ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

สไตล์การกัด
  • สวัสดีครับ ท่านสมาชิกทุกท่าน และท่านที่ติดตามอ่าน วันนี้จะพูดถึงสไตล์การกัด แต่ท่านที่ชอบแนวกิจกรรมไม่ต้องน้อยใจนะครับ เร็วๆนี้จะมีมาให้อ่านแน่นอนครับ
    หมาแต่ละตัว แต่ละสายเลือดจะมีสไตล์ในการกัดแตกต่างกันไป จะขอกล่าวถึงสไตล์ในการกัดของหมาแต่ละแบบ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเช่นนี้คือ
    1.ear dog เป็นสไตล์ที่ผมชอบโดยส่วนตัว aer dog หมายถึงหมาที่กัดหูของคู่ต่อสู้ ในปัจจุบันสไตล์นี้จะมีน้อยลงกว่าเมื่อก่อน ในอดีตยอมรับกันว่าเป็นสไตล์การต่อสู้ที่ดีที่สุด หมาที่กัดหูของคู่ต่อสู้จะยึดหูของคู่ต่อสู้ใว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งคู่ต่อสู้ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย ตัวที่ถูกกัดหากไม่เกมส์อาจถอดใจได้ aer dog ส่วนใหญ่จะเป็นหมาที่มีสไตล์ในเชิงตั้งรับมากกว่าบุก มันจะให้คู่ต่อสู้ดันไปรอบๆสังเวียน หรือถอยเป็นวงกลม เมื่อคู่ต่อสู้หมดแรง หรือถอดใจ มันจะเริ่มเป็นฝ่ายเข้าทำ โดยทุ่มคู่ต่อสู้ลงแล้วค่อยๆทำลายคู่ต่อสู้อย่างช้าๆ ซึ่งนับเป็นสไตล์ที่น่ากลัวทีเดียว และเป็นสไตล์ที่ผมชอบมาก
    2. leg dog หมายถึงหมาที่กัดขาหน้า เรียกว่าเป็นสไตล์ที่มีข้อเสียมากที่สุด เพราะในขณะที่กัดขาหน้าอยู่นั้น คู่ต่อสู้มีโอกาศที่ตอบโต้ด้วยการกัดหน้าหรือกัดจมูกได้ อาจจะกล่าวได้ว่า leg dog แพ้ทางหมากัดจมูก แต่ในปัจจุบันมีหมาหลายตัวที่กัดขาหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม กล่าวคือในขณะที่มันกัดอยู่นั้น มันจะสะบัดไปมาอย่างรุนแรง ทำให้คู่ต่อสู้เสียหลักและไม่สามารถตอบโต้ได้
    3. stifle dog หมายถึงหมาที่กัดขาหลัง ในปัจจุบันมีหมาที่กัดสไตล์นี้มาก และมี dog man หลายคนที่ชอบสไตล์นี้ เมื่อคู่ต่อสู้ถูกกัดขาหลังอย่างแรง จะทำให้คู่ต่อสู้หมดกำลัง ไม่สามารถยืนอยู่ได้ หมาที่กัดขาหลังนั้นจะดีกว่าหมาที่กัดขาหน้า เพราะในขณะที่กัดขาหลังคู่ต่อสู้ไม่สามารถกัดหัวหรือตอบโต้ได้เลย
    < DIV>4. chert dog ส่วนใหญ่หมาสไตล์นี้จะมีความแข็งแรงมาก ไม่สนใจการตอบโต้จากฝ่ายตรงข้าม แต่จะเข้ากัดเฉพาะหน้าอกของคู่ต่อสู้ หมาสไตล์นี้จะต้องมีหลักการกัดที่สูง คู่ต่อสู้ที่ถูกกัดหน้าอกมากๆ จะทำให้ไม่สามารถออกจากมุมของตัวเองมาต่อสู้ได้อีก
    5. nose dog จมูกเป็นส่วนที่อ่อนเนื่องจากไม่มีกล้ามเนื้อมาปิดปัง จึงนับว่าเป็นจุดอันตรายจุดหนึ่ง หมาที่ถูกกัดจมูกจะเสียเลือดมาก อาจทำให้หมดแรงหรือช๊อคได้ nose dog ที่กัดได้แน่นๆจะมีข้อดีคล้ายกับ ear dog คือคู่ต่อสู้ไม่สามารถตอบโต้เช่นกัน ข้อเสียของ nose dog คือ มีโอกาศฟันหักได้เพราะถ้ากัดผิดตำแหน่งจากจมูกเพียงนิดเดียว ก็จะกัดถูกฟันของคู่ต่อสู้ ซึ่งทำให้มีโอกาสฟันหักเองได้เช่นกัน
    ที่กล่าวมาก็จะมีอีกห ลายสไตล์ เช่น กัดปาก กัดบริเวณข้อศอก กัดท้อง ฯลฯ
    ที่กล่าวมาทั้งหมดคือสไตล์การกัดทั่วๆไปของพิทบูลสายกัด(fighting dog) มิได้หมายความว่า สไตล์ใหนต้องแพ้ทางสไตล์ใหนอย่างแน่นอน มันขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว iq ของหมาแต่ละตัว และการ condition ที่ดี ร่วมแสดงความคิดเห็นได้นะครับ
  • ถ้ากัดสไตล์แบบนี้ละครับ แบบไหนครับ
    ไฟล์แนบ
    Picture 0037.jpg 110K
  • แล้วตัวนี้หละครับแบบไหน

    http://www.youtube.com/watch?v=T2SlHmne2Is&feature=related
  • ในคลิปข้างบน เคยดูมาแล้วครับ หมาตัวนี้ โดนสั่งทำลายเลยอ่ะครับ เพราะว่ามีคนไปแจ้งว่า หมาตัวนี้กัดคนมาก่อน ผู้หญิงในคลิป ก้อเลยจะไปจับ แต่พลาด โดนเจ้าของหมา ปล่อยหมาออกมากัด สรุป กระดูก ข้อมือ แตกหมดเลยครับ น่ากลัว
  • ขอบคุณครับ
    สำหรับข้อมูล พอดีแปลไม่ออกอะครับ
    http://i196.photobucket.com/albums/aa3/park77_2007/P7339340-6.gif
  • ผมเคยอ่านเจอในบอร์ดสายกัดนะ
  • เป็นสไตร์การกัดแบบเสียตังครับ แล้วก็เป็นการกัดที่เสี่ยงกับคุกมากครับ อิอิ