่งประกวด หรือเงินลงทุน ถ้ามันเพี้ยนก็ทำลาย ถ้าให้ลูกเพี้ยนก็ทำหมัน

    · เมืองไทยไม่มีระบบการคัดพันธุ์ร๊อตไวเลอร์ และมีคนไม่น้อยที่ไปซื้อหมาไม่ผ่านการคัดพันธุ์มาจากเมืองนอก หมาอันตรายที่เกิดใหม่ ทุกวันมีจำนวนเท่าใด ไม่มีใครรู้ ไอ้ที่กัดแล้วไม่เป็นข่าว ก็มีไม่น้อยแน่นอน



    โดย ภูมิทักษ์
    http://www.bangnadogtrainingcenter.com
  • ขั้นตอนการทดสอบ จิตประสาทพื้นฐาน

    1. เดินในสายจูงเข้าฝูงชน 5 – 6 คน วนเป็นเลขแปด แล้วนั่ง ตรงกลางหนึ่งครั้ง

    2. ทีมหมา เดินไปทักทายกรรการแล้วจับมือ

    3. เดินสวนกับทีหมาอีก 1 ทีม ในระยะห่างกัน 5 ก้าว

    4. จักรยานขี่ผ่านจากด้านหลังกดกริ่ง

    5. นำไปผูหทิ้งไว้ตามลำพัง แล้วให้ทีมหมาอีกทีมเดินผ่านมาในระยะ 5ก้าวตรงหน้า

    6. ผูกอยู่หลังรั้วตาข่าย มีเด็กเดินผ่าน 2 – 3 เที่ยว

    7. คน 5 -6 คนเดินกรูเข้าล้อมทีมหมาที่นั่งอยู่อย่างรวดเร็ว

    หมายเหตุ

    · หมาอายุ 6 เดือนขึ้นไป

    · กรณีสงสัยให้ทดสอบซ้ำ

    · ใช้สถานที่ซึ่งหมาไม่คุ้นเคย และทีมหมาอื่นก็ต้องไม่คุ้นเคย

    การแสดงออกของสุนัข ต่อการทดสอบ

    ปกติ (ผ่าน)
    ผิดปกติ (ไม่ผ่าน)

    -หมาแสดงความเป็นกลางเพิกเฉย ไม่มีปฎิกิริยา
    -ก้าวร้าวคำรามเห่าขู่ แยกเขี้ยวจะกัด

    -แสดงความเป็นมิตร
    -ไม่มั่นคง ตกใจ ถอยหนีหลบหลีก

    -แสดงความตื่นตัว สนใจ แต่ไม่ก้าวร้าว
    -กลัว แล้วจะกัด




    โดย ภูมิทักษ์
    http://www.bangnadogtrainingcenter.com
  • การทำ Temperament Test หรือทดสอบนิสัยลูกหมา

    ควรทำในสัปดาห์ที่ 7 โดยเฉพาะในวันที่ลูกหมามีอายุ 49 วัน เพราะช่วงก่อนครบ 7 สัปดาห์ ระบบประสาทของลูกหมาจะยังเชื่อมโยงกันไม่ครบถ้วน และพัฒนาไม่เต็มที่ ในขณะที่หลังสัปดาห์ที่ 7 ลูกหมาจะเข้าสู่ช่วงที่กลัวอะไรง่าย และจะจดจำสิ่งที่กลัวไปอีกนาน บางตัวก็แทบตลอดชีวิต ดังนั้น จึงควรทำในช่วงวันที่อายุครบ 49 วัน

    ข้อ 1 ทดสอบการเข้าสังคม

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบเรียกลูกหมาเข้ามาหา โดยนั่งคุกเข่าลง แล้วตบมือเบา ๆ ให้ผู้ทดสอบยืนห่างจากลูกหมา 2-3 ฟุต

    วัตถุประสงค์เพื่อวัดว่าลูกหมาเข้าสังคมได้ดีแค่ไหน มั่นใจ หรือไม่มั่นใจ

    คะแนน
    1 มาหาทันที หางตั้ง กระโดด กัดมือผู้ทดสอบ
    2 มาหาทันที หางตั้ง กางเล็บ เลียมือผู้ทดสอบ
    3 มาหาทันที หางตั้ง
    4 มาหาทันที หางตก
    5 รีรอก่อนแล้วค่อยมา หางตก
    6 ไม่มาเลยข้อ

    2 ทดสอบการตาม

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบยืนขึ้น แล้วเดินจากลูกหมามา ให้เดินปกติ ให้ลูกหมาเห็นชัด ๆ ว่าเดินจากมา

    วัตถุประสงค์เพื่อวัดว่าลูกหมาตามคนแค่ไหน ถ้าไม่ตาม แปลว่าเป็นลูกหมาที่มั่นใจในตัวเองมาก

    คะแนน
    1 ตามทันที หางตั้ง มาอยู่ระหว่างขา กัดเท้า2 ตามมาทันที หางตั้ง กัดเท้า3 ตามมาทันที หางตั้ง
    4 รีรอก่อนแล้วค่อยตามมมา หางตก
    5 ไม่ตามมา หรือเดินหนีไป
    6 เดินไปทางอื่นเลย

    ข้อ 3 ทดสอบบุคลิก ว่าก้าวร้าวหรือ อ่อนโยน

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบนั่งลง แล้วค่อย ๆ หงายตัวลูกหมาขึ้น อุ้มลูกหมาในท่าหงายท้องไว้ในมือเดียวประมาณ 30 วินาที

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่า ลูกหมาก้าวร้าว หรือจะยอมเขาไปทั่ว และเป็นมากขนาดไหน และยังช่วยทดสอบว่า ลูกหมารับมือกับความเครียดได้ดีแค่ไหน เมื่อมีผู้ที่มีสถานภาพเหนือกว่าควบคุม

    คะแนน
    1 ดิ้นรุนแรง ข่วน กัด
    2 ดิ้นรุนแรง ข่วน
    3 ดิ้น แต่นิ่งเมื่อถูกจ้องตา
    4 ดิ้น แล้วนิ่ง
    5 ไม่ดิ้นเลย
    6 ไม่ดิ้น หลบตา

    ข้อ 4 ทดสอบความเป็นผู้นำ

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบปล่อยให้ลูกหมายืน จากนั้น ให้ผู้ทดสอบคุกเข่าข้าง ๆ ลูกหมา แล้วลูบเบา ๆ จากหัวสู่หาง ลูบไปเรื่อย ๆ จนเห็นพฤติกรรมตอบสนองของลูกหมาชัดเจน

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบการยอมรับผู้ที่เหนือกว่าของลูกหมา

    คะแนน
    1 กระโดด กางเล็บ กัด ขู่
    2 กระโดด กางเล็บ
    3 มาคลอเคลีย และพยายามเลียหน้าผู้ทดสอบ
    4 ถอยหนี เลียมือ
    5 กลิ้งตัว เลียมือ
    6 เดินหนีไป แล้วหลบอยู่ห่าง ๆ

    ข้อ 5 ทดสอบความก้าวร้าวของลูกหมา ในตำแหน่งที่ยืนไม่ถึง

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบยืนค้ำลูกหมา แล้วอุ้มลูกหมาตรงท้อง โดยประสานมือไว้ใต้ตัวลูกหมา หงายมือขึ้น แล้วยกลูกหมาขึ้นจากพื้นนาน 30 วินาที

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าลูกหมายอมรับสถานภาพตกเป็นรองในสถานการณ์ที่ตนเองควบคุมอะไรไม่ได้เลยได้มากน้อยแค่ไหน

    คะแนน
    1 ดิ้นรุนแรง กัด ขู่
    2 ดิ้นรุนแรง
    3 ไม่ดิ้น ผ่อนคลาย
    4 ดิ้น แล้วนิ่ง และเลีย
    5 ไม่ดิ้น เลียมือ
    6 ไม่ดิ้น ตัวแข็งทื่อไปเลย

    ข้อ 6 ทดสอบการเก็บของ

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบนั่งลงข้าง ๆ ลูกหมา แล้วทำให้ลูกหมาสนใจกระดาษที่ขยำเป็นก้อนกลม เมื่อลูกหมาแสดงท่าสนใจ และหันมามองผู้ทดสอบ ให้โยนก้อนกระดาษไปด้านหน้าของลูกหมา ห่างประมาณ 4-6 ฟุต

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าลูกหมาเต็มใจทำงานกับมนุษย์แค่ไหน เพราะจากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า หากลูกหมามีความสามารถในการเก็บของสูง จะมีโอกาสเป็นสุนัขนำทาง สุนัขเชื่อฟังคำสั่ง และสุนัขที่แข่งขันกีฬาได้ดี

    คะแนน
    1 วิ่งไล่ ไปคาบของแล้ววิ่งหนีไป
    2 วิ่งไล่ ยืนค้ำของ แต่ไม่เอากลับมาให้
    3 วิ่งไล่ แล้วคาบของกลับมาให้
    4 วิ่งไล่ของ แล้วกลับมา โดยไม่คาบของมาด้วย
    5 เริ่มออกวิ่งไล่ของ แต่ละความสนใจไป
    6 ไม่วิ่งไล่เลย
  • ข้อ 7 ทดสอบความไวต่อการสัมผัส

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบจับขาหน้าลูกหมามา แล้วกดระหว่างซอกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ (ของหมา) นับ 1-10 ค่อย ๆ กดเบา ๆ และเพิ่มความหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนลูกหมามีปฏิกิริยาโต้ตอบ หยุดทันทีที่ลูกหมาชักขาหนี หรือแสดงท่าเจ็บปวด

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าลูกหมาไวต่อการสัมผัสแค่ไหน

    คะแนน
    1 ถ้านับได้ 8-10 ก่อนลูกหมามีปฏิกิริยา
    2 ถ้านับได้ 6-7 ก่อนลูกหมามีปฏิกิริยา
    3 ถ้านับได้ 5-6 ก่อนลูกหมามีปฏิกิริยา
    4 ถ้านับได้ 2-4 ก่อนลูกหมามีปฏิกิริยา
    5 ถ้านับได้ 1-2 ก่อนลูกหมามีปฏิกิริยา
    6 ถ้าลูกหมามีปฏิกิริยาตั้งแต่จับเลย

    ข้อ 8 ทดสอบความไวต่อเสียง

    วิธีทดสอบให้ลูกหมาอยู่กลางบริเวณที่ใช้ทดสอบ ให้ผู้ทดสอบทำเสียงดัง ๆ ห่างไปประมาณ 2-3 ฟุต (ใช้ช้อนโลหะเคาะกระทะโลหะก็ได้)

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าลูกหมาไวต่อเสียงแค่ไหน และยังทดสอบได้ด้วยว่าลูกหมาหูหนวกรึเปล่า

    คะแนน
    1 ฟัง หาตำแหน่งของเสียง เดินไปหา แล้วเห่า
    2 ฟัง หาตำแหน่งของเสียง แล้วเห่าอยู่กับที่เดิม
    3 ฟัง หาตำแหน่งของเสียง ทำท่าสนใจอยากรู้ แล้วเดินไปหาเสียง
    4 ฟัง หาตำแหน่งของเสียง
    5 ทำท่าตกใจ ถอยหลัง แล้วไปแอบ
    6 ไม่สนใจเสียง และไม่สนใจใด ๆ เลย

    ข้อ 9 ทดสอบความไวทางสายตา (หมายถึง ทดสอบปฏิกิริยา ต่อสิ่งที่เห็น)

    วิธีทดสอบให้ผู้ทดสอบวางลูกหมาไว้ตรงกลางบริเวณทดสอบ หลังจากนั้น ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวม้วนผูกเชือก แล้วดึงเล่นไปรอบ ๆ บริเวณ ห่างจากลูกหมาประมาณ 2-3 ฟุต

    วัตถุประสงค์เพื่อทดสอบว่าลูกหมามีสติปัญญาในการตอบสนองต่อวัตถุแปลก ๆ ที่เห็นเพียงใด

    คะแนน
    1 มองผ้าม้วน เข้าไปกัด
    2 มองผ้าม้วน เห่า ยกหางตั้ง
    3 มองอย่างอยากรู้อยากเห็น แล้วเข้าไปเพื่อสำรวจ
    4 มอง เห่า แล้วทำหางหด
    5 ไม่มีปฏิกิริยา
    6 วิ่งหนีไปแอบ

    วิธีวิเคราะห์ผลคะแนน
    ถ้าได้ 1 เป็นส่วนใหญ่* ลูกหมากลุ่มนี้จะมีความก้าวร้าวสูง และจะทำตัวเป็นผู้นำ ลูกหมากลุ่มนี้กัดได้ง่าย และไม่เหมาะจะให้อยู่กับเด็กหรือคนชรา

    ได้ 1 เป็นส่วนใหญ่ และยังได้ 1 หรือ 2 ในหัวข้อ ความไวต่อการสัมผัส ยิ่งแสดงว่า จะหัดยาก
    ** ลูกหมาในกลุ่มนี้ ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการฝึกหรือดูแลหมา และต้องให้ครูฝึกที่มีความสามารถช่วยในการฝึกให้ลูกหมายอมรับความเป็นผู้นำของเจ้าของ

    ได้ 2 เป็นส่วนใหญ่
    * ลูกหมากลุ่มนี้มีความเป็นผู้นำสูงเช่นกัน และถ้าถูกกระตุ้น อาจกัดได้ การควบคุมอย่างหนักแน่น มั่นคง ในบ้านที่มีแต่ผู้ใหญ่ จะเหมาะกับลูกหมากลุ่มนี้ มีความจงรักภักดีสูงถ้าได้ฝึกให้เคารพเจ้าของเรียบร้อยแล้ว
    ** ปกติ ลูกหมากลุ่มนี้จะร่างเริง มั่นใจในการเข้าสังคม และบางครั้งอาจมีกิจกรรมเยอะเกินกว่าคนชราจะเลี้ยงดู และอาจมีความเป็นผู้นำเกินกว่าจะอยู่กับเด็กเล็ก ๆ ได้

    ถ้าได้ 3 เป็นส่วนใหญ่
    * ลูกหมากลุ่มนี้จะยอมรับให้คนเป็นผู้นำได้ง่าย และปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้ง่าย
    ** แม้จะแอ็คทีฟ แต่ลูกหมากลุ่มนี้จะเข้ากับเด็กและคนชราได้ดี มีโอกาสที่จะเป็นสุนัขเชื่อฟังคำสั่ง และเป็นสุนัขที่มีเหตุผลในการดำเนินชีวิต หมายถึง รู้จักว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ รู้จักคิด (...will usually display a common-sense approach to life)

    ถ้าได้ 4 เป็นส่วนใหญ่
    * ลูกหมากลุ่มนี้จะยอมลงให้คนอื่น ปรับตัวเข้าได้แทบทุกบ้าน ทุกเจ้าของ และอาจไม่มั่นใจเท่าพวกได้ 1 2 3
    ** เข้ากับเด็กได้ดี และยอมรับการฝึกได้ดีด้วย

    ถ้าได้ 5 เป็นส่วนใหญ่
    * ลูกหมากลุ่มนี้จะขี้กลัวมาก ต้องดูแล ฝึกฝนเพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กล้าเข้าสังคม ลูกหมาแบบนี้ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้ยาก ต้องทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตร และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีรูปแบบแน่นอน
    * ปกติถ้าอยู่กับเด็ก ลูกหมาประเภทนี้ไม่มีพิษภัย และจะกัดเมื่อเครียดจัดเท่านั้น
    ** ลูกหมากลุ่มนี้ ไม่เหมาะกับผู้เริ่มเลี้ยงใหม่ ๆ เพราะจะกลัวง่าย และต้องใช้เวลากว่าจะคุ้นกับประสบการณ์ใหม่ ๆ
  • ถ้าได้ 6 เป็นส่วนใหญ่
    * ลูกหมากลุ่มนี้เป็นตัวของตัวเอง อาจไม่น่ารักนัก และอาจไม่ชอบการลูบ หรือการกอด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ช่วยง่าย ลูกหมากลุ่มนี้จะสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของได้ยาก ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก เพราะเด็กอาจเล่นนกับหมามากเกินไป
    ** หากลูกหมาได้ 6 เป็นส่วนใหญ่ และยังได้ 1 เยอะอีกด้วย โดยเฉพาะถ้าได้ 1 ในการทดสอบในคคห 3 ลูกหมาอาจกัดเมื่อเครียด หรือกดดันได้ง่าย หากได้ 6 กับ 5 เยอะ ลูกหมามักหลบคน และตัวแข็งทื่อเวลาคนแปลกหน้าเข้าหา
    ------------------------------------------------------------------------------------
    ** หากสรุปผลใด ๆ ไม่ได้ อาจเพราะลูกหมาอาจรู้สึกไม่ดีอยู่ หรืออาจเพิ่งกินอาหาร หรือเพิ่งมีการถ่ายพยาธิ ให้รอ 2 วันแล้วค่อยทดสอบใหม่ **ถ้าผลการทดสอบยังหลากหลายอยู่ สรุปไม่ได้ แสดงว่าลูกหมาอาจคาดเดาได้ยาก และอาจไม่เชื่อฟังคำสั่งเท่าใดนัก
    ------------------------------------------------------------------------------------
    หมาที่เหมาะสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อนในบ้านมากที่สุด เลี้ยงง่าย ปัญหาน้อยที่สุด คือหมาในกลุ่มที่ได้คะแนน 4 เป็นส่วนใหญ่

    หมาที่เหมาะสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อน และลงสนามประกวดได้ดีที่สุด คือหมาในกลุ่มที่ได้คะแนน 3 เป็นส่วนใหญ่ เพราะหมาที่จะลงสนามประกวดได้ดี ต้องมีความเป็นกลางสูง , มีความตื่นตัวต่อสิ่งเร้าพอสมควร ไม่มากเกินไปจนดูลุกรี้ลุกรน หรือน้อยเกินไปจนดูเซื่องๆไม่มีสง่า ที่สำคัญต้องไม่ขี้กลัวหรือระแวง

    ส่วนใครที่อยากได้หมา ที่จะนำมาฝึกทำอะไรต่ออะไร นอกเหนือไปจากคำสั่งพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่นฝึกทำงานอารักขา ฝึกทำงานดมกลิ่นหาของ ฯลฯ ได้ง่ายและได้ผลดี คือหมาในกลุ่มที่ได้คะแนน 2-3 เป็นส่วนใหญ่ และสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนในบ้านได้ด้วย โดย เจ้าของ ต้องมีคุณสมบัติเป็นจ่าฝูงที่ดี สามารถควบคุมหมาได้อย่างเด็ดขาดจริงๆ

    หมาในกลุ่มที่ได้คะแนน 1 เป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับเจ้าของที่มีความเป็นจ่าฝูงสูงมาก ชอบความก้าวร้าว รุนแรง ชอบความท้าทาย ชอบผจญภัย เพราะหมากลุ่มนี้จะท้าทายชิงตำแหน่งจ่าฝูง กับเจ้าของ หรือคนอื่นๆในบ้านทุกวัน ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ ดังนั้น..อย่าเผลอ.... นักฝึกหมาประเภท.. สำหรับแข่งกีฬาอารักขา(ที่เจ้าของชอบความรุนแรง) , สำหรับเอาไว้เฝ้าสถานที่ต่างๆ หรือสำหรับติดตามไล่ล่าคนร้ายแบบจู่โจม มักจะเลือกใช้หมาในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะผู้ฝึก ต้องมีความเชี่ยวชาญในการฝึกและควบคุมหมาได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเป็นอย่างดีด้วย

    หมาในกลุ่มที่ได้คะแนน 5-6 เป็นส่วนใหญ่ ก็พอจะนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ แต่ควรเป็นบ้านที่เงียบๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน สิ่งแวดล้อมเรียบๆเดิมๆผู้คนในบ้านหน้าเดิมๆไม่สับสนวุ่นวายหรือเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เลี้ยงด้วยความเมตตา สงสาร พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงปกติ อย่าตะโกนหรือดุหรือขู่เสียงดัง อย่าลงโทษด้วยการทำร้าย อย่าคาดหวังในตัวเขามากเกินไป

    สำหรับหมาที่ได้คะแนน 5-6และ 1 เป็นส่วนใหญ่นั้น จัดว่าเป็น หมาอันตราย ก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ไม่เข้าใจพฤติกรรมสัตว์มากพอ เพราะหมากลุ่มนี้จะมีความระแวงภัยสูง ไม่ค่อยไว้ใจคนหรือสัตว์อื่น จึงมักไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับใคร(เจ้าของ)ง่ายๆ

    หมาในกลุ่มนี้บางตัว ที่มีความก้าวร้าวสูงมากในสภาวะที่ไม่มั่นใจ(ข้อทดสอบที่ 5 ได้ 1 ) และมีความไวต่อการสัมผัสสูงร่วมด้วย(ข้อทดสอบที่ 7 ได้ 6) ก็จะยิ่งอันตรายมากที่สุด เพราะอาจจะกัด(เพราะความกลัวจะถูกทำร้าย)ได้ง่ายมาก จึงไม่เหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมใกล้ชิด หรือโดยลำพัง กับเด็กหรือคนชรา

    หมาส่วนใหญ่ ที่มีปัญหากัดคน มักจะเป็นหมาในกลุ่มนี้ คือมีความระแวง ไม่ไว้ใจใคร แต่ มีความก้าวร้าวสูง ก็มักแสดงอาการข่มผู้อื่นไว้ก่อน เพื่อเป็นการป้องกันตัว โดยการขู่ หรือกัดเพราะกลัว(Fear bite)นั่นเอง หมาที่กัดด้วยเหตุผลนี้ มักจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ หรือถ้าปล่อยก็จะไปกัดตรงอื่นทันที
  • คลิปการกัดของสุนัขแต่ละสายพันธุ์

    http://www.youtube.com/watch?v=MZm037jPNgc&feature=player_embedded#!

    http://www.youtube.com/watch?v=ADDxe24ud90&NR=1

    http://www.youtube.com/watch?v=y-9UNEDbXAc&feature=related
  • ขอบคุณมากคับ สำหรับความรู้
  • สมัยเรียน ม.4 มีการ์ตูนเรื่อง ยามาโต้ ดังมาก น่าจะเป็นพันธ์นี้รึอปล่าว..