กัดกันเลยเหรอครับ หรือ ทะเลาะแค่เล่นๆ

ใจเย็นๆ ครับอ้ายเบีย น้องใหม่มาหาความรู้ อย่า ของขึ้นใส่กั๋นเลย เว็บนี้เห้น หลายกระทู้มากเลย ขอคำแนะนำบางคนด่าเอาๆ เขาไม่รู้เขาจึงถาม ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ไม่มีใครเกิดมารู้หมดทุกเรื่อง และ ทฤษฏี กับ ปฏิบัติก็ไม่เหมือนกัน สุนัขสุกสายพัน ก็ไมเหมือนกันอีก ถ้าศึกษาแต่ ทฤษฏีก่อนเลี้ยง พอมาเลี้ยงปัญหาอาจเกิดอีกก็ได้ มันยากจะอธิบายครับ อย่าว่าผมเลย ไม่มีใครเกิดมาพร้อมทุกคนหรอกครับ วันพรุ่งนี้ ถ้าได้ไป ห้วยตึงเฒ่า น่าจะได้เจอกันครับอ้ายเบีย

10ตัวก็เลี้ยงได้คับแต่อย่าปล่อยรวมกัน :-" :-" :-"

http://pitbullzone.com/community/discussion/32697/ช่วยด้วยครับ-หมาในบ้านกัดกันเอง#Item_37

ปักหมุดอยู่ข้างบน อ่านเอาดู

สายเลือดค้ำประกันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ ถ้าเลี้ยงห่วยๆ สุดท้ายไม่ได้อย่างใจก็หาผสมอีก อีกอย่างไม่ใช่แค่เรื่องนี้ปัญหาการเลี้ยงหลายตัวมีอีกเพียบลองอ่านกระทู้เก่าๆแล้วกันครับ แต่ถ้ามั่นใจว่าเลี้ยงได้สามารถดูแลได้ดี ก็จัดไปครับ

ถึงท่าน FeeLTeHAnGsT ผมอยากบอกผ่านกระทู้นี้ถึงท่านที่กำลังเริ่มคิที่จะทำการบรีดหมานะครับอย่าซีเรียสนะครับสมาชิกทุกท่านเป็นห่วงและเราเป็นห่วงกันถึงได้บอกกล่าวกัน ผมเห็นหลายคนแล้วที่แรกเลี้ยงก็เห่อแล้วก็จากไปเพราะข้ออ้างต่างๆนาๆ แต่ผมอยากให้เชื่อในความเป็นจริงว่าถ้าคิดจะบรีดเพื่อเก็บตัวที่ดีที่สุดของเราเองผมว่าเริ่มเก็บตังค์ตั้งแต่วันนี้เพื่อหาซื้อสุนัขที่เราชอบดีกว่าบรีดเองครับ..
:-D

ผมเคยคุยกับ คนที่รับจ้างจับหมาผสม เขาบอกว่า เขาทำอาชีพนี้มาสิบกว่าปีแล้ว
มีคนจ้างให้ไปจับทุกวัน เขามีทีมงามสองทีม เฉลียมีลูกค้าวันละสามราย

เราลองมาคำนวนกันเล่นๆนะครับ
หนึ่งปีมี 365 วัน ทีมงานสองทีม ทีมละสามตัว ก็ตกวันละ 6 ตัว คูณกันได้ 2,190 แม่ต่อปี
ถ้าลูกหมาหนึ่งแม่มี 10 ตัว รวมจำนวนทั้งหมดต่อปีก็ 21,900 ตัว สิบปี ก็ 219,000 ตัว
นี่เฉพาะแค่จากการรับจ้างจับผสม ยังไม่รวมที่ผสมกันเองอีกไม่รู้เท่าไร ?

ผมจึงเชื่อว่าประชาการพิตบูลในประเทศไทย น่าจะมีเกิน 1 ล้านตัวแล้วครับ
ดังนั้นอนาคต พิตบูล จึงอยู่ในมือพวกเราทุกคน เราจะเพิ่มปัญหา หรือจะช่วยกันลดปัญหาดีครับ ?

ผมว่ามันถึงเวลาที่เราต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้วครับ
เราเลี้ยงหมาสายพันธ์อันตราย ที่มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
เราไม่ได้เลี้ยงหมาพันธ์ติงต๊อง น่ารัก คิกขุ อาโนเน๊ะครับ
ผมจะไม่ยอมให้บอร์ดนี้เป็นบอรืดปัญญาอ่อน อีกต่อไปแล้ว
มันหมดเวลา สำหรับ พวกมือใหม่หัดขับ นานแล้วด้วย
ใครก็ตามที่คิดจะก้าวเข้ามาในสังคมแห่งนี้ และอยากเลี้ยงพิตบุลให้มีความสุข
ประสบความสำเร็จ พิตบูลมันไม่ใช่หมาทดลองเลี้ยง แล้วมาทิ้งกันกลางทางง่ายๆ
ดังนั้น เมื่อจะก้าวเข้ามา ก็ควรมีการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนที่คิดจะครอบครองพิตบูลครับ


ใครก้ตามที่เข้ามาแล้วยังทำตัวเป้นภาระคนอื่น ผมว่ายังไม่เหมาะแม้แต่จะครอบครองพิตบูล
และอย่าเพิ่งคิดไกลไปจนถึงขนาดที่จะทำตัวเป็นบรีดเดอร์เลยครับ แค่มีพิตบูลอยู่ในมือก็ถือว่าแย่มากแล้ว
และการที่ใครกล้าบรีดหมาไปแล้ว แต่ยังมาถามคำถามพื้นๆ อันนี้ก็ยิ่งทุเรศครับ อยากขายหมา อยากได้เงิน แต่ไร้ความพยายาม
การพยายามในที่นี้ ผมหมายถึงการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง จากการค้นคว้า จากการอ่าน จากการทำอะไรด้วยตนเอง

แต่ไม่ใช่ การมาตั้งกระทู้ถาม กันง่ายๆแบบนี้ครับ

ผมมีพิต(มึนๆ)1ตัว ร็อต(เชื่อคำสั่ง100%)แต่แก่ 1ตัว เลี้ยงรวมกันทุกอย่าง เว้นตอนกิน จะแยกให้ห่าง(ล่ามไว้)
นอกนั้น อยู่รวมกันหมด พาจูงทีล่ะ1ตัว(กันพลาด) มีที่วิ่งเล่นเป็นรั้วปูนทึบสูง2.5เมตร ปลูกมะม่วง-กล้วยเนื้อที่2ไร่ กลางคืนมันจะเข้ามานอนที่เตรียมไว้(เปิดพัดลมให้อีก) ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา อนาคตไม่แน่นแนอน คิดว่าพอเเละครับ(แต่เวลาเห็นลูกพิตสีขาวล้วนๆ กระเป๋าตังค์มันสั่นๆ)ต้องห้ามใจตัวเอง 55+

ตามตลาดคลองถมหรือตลาดนัดตามที่ต่างๆเกือบทุกจังหวัด จะมีหมาพิทบูลจำหน่ายราคาอยู่ที่ ตัวละ 2500-4000 แต่ถ้าเป็น แนวนิยมบูลลี่ก็แพงขึ้นมาหน๋อย 5000-20000 ราคาตามตลาดหมาทั้งมีใบและไม่มีใบ แต่ถ้าขายไม่ได้ราคาก็จะลดลงมาอีก ถ้าขายไม่ออกคูรจะทำยังไง คุณกล้าฆ่ามันทิ้งหรือเลี้ยงเองทุกตัวหรือไม คิดดีๆครับ แค่ทำใบเพทยังอยากสำหรับคุณ แค่นี้อย่าเพาะหมาขายเลยครับ พ่อแม่มีคุณสมบัติจะเป็นพ่อแม่พันธุ์หรือป่าว มีอะไรพิเศษกว่าหมาตามบ้านไหม ลักษณะตามสายพันธุ์ถูกต้องหรือป่าว มีโรคทางพันธุ์กรรม มัย เช่นโรคเกี่ยวกับกระดูก หรือโรค อื่นๆ ผมว่า แปลกนะที่ประเทศไทยขายหมากันเป็นว่าเล่น ลูกหมาเหล่านั้นไปอยู่ไหนหมดไม่รวมพิทบูล ยังได้แต่ละปีเยอะมากๆ ทุกวันนี้เข้มงวดหมาแลกครุแล้วด้วย ส่งขายตามประเทศเพื่อบ้านเหมือนแต่ก่อนมี ซวยนะครับไม่มีทีออกหมา โลกความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามเอาความจริงไม่ใช้ความคิด เมืองนอกยังจัดการไม่ได้จึงต้องฉีดให้หลับ บ้านเราด่าต่างๆนานา สุดท้ายให้หาที่อยู่ใหม่ถ้ามีบ้านใหม่คนใหม่ที่ดีก็โอเค แต่ถ้าไปอยู่สถานกักกันประเทศไทยคือที่ๆปล่อยให้หมาค่อยๆตายไปอย่างช้าๆ คิดตามความเป็นจริงนะ ถ้าคุณเป็นโรคแล้วคุณไม่มีเงินรักษาคุณต้องค่อยๆตายไปอย่างช้าๆอย่างไม่มีทางเลือกคุณคิดว่าตายช้ากับตายเร็วแบบไหนดีกว่ากัน เห็นได้ชัดมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าเลี้ยงก็ต้องขังหรือ แยกแบบนี้ แล้วถ้าจัดการไม่ดีเกิดคววามเครียดจัดจนไม่สามารถคุมได้ก็จะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าคุณเลี้ยงดีตัวเดียวมันก็จะดีแบบนี้


สุดท้ายคิดให้ดีๆนั้งคิดนอนคิดตีหลังกาคิดสักนานๆหน๋อย กูไม่อยู่ใครจะดูมัน อยากไปเที่ยว ขี้เกียจตื่น อยากนอนตื่นสาย อื่นๆ ภาระล้วนๆนะครับ คิดดีๆ ยิ่งตอนมีลูกหมาด้วย เหนื่อยโคตรกินยังกับพายุ ขี้นิเหม็นทั่วบ้าน ต้องมานั้งกังวลอีก จะขายได้หรือป่าวจะขายหมดหรือป่าว ด้วยความหวังดีนะครับ จากคนขายหมา

ตัวเดียวก็เอาให้มันให้ดีก่อนนะครับ รองทำให้มันโตมาโดยไม่มีปัญหาอะไรก่อนดีกว่านะครับแล้วค่อยคิดอีกว่าจะเอาตัวที่ 2 มาเลียงนะครับ ด้วยความหวังดีนะครับ สงสารหมา

เลี้ยงตัวเดียว เอาเวลาทุ่มเทใส่ใจเขาให้ดีก่อนดีกว่า.. หมาจะสายเลือดเทพหรือโนเนม.. มันอยู่ที่เจ้าของว่าจะปั่นมันให้เป็นอะไร เห็นมาเยอะไล่สายมาอย่างเทพแต่ตัวหมานี้ :o008: เห็นแล้วจะเป็นลม หมาโนเนมหลายตัวเห็นแล้วยังต้องมองแล้วมองอีก ความใส่ใจของเจ้าของ..สำคัญที่สุด เชียร์ให้เลี้ยงตัวเดียว :)>-

ยาวเฟื้อยเลยครับ พี่ๆ ขอบคุณมากครับ แต่ จากที่ผมเข้ามาเว็บนี้เห้นเรื่องราวมากมาย อย่างเช่น คนขายบางคนกำลังตั้งกระทู้ขาย ยังไม่ทันลง ขายเสร็จ ไม่ทันลงรูป ก้มีคนมาด่า มาว่าเขา ว่า ขายอะไรเนี้ย ผีเหรอ พอเขาลงสาย ลงรูป ก้เงียบหายไป ยัง กรณี ป้า คนหนึ่งที่มีข้อพิพาท เขาอ้างคำพูดในเว็บนี้ แต่จริงๆ แล้ว มันก็มีดาต้าเบสในเว็บที่เก็บไว้สามารถนำมาอ้างได้ผมว่า พี่มาร์ค น่าจะทำเว็บใหม่นะครับ แนะนำ เฉยๆ เพื่อ อะรไลหายๆอย่างการที่เราพิมพ์ไป อาจเป้นการทำ อาชยากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เลยก็ว่าได้ครับ สามารถนำข้อมูลเหล้าน้ไปใช้ในชั้นสาร ที่ผมว่าน่าจะมีที่สุดคือการสมัครสมาชิกที่ัรัดกรุ่มกว่านี้ ควรใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปยืนยันตน เวลาทำผิดอะไรไป เขียนอะรโพสอะไรจะได้ ระมัดระวังหรือเกรงใจกันมากกว่านี้ อันนี้แนะนำนะครับ ถ้าอยากได้ ยูสเซอร์ ที่มคุณภาพ ควรทำแบบนี้ไปเลย ขอบคุณครับ

แต่ของผมมันไม่ได้อะไรมากนะมันแค่เล่นกันบางทีจะแรงไปหน่อย ไม่ได้ให้มันอยู่ด้วยกันนานๆจะเอามาเล่นด้วยกันเฉยๆ แต่ที่แน่ ๆเลี้ยงตัวเดียวดีกว่าครับจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลนั้นนี่ ๆ :o019: :o019: :o019: :o019: :o019:

ประการสำคัญที่มือใหม่ไม่มีวันมองเห็น ( ทั้งที่เป็นเรื่องที่มือเก่าย้ำหนักหนา ) คือ
ค่าความเสี่ยงต่อความเสียหาย ที่ผู้เลี้ยงที่ขาดความระมัดระวัง ร่วมกับสุนัขพิตบูล 1 ตัวจะสร้างได้

ถ้ามากกว่าหนึ่งตัว เรายิ่งต้องแบกภาระที่มองไม่เห็นนี้ เป็นทวีคูณ
แล้วจ่ายขั้นต้น ด้วยความเครียดรายวัน จากธุระที่เรา, ครอบครัว และคนรอบข้าง ต้องจัดการดูแลเพิ่มขึ้น
แล้วรอวันจ่ายจริง ... เมื่อวันที่ความผิดพลาดมาถึง

ตัวเลข ตามบิลค่าเสียหาย สูง-ต่ำ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของกรณี


ข้ามพ้นธุระ และความสิ้นเปลืองต่างๆเบื้องต้นแล้ว สมมุติว่า
พิตตัวผู้ ที่เราลงทุนเลี้ยงนี่ เติบโตขึ้นมา หน้าตาออกทะเลไปเป็นแมวน้ำ
หรือมีข้อตำหนิ ไม่งามอย่างใจขึ้นมาเสียแล้ว
จะไม่เป็นการเสียเวลาเปล่าหนักเข้าไปอีก? เราก็คงต้องหาตัวใหม่มาเลี้ยงเพิ่มเข้าไปอีกหรือไม่
บังเอิญ ถ้าลูกออกมา มีหางคิ้ง ฟันยื่น ตาเหล่ เราจะผลักภาระไปให้ใครเลี้ยงดีครับทีนี้

คำว่า "อันตราย" เป็นคำสั้นๆ
ขนาดที่แท้จริงของมัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของคนพูด

สำหรับผม อันตรายหมากัดกันเรื่องเล็ก
แต่ การตั้งใจทำสิ่งที่ควรจะได้ความสุข แล้วได้ทุกข์มาแทนเพราะคาดไม่ถึง อันนี้เสียหายหนัก

พิตบูล ไม่ใช่สุนัขตัวแรกของผม
สำหรับผม เลี้ยงครั้งละตัวเดียว พิตตัวแรก 16ปีตายในอ้อมแขนผม
สองปีผ่านไป ตัวที่สองเพิ่งครบขวบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ยืนยันว่า คิดไม่ผิดที่เลี้ยงครั้งละหนึ่งตัว อีกหนึ่งเสียงนะครับ ;-)

กรณี มีตัวเงินตัวทอง มาอ้างว่า ผมในฐานะเจ้าของบอร์ด ต้องมีส่วนรับผิดชอบ หากมีคนไปด่าว่าให้เขาเสียหาย ผมก็ยัง งง ว่า ทำไม ?

หนึ่ง ผมไม่ได้ไปเชิญชวนให้เข้ามาเล่น มันเข้ามาเอง
สอง ถ้าไม่ไปกวนตีน ชาวบ้าน ทำตัวเหมือนคนปกติ จะโดนเขาด่าได้อย่างไร
สาม เว็บนี้เป็นเว็บส่วนตัว หากพิจารณา แล้วเห็นว่า ใครทำตัวมีปัญหา ผมมีสิทธิ สั่งห้ามไม่ให้เข้ามาเล่น

=D> =D> =D> :-@ แบบนี้ก็ดีแล้วครับแก้ไขตามคน 100 คนก็ตายสิครับ เค้าทำมาแบบนี้เพื่อง่ายเพื่อสะดวกผมเชื่อว่ามีหลายๆท่านใช้คอมไม่เก่ง คือพอเล่นได้ ก็จะเล่นๆกันเอา มาแชร์กันทั้งเรื่องดีไม่ดี บอร์ดอยู่มา 15 ปีจะมาพัง ไม่ได้ครับ แต่ก่อนมีผีมีอะไรยังเล่นกันสนุกๆ อย่าคิดมาเป็น เป็นกำลังใจให้ทีมงานพิตบูลโซนทุกท่านครับ :)>- สู้ๆครับ

ก่าหาหัน จะไปฟั้งเตื้อ 55

อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า
ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง

วันๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้)
สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่างเห็นแล้ว
เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง
เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้
หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้
สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น
และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วย
ตนเองควรจะกระจาย อำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวงพ่อเจ้าอาวาส
มานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย
ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่าน
ให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระูรูปไหนเป็นคนเขียน

อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ
เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว
ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้
อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน

แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่าเจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้น
หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก

พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า
ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็น
แล้วขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น
ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบแต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อยจากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก
"อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"

โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า หมาขี้เรื้อน
ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

:o017:

ปาดโทธัมโมสังโค กระทิงแดง บาสแซ่แรงเยอร์