หัวข้อกระทู้
ข่าวสาร
เข้าสู่ระบบ
ยินดีต้อนรับครับ
ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หมวด
หัวข้อทั้งหมด
36,995
General Issues กระทู้ทั่วไป
27,550
All Gangster กลุ่ม ชมรม คอก ฟาร์ม
87
กฎระเบียบ การขึ้นทะเบียนสุนัข ABC
9
Dog for Sale ตลาดซื้อขาย
7,857
Products & Service สินค้าและบริการ
407
ผลิตภัณฑ์/อาหารสุนัข
26
Activities กิจกรรม
138
Knowledge สาระ
880
Hit Questions/ คำถามยอดฮิต
10
สมาชิกใหม่อยากให้อ่าน !!
31
Mark Mafia
เทคนิคการให้อาหารสุนัข
74
พิตบูลกำลังจะกลายเป็นหมาจร !!
96
เปิดตัว เดอะ เฮอร์ริเคน ดุ๊ก
34
ก่อนลงขาย ขอความร่วมมือจากส...
213
เปิดตัว เดอะ เรด กราม ล๊อค
199
ช่วยแนะนำหน่อยคะ... เจ้าหมา...
49
มือใหม่อยากให้อ่าน
64
เล่นบอร์ดนี้ ให้มีความสุข
60
Welcome to Pitbull Cafe'
1118
ทำไมถึงต้อง พิตบูล
47
Pitbullzone Radio สถานีวิทย...
59
เปิดตัว The Red Warrior Dae...
79
ผลิตภัณฑ์สร้างกล้ามเนื้อ "พ...
527
คำคม วลีเด็ด มาร์ค มาเฟีย
49
ประสบการณ์จริงของการเลี้ยงห...
105
มาร์ค มาเฟีย อยากบอก !!!
81
รวมคลิป ฝึกหมาจาก PitbullZo...
43
Gramlock , the first time o...
195
ถึงมือใหม่ทุกท่าน ด้วยความป...
105
นโยบาย ปี2555 ของเว็บ Pitbu...
62
เป็นไปได้ไหม ???
165
ความแตกต่างของเอฟวันแต่ละรุ่น
79
เรียนมาเพื่อแจ้งให้ทราบ
41
กองทุน Pitbullzone (ABC)
43
ชะตาฟ้าหรือจะสู้มานะตน
133
รักหมาจริงหรือว่ารักตัวเองก...
128
สินค้าที่ระลึก Pitbullzone
9
ประวัติพิทบูล นักสู้ตลอดกาล...
96
ลงรูปครับ(สำหรับคนไม่รู้)
6
French-Bulldog กิน F1 ได้มั...
78
Proudly to present The Stro...
64
General Issues กระทู้ทั่วไป
หมา ขี้เรื้อน .. แนวคิด ตรึงใจ ..
catpit
ตุลาคม 2010
http://photos4.hi5.com/0108/718/515/PKLQzi718515-02.jpg
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
เพื่อเห็นแก่แม่ บัณฑิตใหม่หมาดจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับ
พระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถว ภาคอีสานพระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดี มีแต่ความสุขสบาย
เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะ 'นิ่ง'
ก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน
ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะ
พระใหม่มีนิสัยชอบจับผิดและชอบอวดรู้ ยกหู ชู หางตัวเองอยู่เป็นประจำ
http://25stang.212cafe.com/user_blog/25stang/O4007194-9.jpg
วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออก
บิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย ไม่รู้จักใช้
เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์ เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน
กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที
ล้างไปบ่นไปตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้
โอ้ชีวิต!ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจ สิ่งนั้นสิ่งนี้
ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่า ใครในวัดนั้น
ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระ
รูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตูนึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ
กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ
อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ ไม่ค่อยพูดไม่
ค่อยจาซ้ำนานๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วันๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาด
ใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน
การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง
เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา อุตส่าห์เขียนคำวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัดได้ร่วมยี่สิบข้อ
เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่า
ล้าสมัยรวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัย
ก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูกอีก
หนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลู
กวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้น เทศน์ให้มากขึ้นและแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงาน
อย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า
http://www.limparty.com/share_files/7xx/3670_1.jpg
เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย
ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย
ฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน
อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใต้
ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ "เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่
เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อนคันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น
เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม
เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักทีเลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการ ?คัน? นั้น
หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคเรื้อน
ซึ่งเกาะกินอยู่บนหลังของตัวมันเองนั่นต่างหาก"
พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่าได้เวลาภาวนา
หลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น
ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นว่ายนึ
กอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอก ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากคนพูดมาก กลายเป็นคนพูดน้อย
จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่น กลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
แม้เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขา เพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก
"อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรค จนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"
โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุ การกราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลาง
นึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า 'หมาขี้เรื้อน'
ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ
http://pics.hi5.com/userpics/992/101/1017830992.img.jpg
ถ้า เรายังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย
หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน** **
ไม่ ว่าเราย้ายงานไปที่ไหน เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี
คนไม่ได้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า** **
เรา พัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า
ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย **
samcha_reddog
ตุลาคม 2010
ขอบคุนคับ ที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่าน และได้จดจำไปใช้ในชีวิตในวันข้างหน้าคับ
ขอบคุนมากคับ
rockket
ตุลาคม 2010
ปัญหาไม่ได้เกิดจากใครเลย หากมาจากตัวเราเองต่างหาก เยี่ยมครับ..
rut_ae
ตุลาคม 2010
โดน ๆ ๆ ๆ ชอบมากมาย :063::063::063::063::063::063::063::063:
scubapit
ตุลาคม 2010
บทความที่ได้อ่านสัมพัสได้ถึงเหตุความเป็นจริงในสังคมคนที่เป็นอยู่ มันช่างโดนเหลือๆเกินปรกติผมไม่ค่อยอ่านเรื่อง
อะไรยาวๆ กินใจจังบทความนี้
ว่าแต่เจ้าของกระทู้ต้องการสื่อให้คนที่ใจคันเหมือนหมาได้อ่านใช่หรือไม่ถ้าใช่โทรไปบอกให้มันมาอ่านด้วย ประเสริฐแท้
[Deleted User]
ตุลาคม 2010
กระจ่างใจมากมาย คำพูด การเปรียบเทียบ ซึ้งกับการใช้ชีวิต ตรงๆ กับมนุษย์เงินเดือน ผมชอบมาก
yuki
ตุลาคม 2010
:063: ยอด คับ
ไม่ต้องลอง ใช้ได้เลย
tam
ตุลาคม 2010
สาธุ เป็นคำสั่งสอนที่ดีแท้ ขอบคุณค่ะท่าน
WOLVERINE
ตุลาคม 2010
สาธุ สาธุ สาธุ ที่รัก :o045::o045::o045:
keetag512
ตุลาคม 2010
หลังจากอ่นจบแล้ว
รู้สึกว่าเราจะเป็นอย่างหมาขี้เรื้อนหรือป่าว
เป็นคำสั่งสอนที่ดีมากคับ
อ่านแล้วเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย
ทำตัวเราให้ดีที่สุด ชอบคับ
:m100::m100::m100:
suthontr
ตุลาคม 2010
แง่คิดดีๆ...เยี่ยมครับ...:o040:
MASSIVE
ตุลาคม 2010
:063: ชอบการนำธรรมมาเปรียบเทียบให้เห็น ดวงตาธรรม :063: จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ดับทุกข์ ด้วยสติ ปัญญาเกิด เกิดผลของความสุขที่แท้จริงในจิตใจ
elephantjoe
ตุลาคม 2010
:063: เปรียบได้ดีมากๆเลย
ไฟล์แนบ
0103.jpg
108K
0116.jpg
101K
0122.jpg
93K
Stykyfingers
ตุลาคม 2010
อ่านจบ :m113:เห็นสัจจะธรรมแห่งชีวิตเลย....
H.YAI RAMA3
ตุลาคม 2010
สัจจะธรรมแห่งชีวิต เป็นมนุษย์นั้นหนีความจริงไม่พ้น
เป็นกระทู้ที่ดีเยี่ยมเลย
[Deleted User]
ตุลาคม 2010
:006::006::006:
Pitbullzone
ตุลาคม 2010
ที่บริษัทฯ ที่ผมเคยทำงาน มีพนักงานอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยพึ่งพอใจงานของตัวเอง และชอบด่าบริษัท หาว่าสินค้าสู้คู่แข่งไม่ได้ การตลาดไม่ดี ไม่มีโฆษณา สารพัดที่เขาจะนำมาอ้างเพียงเพื่อจะบอกว่า การที่เขาทำงานไม่ได้ดี เป็นเพราะบริษัทมีปัญหา
ผมเอาสไลด์นี้ขึ้นทิ้งไว้ที่ห้องประชุม ในวันประชุมพนักงานตอนต้นเดือน
ตอนกล่าวเปิดการประชุม ผมก็บอกว่า บริษัทนี้ขับเคลื่อนด้วยคน
คนมีปัญหา บริษัทจึงมีปัญหา หากใครไม่คิดจะแก้ช่วยปัญหาก็ลาออกไป
ผมต้องการคนช่วยผมแก้ปัญหมามากกว่าบ่นปัญหา หรือด่าบริษัท
ไม่นึกว่าจะได้เห็น สไลด์ นี้ในบอร์ดนี้อีกครั้งครับ
อ่านแล้วโดนมาก
weaponseaboy
ตุลาคม 2010
ถ้า เรายังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย
หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน** **
ไม่ ว่าเราย้ายงานไปที่ไหน เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี
คนไม่ได้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า** **
เรา พัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า
ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย **
---------------------------------------------------------------
เยี่ยมมากครับท่านปอ สำหรับกระทู้ดี ๆ แบบนี้
แต่เจอท้ายของกระทู้ ถึงกับสะอึกเลยครับผม อึ้งครับอึ้ง...แทงใจดำดังฉึกเลย นี่ตรูก็ด้วยนี่หว่า :012:555:012::012:
humbig69
ตุลาคม 2010
:m100:ได้อ่านแล้วได้กลับมามองตัวเอง จะได้ไปปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น
ขอบคุณมากๆๆครับผ๋ม****
Pitbullzone
ตุลาคม 2010
ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จในชีวิตได้ด้วยการ บ่น ครับ
สังเกตุดู พวกบ่นมากๆ มักเป็นพนักงานระดับล่างๆ แต่พวกลงมือมาก บ่นน้อย จะตำแหน่งสูงๆทั้งนั้น
อยากได้อะไร ให้ลงมือทำ ไขว่คว้ามา เราสามารถเปลี่ยนชะตาตัวเองได้ครับ
tutie
ตุลาคม 2010
ชอบคับสาระดีมากๆๆๆ :006:
pungpung08
ตุลาคม 2010
เยี่ยมครับ
dj_kankaw
ตุลาคม 2010
:063:
Add a Comment