ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

เรื่องของป้านิดา แห่งบ้านแสงตะวันของสุนัขจรจัด .... กับความฝันเรื่องที่ดิน .... ที่เลือนลาง
  • จากที่ทราบกันดีว่าป้านิดาถูกไล่ที่ และกำลังมองหาที่ใหม่
    ป้าบอกว่าได้ที่ดินที่บางเลน
    แต่เมื่อพูดคุยกันไป ..... ดูเหมือนจะยิ่งทดท้อ
    ป้าบอกว่า ซื้อที่ดิน 4 ล้านกว่า วางเงินไปแล้ว 500,000 ผ่อนเดือนละ 30,000 อีก 72 เดือน
    ต้องถมที่ 700,000 เขาคิดเงินผ่อน ก็ต้องคิดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 200,000 รวามเป็น 900,000 ต้องผ่อนให้หมดใน 72 เดือน
    สรุป ป้านิดาเข้าใจว่า ต้องผ่อนเดือนละ 42,000 โดยประมาณ

    คราวนี้เข้าสู่เรื่องจริงนะคะ
    ได้ดูสัญญาจะซื้อจะขายมาแล้ว ราคาตามสัญญาจะซื้อจะขายคือ 4,830,000 สำหรับที่ดิน 2 ไร่ 1 งาน 66 ตรว. (ตารางวาละ 5,000 บาท)
    วางเงินมัดจำไปแล้ว 500,000 ต้องผ่อนเป็นงวดทุกวันที่ 15 งวดละ 30,000 บาท จำนวน 72 งวด เมื่อจ่ายหนี้ที่ค้างชำระทั้งสิ้น
    ให้นำใบเสร็จรับเงินมายื่น เพื่อทำเรื่องโอน
    ลองคำนวณดูนะคะ ยอดตามสัญญา วางเงินไปแล้ว ก็จะเหลือ 4,830,000 - 500,000 = 4,330,000
    หารด้วย 72 ยอดค่าที่ที่ป้าต้องผ่อนทั้งหมด = 60,138.89 เฉพาะค่าที่ (ไม่รวมค่าถมที่อีก 900,000 / 72 = 12,500 บาท)

    วันนั้น กดโทรศัพท์ คำนวณ ยังไม่บอกตัวเลขป้า ถามว่า "ป้า ป้ารู้มั้ย ถ้าป้าผ่อนเดือนละ 30,000 ครบแล้ว ป้ายังค้างเขาอยู่อีกเท่าไหร่"
    ป้าบอกไม่รู้ เลยบอกป้าว่า เฉพาะค่าที่นะ ยังค้างเขาอยู่อีก 2,170,000 บาท ป้าทำหน้างง บอก ป้าคิดว่าวางเงิน 500,000
    แล้วผ่อนเดือนละ 30,000 แล้วก็หมด

    หากป้าย้ายไปที่บางเลน ยังไม่รู้เลยว่าจะมีคนช่วยเหลือได้มากแค่ไหน เนื่องจากต้องไปไกลจากกรุงเทพอีก เป็นชั่วโมง
    กับภาระ ค่าที่อีกเดือนละ 72,000 กว่าบาท
    ป้าจะไหวหรือไม่??? ดิฉันเป็นห่วงอย่างมาก
    แต่ก็ยังคงมีความหวัง เพราะวันนั้นได้พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่มาซื้อที่ดิน เขาเข้าไปช่วยป้าในการทำสัญญา โดยแก้ไขเรื่อง
    ตัวสัญญาที่ถูกเอาเปรียบ ก็ถือว่าเขาทำเกินหน้าที่ เพราะถูกกล่าวหาว่า "สาระแน" เขามาพร้อมกับเช็ค 200,000 บาท
    เงินครึ่งหนึ่งที่สัญญาจะให้ป้า สำหรับเป็นค่าเสียหายในการขนย้าย (ก่อนหน้านั้นมีหนังสือมาให้ป้าเซ็น ยินยอมที่จะย้ายออกจากสถานที่)
    แต่วันนั้น ป้ายังไม่รับไว้ เนื่องจากป้ายังไม่มีที่อยู่ใหม่ ป้ากลัวว่ารับเงินแล้วยังไม่ได้ที่อยู่จะถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง
    กลับมาเรื่องเดิม เจ้าหน้าที่ท่านนั้น บอกว่า ได้เข้าไปคุยกับเจ้าของที่ ราคา 4.83 ล้าน เป็นราคาที่รวมดอกเบี้ย
    หากป้าซื้อเป็นเงินสด จะตกอยู่ที่ ไร่ละ 1.2 ล้าน แต่ป้าบอกว่า เจ้าของบอกตารางวาละ 3,500 (เป็นอันเข้าใจว่า อย่างน้อยที่สุด
    เขาคิดดอกเบี้ยป้า ตารางวาละ 1,500 * 966 ตรว. = 1,449,000 บาท) แต่เจ้าหน้าที่ท่านนั้น ก็คือคุณดำรง
    ยืนยันว่า เจ้าของจะขายในราคาไร่ละ 1.2 ล้าน (ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่า คิดดอกเบี้ยป้าที่ 2,000 * 966 = 1,932,000 ในระยะเวลา
    6 ปีน่ะสิ) แต่ไม่ต้องไปคิดฟ้องร้องหรอก เพราะสัญญา ระบุว่าจะซื้อจะขายในราคา ตารางวาละ 5,000 บาท

    วันนั้น ที่ไปพบป้า เมื่อวันพุธ ป้าก็ดูว่าจะเครียดที่ได้รู้ความจริง
    ป้าแกชอบเลี้ยงหมา แต่อาจไม่ถนัดเรื่องพวกนี้
    แต่ก็ยังดีที่ป้ารู้ความจริงวันนี้ ดีกว่าปล่อยให้ผ่านไป 6 ปี แล้วป้ารู้ความจริงว่ายังเป็นหนี้อยู่อีก 2.17 ล้าน
    แล้วก็อาจโดนยึดที่
    ความหวังของป้า ณ วันนี้ คือ รอเงินบริจาคให้พอเพียงที่จะซื้อในราคาเงินสดได้

    เราจะทำอย่างไรกันดีคะ??
    วันนี้ ดิฉันก็พยายามส่งเมล์บ้าง โพสต์กระทูบ้าง เผื่อใครจะมีไอเดีย ดี ๆ และมีกำลังช่วยแก้ไข
    ยิ่งหากเป็นข่าวด้วยแล้ว ก็คงจะดี หากใครรู้จักดารา หรือสื่้อ รบกวนขอความช่วยเหลือช่วยเล่าเรื่องราวได้ไหมคะ
    สำหรับเงิน ตอนนี้ก็รวบรวมที่บริษัทอยู่ เดี๋ยวก็จะโอนให้ป้า

    ใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทรไปสอบถามป้านิดาได้เลยนะคะ
    โทร 081-612-8334 และ 086-101-9053
    หรือใครมีความประสงค์โอนเงิน ก็โอนไปได้ที่
    นายสัญญา รสรื่น (สามีของป้านิดา)
    ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนนนท์ เลขที่บัญชี 058-136150-4
    แต่ถ้าต้องการเยี่ยม ก็ไปหาป้าได้เลยนะคะ ที่ซอยบรมราชชนนี 75
    ลงทางด่วนแล้วขับไปผ่านสน.ตลิ่งชัน โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ผ่านแยกถนนราชพฤกษ์ ตรงไปเจอสรรพากร
    ศาลแขวงตลิ่งชันอีกนิดเดียวก็จะึถึงซอย 75 เข้าไปไม่กี่เมตร บ้านป้าอยู่ด้านขวาค่ะ

    เท่าที่พูดคุยป้านิดาเป็นคนใจดีมาก บางครั้งแกน้ำตาคลอ ด้วยความสงสารสัตว์
    ป้าบอกว่า ถ้าไม่มีทาง ก็คงตายกันหมดนี่ ทั้งคนทั้งหมา แกคงเหนื่อย เลยปรารภออกมา
    ใจของป้ากับลุงใหญ่เกินตัว แกก็เลยเหนื่อยมากหน่อย
    ตอนที่คุยไม่ได้ถามเรื่องทำหมัน เพราะว่าเรื่องที่ดินใหญ่กว่า
    แต่ถ้ามีใครเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งป้ากับลุงคงดีใจนะคะ ทำหมันหมาแมว ก็ไม่ใช่ถูก ๆ ตัวละต่ำ ๆ ก็ 6-7 ร้อยบาท

    หากใครมีแหล่งซื้อยาถูก ก็ซื้อยาประเภท พยาธิหนอนหัวใจ ถ่ายพยาธิหมา ถ่ายพยาธิ แมวเข้าไปได้นะคะ
    ตอนที่ไปมีน้องเฮง ๆ น่าจะชิสุผสม ขี้ตากรัง ไม่แน่ใจว่าเป็นโรคตาแห้งหรือเปล่า

    ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
    ขอบคุณค่ะ
  • เคยเข้าไปครั้งหนึ่ง เห็นแล้วเหนื่อยกับการทำอะไรเกินกำลังของตัวเองของป้าครับ
    ไม่ใช่ไม่อยากช่วยนะครับ แต่มันช่วยแล้วไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน มีแต่ต่อยอดออกไปเรื่อยๆ ปริมาณหมาก็มากขึ้นทุกวัน
    แล้วนิสัยของคนไทยก็เห่อกันเป็นพักๆ เป็นข่าวที แห่กันไปที แต่อย่าลืม มันไมใด้ไปเฉพาะเงินบริจาค
    แต่มันมีหมามีแมวที่คนมักง่าย พาไปเพิ่มให้แกด้วย ดังนั้นต้องทำให้ป้ายื่นด้วยตัวเองให้ได้เร็วที่สุด ตัดวงจรไม่ให้มีหมาหรือแมวไปเพิ่มอีก
    และไม่ควรสร้างภาระผูกพันธ์ที่เกินกำลังของแก เพราะมันจะทำให้ป้าแกกลายเป็นภาระของสังคมแทน

    ความที่แกไม่มีรายได้อะไร รอเพียงเงินบริจาค อันนี้ก็คือปัญหาให้ที่ต้องคิดให้รอบคอบ
    การซื้อที่ดินราคาสี่ล้านกว่า สำหรับคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ว
    รายจ่ายต่อเดือนเฉพาะแค่เงินต้นกับดอกเบี้ยไปเท่าไรแล้ว นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก

    การระดมทุนไปช่วยแก แต่ละครั้งก็คงได้เงินไม่เท่าไร อาจจะช่วยแค่ค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ
    และก็คงไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือน แต่รายจ่ายแกมีมาคงที่ทุกเดือน โดยเฉพาะค่าผ่อนที่ ก็อ๊วกแล้ว
    นอกจากนี้ ยังมีค่าก่อสร้าง ค่าถมที่ ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟอีก แค่คิดก็ท้อแล้วครับ

    ใครมีไอเดียอะไรก็อยากฟังครับ
  • เปิดตัวโครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน ช่วยเหลือคนรักสัตว์ทั่วกรุง


    “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” โดย “สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข” เปิดตัวโครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน สร้างมิติใหม่ในการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดด้วยการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชนกับ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสะดวกในการควบคุมป้องกันโรคสัตว์สู่คน และควบคุมจำนวนสุนัขจรจัดให้หมดไปได้ในอนาคต



    วันที่ 19 สิงหาคม 2553 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร โดย แพทย์หญิงมนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้รายงานความคืบหน้าของ “โครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน” (Community Shelter) เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนที่เลี้ยงสุนัขจรจัดมากกว่า 100 ตัวขึ้นไป โดย “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” จะสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์สำหรับสุนัข ตรวจสภาพแวดล้อมในการสร้างบ้านพักพิงดังกล่าว บริการฉีดวัคซีนต่างๆ รวมทั้งบริการทำหมันและให้คำแนะนำในการเลี้ยงดูสุนัขเหล่านั้น



    ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่นำร่อง 5 จุด ได้แก่

    1. วัดอมราวราราม เขตสายไหม ที่เลี้ยงสุนัขจำนวน 400 ตัว

    2. บ้านฟ้า ซอยพัฒนาการ 44 เขตประเวศ ที่เลี้ยงสุนัขจำนวน 300 กว่าตัว

    3. บ้านแสงตะวัน เขตตลิ่งชัน ที่เลี้ยงสุนัขจำนวน 400 ตัว

    4. บ้านป้าศรี เขตสวนหลวง ที่เลี้ยงสุนัขจำนวน 150 ตัว และ

    5. วัดมะพร้าวเตี้ย เขตภาษีเจริญ ที่เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนกว่า 400 ตัว

    โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะรณรงค์เพื่อชักชวนให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีกครั้ง



    ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังได้เสนอแนะด้วยว่า ควรเน้นการควบคุมจำนวนสุนัขด้วยวิธีการทำหมันเพื่อลดจำนวนสุนัจจรจัดให้ได้ โดยพิจารณาใช้แนวทางการควบคุมของประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผู้ประกอบการจำหน่ายสัตว์ต้องตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของผู้ซื้อเกี่ยว กับความรักสัตว์อย่างแท้จริง รวมถึงความพร้อมและความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูสัตว์ เพื่อมิให้ปล่อยทิ้งออกมาเป็นสัตว์จรจัด



    สำหรับ “โครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน” นั้น “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” โดย “สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข” เห็นว่า การทำหมันสุนัขจรจัดเพื่อควบคุมจำนวนสุนัขจรจัดมิให้เพิ่มขึ้นและนำกลับไป เลี้ยงดู เป็นวิธีการที่มีความเหมาะสมและประสบผลสำเร็จที่สุดในปัจจุบัน แต่เนื่องจากมีสุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก ขณะที่มีสถานที่สำหรับเลี้ยงดูสุนัขดังกล่าวจำนวนน้อย ทำให้ต้องนำสุนัขจรจัดที่ผ่าตัดทำหมันแล้วกลับไปคืนยังสถานที่เดิม ซึ่งอาจสร้างปัญหาเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนได้ ด้วยการส่งเสียงดัง คุ้ยเขี่ยขยะ อุจจาระเรี่ยราด หรือทำร้ายประชาชน



    จึงได้จัดโครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน โดยสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนหรือกลุ่มคนรักสัตว์

    ที่เลี้ยงสุนัขจรจัดมากกว่า 100 ตัวขึ้นไป เพื่อสร้างมิติใหม่ในการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดด้วยการมีส่วนร่วม ระหว่างประชาชนกับกรุงเทพมหานคร และให้สำนักงานเขตในแต่ละพื้นที่เป็นผู้ ประสานงานและกำกับดูแลให้เกิดความเรียบร้อยตามข้อกำหนด เพื่อให้การแก้ปัญหาสุนัขจรจัดที่ได้ดำเนินมาเกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถควบคุมจำนวนสุนัขจรจัดไม่ให้เพิ่มขึ้นและหมดไปได้ในอนาคต รวมทั้งสะดวกต่อการควบคุมป้องกันโรคจากสัตว์สู่คน

    อ้างอิง http://www.vphbma.com/content/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87
  • คือทำไมป้าไม่ลองคุยกับสำนักงานที่ดูแลป้าอยู่ละครับ ป้าอยู่ในโครงการนิ


    "3. บ้านแสงตะวัน เขตตลิ่งชัน ที่เลี้ยงสุนัขจำนวน 400 ตัว"


    โดย “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” จะสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์สำหรับสุนัข ตรวจสภาพแวดล้อมในการสร้างบ้านพักพิงดังกล่าว บริการฉีดวัคซีนต่างๆ รวมทั้งบริการทำหมันและให้คำแนะนำในการเลี้ยงดูสุนัขเหล่านั้น


    คือแทนที่จะเข้าเว็บเพื่อมาขอรับบริจาค ผมว่าไปเซิทหาข้อมูลเพื่อช่วยเหลือยังจะง่ายซะกว่าคับ หรือ ผลักดันให้ทางการเข้าไปดูแลตามที่พูด

    สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข http://www.vphbma.com/
  • น่าสงสารป้าจัง
  • วันเสาร์ที่แล้วไปบ้านพี่ฟ้าซอยพัฒนาการ 44มา ถามถึงโครงการนี้
    พี่ฟ้าบอกว่า มีเข้ามาแต่ไม่เห็นว่าอะไร
    เีดี๋ยววันจันทร์จะลองโทรไปสอบถามถึงกรณีป้านิดาดูค่ะ ว่า ถ้าไม่มีที่ทางแล้วจะต้องนำสุนัขจรจัดไปไว้ที่ไหน
    แต่เท่าที่อ่านดู ดูเหมือนว่าจะเน้นเรื่องวัคซีน ทำหมัน ตามบ้านต่าง ๆ แต่อันนี้เรื่องที่มาก่อนคือสถานที่เลี้ยง
    สำหรับการจัดการคงเป็นเรื่องต่อมา

    สรุปว่าจะลองพยายามทุกทางก็แล้วกันนะคะ
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์นะคะ
    ท่านใดมีไอเดียที่ดี ก็ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ
    ขอบคุณค่ะ
  • ความเห็นพี่มาร์ค่อนข้างตรงทีเดียวเลย

    ทางช่วยป้า ที่ดีอีกทางก็คือ การ "ตัดวงจร" พวกสุนัขเร่ร่อนแล้วพวกทิ้งสุนัขตัวเองให้ได้เสียก่อน

    แค่ทำให้หมาจรจัดมันขยายพันธุ์ไม่ได้ หน่วยงานที่ทำอยู่ยังไม่สำเร็จเลยครับ

    การกวาดล้างหมาในแต่ละพื้นที่ เพื่อทำวัคซีน หรือ ทำหมัน มันยังมีเล็ดลอดเสมอ

    ผมไม่อยากยกภาพในเมืองที่จับยากเย็นแสนเข็นนะครับ

    ผมยกตัวอย่างแค่ "เกาะหลีเป๊ะ" ที่เป็นเหมือนกรงกว้างๆ หมาไม่มีทางหนีนอกจากทะเล เกาะทั้งเกาะเดินถึงกันได้หมด

    เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานมาเพียบเลยครับ มาเพื่อให้วัคซีนและทำหมัน

    .... สุดท้าย.... ตอนนี้ หมาเต็มเกาะเหมือนเดิม เกิดแล้วเกิดอีก ต้องโดนคนบางกลุ่ม จับไปปล่อยที่เกาะใหญ่ๆอีกแห่งนึงใกล้ๆกัน

    เวลานั่งเรือผ่าน หมาผอมแบบรอวันตาย .... บนเกาะก็เกลื่อน แทบจะแดกกันเองอยู่แล้วครับ น่าสงสารสุดๆ

    ที่ว่ามา เฉพาะเกาะหลีเป๊ะที่ไม่มีทางเข้าออกสำหรับหมา มีแต่เกิดและไม่ตาย....

    เมืองใหญ่ๆ ... อย่าให้พูดครับ



    ส่วนเรื่องของคุณบ้าน ผมเองไม่เข้าใจเรื่องการซื้อที่ดิน ทำไมมันต้องสูงขนาดนั้นด้วยครับ จำเป็นต้องตรงนั้นรึเปล่า?

    ผมเองนับถือน้ำใจแกนะ แต่หากเป็นตัวเรา คงจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ จัดหาที่ดินที่เหมาะสมสำหรับเราและสุนัขดีกว่า

    อย่าให้เรื่องอื่นต้องเป็นภาระมากกว่าหมาอีกเลย ผมไม่ทราบเรื่องราวมากนักนะครับ หากคิดไม่เหมาะสมต้องขออภัย

    แต่ ไม่อยากให้เอาภาระเรื่องที่ดินมาเป็นระเบิดเวลาสำหรับอนาคต เสียดายคนที่ตั้งใจทำเรื่องดีๆครับ
  • ราคาที่ดินสูง เนื่องจากป้าไม่มีหลักทรัพย์อะไรที่จะไปยื่นกู้ได้
    ราคา 4.83 ล้าน จึงเป็นราคารวมดอกเบี้ย ไม่ใช่ราคาซื้อเงินสดค่ะ
    ส่วนที่ดินตรงนั้น ญาติของลุงสัญญาพาเข้าไปดู
    ด้วยเวลาที่จำกัด ที่ต้องให้ย้ายออก ทำให้แกคงร้อนรน และไม่มีหนทาง
    จากที่ไปคุย เขาให้เวลาถึงแค่สิ้นเดือนกันยายน
    ที่เลี้ยงหมา แบบไม่รบกวนชาวบ้าน ก็คงหายากอยู่เหมือนกัน

    ให้ทางรัฐจัดหาที่ดินให้ จะเป็นไปได้หรือไม่ ไม่แน่ใจค่ะ
    คงไม่พ้นต้องเอาหมาไปให้กทม.ป้าแกคงไม่ยอมเพราะเป็นห่วงในสวัสดิภาพของหมา
    ตื้นลึกหนาบาง ต้องลองสอบถามป้านิดาดูค่ะ

    ถ้าป้าไม่มีที่ไป คงมีการฟ้องร้องคดีความ
    ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

    ตอนนี้ ด้วยความเป็นห่วง ก็อยากช่วยอย่างเต็มความสามารถ

    โลกกว้างใหญ่ ตัวเราก็เล็กนิดเดียว ความถูกต้องคือทฤษฎี แต่อาจมีบ้างที่ไม่จริงในทางปฏิบัติ
    ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการช่วยเหลือให้คำแนะนำ ลองโทรไปหาป้าที่
    โทร 081-612-8334 และ 086-101-9053 ดูนะคะ

    ไม่ต้องขออภัยหรอกค่ะ ความคิด ความรู้สึก ไม่ตรงกันได้ แต่เชื่อว่าคงมีข้อที่ตรงกัน
    คือเจตนาดี และความปรารถนาดี

    ขอบคุณนะคะ
  • 4 ล้าน ย้ายสถานที่ไปอยู่จังหวัด สกลนคร ครับ ที่ถูกได้พื้นที่เยอะกว่าในราคาเท่ากัน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเอาหมามาปล่อยเพิ่ม แตแรกกับ ป้าต้อง ระวังหมาในบ้านหาย
  • การที่ป้าแกไม่อยากย้ายไปใกลจากที่เดิมมากนัก ก็คือ กลัวว่าคนที่จะไปเยื่ยม หรือคนที่บริจาค จะไปลำบากน่ะครับ
  • วันนี้ผมเข้าไปคุยกับแกมาแล้วนะครับ เรื่องแรกก็คือ เรื่องที่ดินพอแกรู้รายละเอียดแกก็ตกใจมาก ว่าเจ้าของที่ดินไม่น่าทำกับแกอย่างนี้เลย ป้าแกฝากขอบคุณ คนที่เอาเรื่องนี้มาลง แกบอกว่าดีนะที่ยังไม่ถลำลงไปลึกกว่านี้ แต่เงินที่วางเอาไว้ ห้าแสนบาท นั้น แกภาวนาให้ที่ดินติดจำนองอยู่ แกจะได้เงินคืน และอีกอย่างเรื่องถมที่นั้น แกยังถมไม่ได้เพราะว่ารถที่จะเข้าไปถมที่เข้าไม่ได้ ยังไงก็ภาวนาช่วยป้าอีกแรงนึงเพื่อที่จะได้เงิน ห้าแสนบาทคืน แต่แกก็พอมีตัวเลือกที่อื่นอยู่ แต่ใกลออกไปอีกนิดนึง อาจจะต้องเอาที่นั่นก็ได้
    ส่วนเรื่องที่สอง การที่จะเอาหมาไปเข้าโครงการของกทมนั้น ก็ได้รับคำตอบมาว่า เคยไปมาแล้ว ทางนั้นเขาจะคัดหมาตัวที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ เอาไปอยู่ในโครงการที่ ท่าแร่ ส่วนหมาที่เป็นขี้เรื้อนหรือหมาแก่นั้นจะเอาไปเฝ้าฟาร์ม จรเข้ครับ ป้าแก ก็เลยบอกว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่เอาหรอกให้หมามันตายไปพร้อมกับป้านี่แหละ
  • ขอบคุณนะคะที่เข้าไปดูป้าเขามา
    หลายวันมานี้เก็บเรื่องนี้มาเป็นอารมณ์จนหดหู่
    แต่วันนี้มีความสุขมากเลยค่ะ เพราะอย่างน้อยก็มี คุณ apdogmeal เข้าไปดูท่านหนึ่งแล้ว

    ขอบคุณจากใจค่ะ
  • ตามที่คุณ apdogmeal เรียนว่า "การที่จะเอาหมาไปเข้าโครงการของกทมนั้น ก็ได้รับคำตอบมาว่า เคยไปมาแล้ว ทางนั้นเขาจะคัดหมาตัวที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ เอาไปอยู่ในโครงการที่ ท่าแร่ ส่วนหมาที่เป็นขี้เรื้อนหรือหมาแก่นั้นจะเอาไปเฝ้าฟาร์ม จรเข้ครับ"

    ขอยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่มีการคัดสุนัขเพื่อนำไปที่ท่าแร่แต่อย่างใดนะครับ กรุงเทพมหานครมีเพียงศูนย์ควบคุมสุนัข (ประเวศ) กับศูนย์พักพิงสุนัข (อุทัยธานี) เท่านั้นครับ หากเป็นสถานที่อื่นอาจเป็นการแอบอ้างครับ


    สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการบริการของ
    กลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัข กทม. เพิ่มเติมได้ที่...
    โทรศัพท์ 0-2328-7460 (ในเวลาราชการ) ครับ

    หรือเว็บไซต์สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กทม.
    http://www.vphbma.com

    หรืออัพเดทผ่านเครือข่ายคนกรุงรักสัตว์
    http://facebook.com/vphfan
    http://twitter.com/vphbma