บทความดีๆขอสดุดีให้คนดีๆๆครับ
ก่อนอื่นนั้นผมขอบอกก่อนเลยว่า บทความนี้ผมได้รับเมล์มานะครับไม่ได้แต่งขึ้นเองแต่ไป copy มา เห็นว่าน่าสนใจก็เลยเอามาแบ่งๆๆกัน ใครที่มีแล้วก็ผ่านๆไปใคร ที่ไม่มีก็แวะอ่าน
*******โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะครับเพราะ เนื้อหาบางตอนอาจจะมีถ้อยคำที่ไม่สุภาพ(ภาษาพิทบลู คือ ดิบ)***********
หลับให้สบายเถิดทหารกล้า....
..เรื่องจริงที่หนังสือพิมพ์ไม่(ได้)ลง+ช่วยกันสาปแช่งมันที่มันทำกับคนไทยแบบนี้ คำเตือน-รูปที่แนบมาเหมาะสำหรับคนใจแข็งเท่านั้นนะ นี่เป็นเรื่องจริงของพลทหาร และชีวิตเพื่อชาติ ครั้งหนึ่งผมก็เป็นเหมือนคุณๆนี่แหละ เข้าร้านเนท เล่นวินนิ่ง กินเบียร์ นอน แต่ผมได้สมัครไปเป็นทหารและมีคำสั่งลงใต้ ความคิดผเลยเปลี่ยนไปตลอดกาลอยากให้ทุกท่านที่อ่านรับถึงส่วนหนึ่งที่ผมไปมาแล้ว
เริ่มแรกจะถูก ส่งไปที่ค่ายอิงคยุทธิ์ จ.ปัตตานี ก่อนครับ ไม่ว่าจะมาจากไหน เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ผมเป็นหนึ่งในจำนวนที่ถูกส่งไป เมื่อถึงค่ายอิงคยุทธิ์ จ.ปัตตานี เขาจะพาคนที่ลงจากรถบัสทั้งหมดไปรวมกันที่ศาลาแดงแล้วเขาจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มทันที
กลุ่มที่ 1.จ.ปัตตานี จะอยู่ค่ายอิงคยุทธิ์บริหาร
กลุ่มที่ 2.จ.ยะลา จะอยู่ค่ายสิรินทร
กลุ่มที่ 3.จ.นราธิวาส จะอยู่ค่ายพันพัฒนาที่ 4 (ค่ายปล้นปืนที่เป็นข่าว)
ผมได้ไปอยู่ค่ายพันพัฒนาที่ 4 ตั้งที่ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อนๆผมก็กระจายกันไปพบชะตาที่ต่างกันไป วันแรกผมทั้งกล้าทั้งกังวล ปนกันทุกอย่าง อย่างที่ผมบอก ชายวัยรุ่นคนหนึ่งจากเคยเล่นวินนิ่ง ค่ำมาก็เมาด่าแม่เพื่อนขำๆ วันนนี้มาอยู่ในที่ๆพร้อมจะเป็นจะตาย ผมขอเล่าเรื่องประวัติค่ายนะครับ ยังไม่เล่าอื่นๆ ที่นี่ฝึกหนักมากๆครับ ที่ค่ายนี้เค้าจะให้พลเรือนที่ไม่รู้จักปืน เป็นทหารยิงปืนให้ได้ภายใน 13 วันโดยฝึก HK33 และ M-16A-1
ภายนอกค่ายปล้นปืนที่ผมอยู่ ค่ายนี้เหมือนอยู่กลางป่าครับ แล้วมีหมู่บ้านแขกล้อมอยู่ 3 หมู่บ้าน ไอสารเลวพวกนี้แหละครับ วันที่ปล้นปืนมันก็มาร่วมปล้น ท่านรู้หรือไม่ว่าวันที่มาปล้นปืนมันได้ไปทั้งหมด 300 กว่ากระบอก M-16A-1 โจรที่มาปล้นมีประมาณ 300 คน 300จริงๆครับ ทั้งเด็กวัยรุ่น ยันไอแก่ ใครมีปืนก็ลูกซอง M-16A-1 อาก้า ใครไม่มีปืนก็พกสปาต้า สิบเวรวันนั้นไม่มีปืนครับ มีแต่กุญแจคลัง ทหารใหม่เพิ่งฝึกเสร็จปล่อยกลับบ้านวันที่ 1 ม.ค 46 แต่เหตุเกิด 4 ม.ค 46 สงสัยไหมครับเพราะไอสัดสันดานหมาที่มาฝึกทหารใหม่ทั้งหมดเป็นแขกมันฝึกปืนเป็น กลับบ้านแล้วก็กลับมาปล้นค่ายพันพัฒนาที่ 4 มันกลับมาปล้นชาติตัวเอง รุ่นพี่ของผมเล่าว่า มันฆ่าสิบเวรด้วยมีด(ไม่ขอเล่าครับ) ตายทารุณทุกคน จ่าที่พร้อมสู้ มีอาวุธ จึงรวมกลุ่มและสถานที่กำบังพร้อมสู้ตาย ทั้งค่ายมีราวๆ แค่ 7 คน
มันเอาทหารบนกองร้อย เอาลวดราวตากผ้าที่หลังกองร้อยมัดมือมัดเท้า แล้วรวมกันหน้าคลังรุ่นพี่บอกว่ามีคนหนึงเป็นไทยพุทธ ถูกมัดข้างๆ แล้วพระที่แขวนไว้โผล่มานอกเสื้อ หนึ่งในโจรที่คลุมหน้ามันเดินเข้ามาเอาพระนั้นจุกเข้าไปในเสื้อใหม่ พร้อมกับพูดว่า มันพูดไทยไม่ชัดเท่าไร่ แล้วมันก็เดินไปคุยกับหัวหน้ามันเป็นภาษายาวี แนวๆว่าอย่าสนใจพวกนี้เลย เสียเวลาเปล่าๆ อย่างน้อยๆมันก็ทำเพื่อช่วยรุ่นพี่ผม หากไอ้หัวหน้ามันเห็นก็จะโดนสปาต้าปาดเข้าที่คอ(โดนมัดอยู่)
วีรบุรุษวันนั้น เป็นพลทหารที่เฝ้าหน้ากองรักษาการณ์ โดนยิงจนขาลากแต่ยังถ่อสังขารไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ทั้งวิ่งทั้งคลาน ทั้งแอบฝูงโจร โทรไปที่แม่ทัพภาค 4 ตอนที่โทรศัพท์ไปถึงบ้านแม่ทัพภาค 4 คุณนายภรรยาท่านรับครับ แล้วท่านก็รีบวิ่งไปปลุกท่านแม่ทัพที่ชั้นที่ 2 ของบ้าน ทีนี้ได้เรื่องครับ
ท่านรีบสั่งการกลางดึก จัดชุดไปช่วย แต่ชุดที่มาจากค่าย จ.ปัตตานี กว่าจะมาก็ตี 5 ครับมันปล้นตี 2 มันเชือดคอสิบเวรเอาปืนไปหมดแล้ว หน่วยเค้าก็มาเร็วที่สุดแล้วครับ ชุดที่มาช่วยมีทหาร 1 รถบัส รถฮัมวี่ 1 คัน ตำรวจไทยเราขับแอบตามๆมาครับ ถามว่าทำไมไม่มาเร็วกว่านี้
1.จริงๆหน่วยอาจมาถึงใน 1 ชั่วโมงครับ แต่เข้าไปไม่ได้มีการขวางถนน เรือใบ และเผายางมันก็เฝ้ารออยู่แล้วครับ ประมาณ 100 กว่าคนวงนอก เป็นชุดตัดกำลัง
2.จากข้อที่ 1 ถ้าไม่สว่างเข้าไปช่วย คือ ไปตายครับ จริงๆๆ...มันรออยู่รอฆ่าชุดที่มาช่วย มันวางแผนมาแล้วครับ
นี่แค่เกร็ดส่วนหนึ่งนะครับ ถือว่าผมเล่า นี่คือความจริงไม่ใช่แบบที่ท่านๆได้อ่านในหนังสือพิมพ์เล่มละ 10 บาท หากมีโอกาสผมจะมาโพส อีกเกี่ยวกับรายละเอี่ยด