หัวข้อกระทู้
ข่าวสาร
เข้าสู่ระบบ
ยินดีต้อนรับครับ
ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หมวด
หัวข้อทั้งหมด
36,995
General Issues กระทู้ทั่วไป
27,550
All Gangster กลุ่ม ชมรม คอก ฟาร์ม
87
กฎระเบียบ การขึ้นทะเบียนสุนัข ABC
9
Dog for Sale ตลาดซื้อขาย
7,857
Products & Service สินค้าและบริการ
407
ผลิตภัณฑ์/อาหารสุนัข
26
Activities กิจกรรม
138
Knowledge สาระ
880
Hit Questions/ คำถามยอดฮิต
10
สมาชิกใหม่อยากให้อ่าน !!
31
Mark Mafia
เทคนิคการให้อาหารสุนัข
74
พิตบูลกำลังจะกลายเป็นหมาจร !!
96
เปิดตัว เดอะ เฮอร์ริเคน ดุ๊ก
34
ก่อนลงขาย ขอความร่วมมือจากส...
213
เปิดตัว เดอะ เรด กราม ล๊อค
199
ช่วยแนะนำหน่อยคะ... เจ้าหมา...
49
มือใหม่อยากให้อ่าน
64
เล่นบอร์ดนี้ ให้มีความสุข
60
Welcome to Pitbull Cafe'
1118
ทำไมถึงต้อง พิตบูล
47
Pitbullzone Radio สถานีวิทย...
59
เปิดตัว The Red Warrior Dae...
79
ผลิตภัณฑ์สร้างกล้ามเนื้อ "พ...
527
คำคม วลีเด็ด มาร์ค มาเฟีย
49
ประสบการณ์จริงของการเลี้ยงห...
105
มาร์ค มาเฟีย อยากบอก !!!
81
รวมคลิป ฝึกหมาจาก PitbullZo...
43
Gramlock , the first time o...
195
ถึงมือใหม่ทุกท่าน ด้วยความป...
105
นโยบาย ปี2555 ของเว็บ Pitbu...
62
เป็นไปได้ไหม ???
165
ความแตกต่างของเอฟวันแต่ละรุ่น
79
เรียนมาเพื่อแจ้งให้ทราบ
41
กองทุน Pitbullzone (ABC)
43
ชะตาฟ้าหรือจะสู้มานะตน
133
รักหมาจริงหรือว่ารักตัวเองก...
128
สินค้าที่ระลึก Pitbullzone
9
ประวัติพิทบูล นักสู้ตลอดกาล...
96
ลงรูปครับ(สำหรับคนไม่รู้)
6
French-Bulldog กิน F1 ได้มั...
78
Proudly to present The Stro...
64
Knowledge สาระ
สำหรับคนรัก Pitbull
baba
ธันวาคม 2008
ออกตัวก่อนว่าขอมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมจากพี่ๆที่ได้ให้ไว้ในบอร์ดต่างๆเพื่อไว้ศึกษาเองในเวลาหลายปีเห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาเผยแพ่รอีกที่ครับ ต้องขอขอบคุณเจ้าของบทความทั้งหมดนี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
โปรแกรมนี้ครับ รับรองหมาคุณกล้ามใหญ่แน่
ตื่นตอนเช้าให้กินโปรตีนผง (ซื้อตามร้าน GNC หรือไปถามพวกเล่นกล้ามว่าซื้อที่ไหน) 2 ช้อนตวง + นมหวาน 1 กล่อง
1 ชั่วโมงให้หลังจูงเดินให้ลาก หรือจับลากน้ำหนักเป็นเวลา 30 นาที
1 ชั่วโมงต่อมาให้กินอกไก่ดิบ (รวมหนังและกระดูก) 4 อก + ข้าว 1 ถ้วย
5 ชั่วโมงต่อมาให้กินอกไก่ดิบ (รวมหนังและกระดูก) 2 อก + ข้าว 1 ถ้วย
5 ชั่วโมงต่อมาให้กินอกไก่ดิบ (รวมหนังและกระดูก) 5 อก
1 ชั่วโมงต่อมาพาวิ่งเครื่องวิ่ง 10 นาที (แบบวิ่งเร็ว) หรือ 40 นาที (แบบวิ่งเหยาะ)
30 นาทีหลังจากวิ่งเสร็จให้กินโปรตีนผง 2 ช้อนตวง + นมหวาน 1 กล่อง
ถ้ามีใจอยากให้หมากล้ามใหญ่จริง ใช้แค่นี้ก็ได้ ถ่ายรูป และชั่วน้ำหนักไว้ด้วยนะ แล้วอีก 2 เดือนมาถ่ายและชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบใหม่ ไม่ต้องไปซื้อสเตอร์รอยด์ หรือเม็ดแอนนาบอลให้เสียเงินฟรี
สูตรขุนลูกหมาพันธุ์พิทบลู
ไข่เจียวใส่น้ำมันเยอะๆ 6 ฟอง ข้าวกล้อง 3 ถ้วย เนื้อหมูต้ม 5 ขีด ผักกาด 5 ใบ นมวัว 2 กล่อง วิตามินรวม 1 เม็ด เอามาใส่เครื่องแล้วปั่นรวมกัน ให้กินวันละ 5 มื้อเช้า สาย บ่าย เย็น ก่อนนอน
พอผ่านไป 2 วัน เปลี่ยนเมนูเป็นนมวัว 2 กล่อง ซีเรียล 2 ถ้วย เนื้อวัวดิบ 5 ขีด แครอท 1 หัว ปลาทูน่า 2 กระป๋อง วิตามินรวม 1 เม็ด ใส่เครื่องแล้วปั่นรวมกัน ให้ 5 มื้อเหมือนกัน
อีก 2 วันก็เป็นสันในไก่ หรืออกไก่ bb 5 ขีด ข้าวโพด 300 กรัม นมหวาน 2 กล่อง กล้วยน้ำว้า 3 ลูก ไข่ต้ม 6 ฟอง ใส่เครื่องแล้วปั่นรวมกัน ให้ 5 มื้อ
1 วันที่เหลือให้อาหารเม็ดสูตรลูกหมา แช่น้ำให้นิ่ม ผสมกับไข่ 2 ฟอง และน้ำมันข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ และก็นม 2 กล่อง คนให้เข้ากันแล้วเอาไปเข้าเวฟ 5 นาทีครับ แบ่ง 5 ส่วนให้กิน
ปล.ลองดูครับได้ผลๆ
ไฟล์แนบ
mini211108212430521092131325[1].gif
90K
baba
ธันวาคม 2008
สำหรับสุนัขพันธ์นี้แบ่งออกเป็น 2 สายหลัก ๆ ครับ
1.อเมริกัน แสตฟฟอร์ด ไชร์ เทอเรียร์
2.อเมริกันพิตบูลเทอเรีย
สองสายนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ๆ โดยที่บางทีอาจจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำไปครับ แต่ถ้าจะให้ชัวร์มันต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ สำหรับตัวผมเองน่ะครับ ผมว่าแสตฟนี้ จะมีลักษณะของช่วงตัวใหญ่ ซึ่งพัฒนามาเพื่อการประปวด และก็เป็นเพื่อนเล่นของมนุษยืจึงมีความนิ่งในสายเลือด สังเกตได้จากการที่อยู่กับคนได้เกือบทุกคน ยกเว้นประเภทถ้ำมองอะไรอย่างนั้นอีกอย่างคือสังเกตง่าย ๆ คือ แสตฟ จะมีจมูกสีดำ และจะมีสตอปที่หน้าทำมุมเยอะกว่า (คือมุมหักระหว่างจมูกกับกะโหลก) แล้ว ส่วนใหญ่จะมีจมูกสีดำ เนื่องจากจมูกแดงนี่ประกวดไม่ได้
ส่วนอเมริกันพิตบูลเทอร์เรีย นี่เป็นสายที่พัฒนามาเพื่อเกมส์กัดโดยเฉพาะ แต่กับผู้เป็นเจ้าของเอง สายนี้จะมีความรักเป็นส่วนตัว คือดุกับหมาแต่กับเจ้าของ ตีให้ตายก็ไม่กัดครับซึ่งสายนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทอีกเช่นกันคือ 1.จมูกดำ 2.จมูกแดง (old fammily Red Rednose)
นั่นเอง ครับ ประเภทนี้จะมีจมูกสีแดง ตัวสีน้ำตาลแดง เล็บแดง ตาสีเหลือง อาจมีมาร์คกิ้งขาวได้แต่ไม่เกิน 30 % ของสีทั้งตัว และมักจะมีแรงขับสูง คือ ถ้าเทียบกับพวกจมูกดำ แล้วอึดกว่า หนักหน่วงกว่า โหดกว่าอะไรทำนองนี้อ่ะครับ
ส่วนสายที่คุณ ปู บอกว่าอยากได้ เป็นสาย Re หรือ เรเซอร์เอจ คือ เป็นการพัฒนาของฝั่งตะวันตกที่อยากให้พิตบูลมีขนาดที่เล็กลง แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่เหมือนเดิมคือ จิตใจนี่ยังคง100% เหมือนเดิม แต่ถ้าจะให้นำไปกัดคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการพัฒนามันไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะนำมากัดครับ
ส่วนที่ถามว่าสายกัดคืออะไร สายกัดก็พิตบูลนี่แหล่ะครับ เพียงแต่ลักษณะจะแตกต่างกับสายโชว์ คือมีลักษณะที่เพรียวบางกว่า มีความคล่องตัวมากกว่า ทนทานกว่าก็เท่านั้นครับ ก็เหมือนกันนักมวยอ่ะครับ สายโชว์(นักกล้าม) vs สายกัด(นักวิ่งมาราธอน) คือไม่ได้ให้เอามาเปรียบมวยน่ะครับ แต่จะเห็นความแตกต่างตรงที่ สายโชว์นี่ สวย กล้ามเนื้องาม แต่ถ้าถามว่าเอามาวิ่งให้ได้เหมือนสายกัดไหม ไม่ได้ครับ ส่วนสายกัด กล้ามเนื้อ เล็ก ไม่มีไขมันส่วนเกิน หรืออาจจะดูผอมเหมือนหมาวัดบ้านเรา แต่ถ้าถามว่าวิ่งได้นานแค่ไหน ก็ลองคิดดูเอาเองครับเด๋วผมจะลองลงตัวอย่างให้ดูน่ะครับ
ขอบคุณครับ
ครั้งที่ 1 อายุ 1 เดือน ครั้งที่ 2 อีก 1 เดือน ครั้งต่อมา ทุก 2 เดือน >>
ตรวจสุขภาพ และ ถ่ายพยาธิ(ยา)
=============================
ครั้งที่ 1 อายุ 2 เดือน ครั้งที่ 2 อีก 2 เดือน ครั้งต่อไป ปีละครั้ง >>
วัคซีนลำไส้อักเสบติดต่อ
วัคซีนไข้หัดสุนัข ( ,ตับอักเสบ ,เลปโตสไปโรซีส)
หรือ วัคซีนรวม 2 โรคข้างต้นฉีดในเข็มเดียวกัน
ไข้หัดสุนัข ( ,ตับอักเสบ ,เลปโตสไปโรซีส)
ลำไส้อักเสบติดต่อ ( ,พาราอินฟลูเอ็นซ่า ,อะดิโนไวรัส II)
==================================
ครั้งที่ 1 อายุ 2-3 เดือน ครั้งที่ 2 อีก 2 เดือน ครั้งต่อไป ปีละครั้ง >>
วัคซีนพิษสุนัขบ้า หรือ วัคซีนรวม 3 โรคข้างต้นฉีดในเข็มเดียวกัน
ไข้หัดสุนัข ( ,ตับอักเสบ ,เลปโตสไปโรซีส)
ลำไส้อักเสบติดต่อ ( ,พาราอินฟลูเอ็นซ่า ,อะดิโนไวรัส II)
พิษสุนัขบ้า
ไฟล์แนบ
DSC01301.JPG
95K
baba
ธันวาคม 2008
โครงสร้างและหน้าที่ของพิตบูล
ถ้าคุณหยิบตำราหมาพันธุ์ต่าง ๆ มาอ่านสักเล่ม..คุณจะเห็นเขาบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของหมาพันธุ์นั้น ๆ ..หลาย ๆ พันธุ์มีประวัติวีรกรรมของบรรพบุรุษยิ่งใหญ่มาก เช่น ไอริซ วู๊ฟฮาวน์ ล่าหมาป่า..เกรทเดนล่าหมูป่า..รอ็ตไวเลอร์ ใช้ในกองทัพโรมันว่ากันว่ามันงับข้อขาม้าแตกหักได้อย่างง่ายดาย!..
ประวัติทั้งหลายมันก็คือหน้าที่ประจำพันธุ์ของมัน..ฉะนั้นโครงสร้างมาตรฐานของแต่ละพันธุ์ก็ถูกคนเรามากำหนดว่าต้องเป็นอย่างไรจึงจะทำหน้าที่นั้น ๆ ได้ดี..
บรรดาสมาคมหมา ๆ อย่าง
AKC,UKC,FCIฯ ต่างก็ตอบสนองนักเพาะพันธุ์หมา..ร่วมกันร่างมาตรฐานของแต่ละพันธุ์และให้เหตุผล..เถียงกันหน้าดำหน้าแดง...หัวต้องแบบนี้ หูต้องอย่างนี้ เส้นหลังต้องตรงเท่านั้น!..ฯลฯ.ทุกอย่างถูกกำหนดขึ้นในห้องประชุม..
พอมาตรฐานโครงสร้างของหมาถูกร่างออกมา ลงนามยอมรับกันแล้วนำออกเผยแพร่..เป็นที่น่าสังเกตว่ามาตรฐานหมาเกือบทั้งหมดมีความคิดไปแนวเดียวกัน คือ ความสวยงาม..สวยตามความนึกคิดของคน..ก็ไม่รู้ว่าหมามันมองพวกเดียวกันอย่างไร!?..
ดูง่าย ๆ หมาหลายพันธุ์กำหนดไว้ว่าเส้นหลังต้องตรง ลาดต่ำลงจากวิทเทอร์สู่บั้นท้าย..เหตุผลว่าต้องตรงจึงจะแข็งแรง..ถูกต้องเลย..ยิ่งตรงยิ่งแข็ง!..แต่มันแข็งทื่อ!..ไม่มีความยืดหยุ่น!..
คนที่เลี้ยงหมาไว้ใช้ประโยชน์จริง ๆ เขาคัดพันธุ์กันที่ความสามารถหมาล่าหมูป่าถ้ามันไม่มีความสามารถ มันคงโดนหมูขวิดตายไปแล้ว!..*พวกที่รอดมาจึงมีโอกาสได้ผสมพันธุ์แพร่ลูกหลาน...
หมาพิตบูลที่ใช้ในเกมต่อสู้ก็เช่นกัน..หมาตัวที่ใจเสาะ อ่อนแอ..ไร้ความสามารถ..คงไม่มีด็อกแมนคนไหนอยากเก็บไว้..
ว่าไปแล้วพวกด็อกแมนก็ไม่ได้รู้เรื่องพันธุกรรมลึกซึ้งแต่อย่างใด..แต่เขาเข้าใจในตัวหมาที่ความเก่งของมัน เลือกตัวเก่ง ๆ ผสมกัน..มันเหมือนธรรมชาติช่วยคัดสรร..หมาป่าก็เช่นกันหมาจ่าฝูงกัดเก่งจึงมีโอกาสได้ทับตัวเมีย..แน่นอนมันจะกัดเก่งได้จำต้องมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า..หมาจะแข็งแรงได้มันต้องมีโครงสร้างที่ถูกต้องตามธรรมชาติของพันธุ์..หาใช่มนุษย์ไปกำหนดไม่!..
มาดูใกล้ตัวเราหน่อย..หลังจากองค์กรต่าง ๆ ต่อต้านการแข่งขัน เกมพิต..หาว่าโหดร้าย ทารุณ!..แต่เพื่อคงอยู่ของเผ่าพันธุ์..เขาหลีกเลี่ยงมาจดทะเบียนเป็นอเมริกัน สแตฟฟอร์ดชายด์ เทอร์เรีย..แล้วมาตรฐานพันธุ์ของมันก็ถูกกำหนดโดยคน..บนโต๊ะประชุมตามที่กล่าวข้างต้น..อีกกลุ่มพวกชื่นชอบความเก่งกาจของพิตบูล เขาก่อตั้งสมาคม ADBA แล้วก็ร่างมาตรฐานพันธุ์ภายใต้แนวคิด คงความเก่ง คงศักยภาพไว้..จริง ๆ มันก็ไม่ยากเย็นอะไร..เอาพวกตัวที่กัดเก่ง ๆ ระดับแชมเปี้ยนหลาย ๆ ตัวมาวิเคราะหโครงสร้างพวกมันดูว่ามีอะไรเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน..
หมาพิตบูลเก่ง ๆ อาจมีรูปร่าง สีสันแตกต่างกันไป..แต่มีจุดหลัก ๆ ที่ใกล้เคียงกันคือบั้นท้าย..เชื่อกันว่าพละกำลัง 70% ถูกส่งมาจากส่วนท้ายตั้งแต่บั้นขาหลัง (Stifle) ตรงนี้ถ้าเทียบเป็นคนก็คือเข่า..พละกำลังจะถูกส่งจากขาหลังนี้ส่งผ่านมาถึงสะโพก (Hip) ถึงบั้นเอว (loin) ?เวลาแยกหมากัดกันเราหนีบเอวมันไว้..เท่านี้ก็ตัดกำลังได้เกือบหมดแล้ว..
หมาพิตบูลนักสู้ส่วนใหญ่มักมีส่วนท้ายโค้งมนลงเล็กน้อย..ตำแหน่งหาค่อนไปทางต่ำเล็กน้อย(Low set tail)..ปั้นขาหลังต้องกว้าง มีกล้ามเนื้อนูนเด่นชัด และต้องมีมุมโค้ง(Angulation)..หมาที่ไม่มีมุมโค้งมองดูเหมือนขาหลังตึงพวกนี้จะไม่มีแรงส่งที่ดี..ส่วนพวกที่มีมุมขาหลังโค้งมีมุมมากเกินควร (over Angulation) เช่น หมาเยอรมันเช็พเพอด พวกนี้มักมีปัญหาเรื่องข้อกระดูกและสะโพก (Hipdysplasia)
คนเลี้ยงหมาตามแบบฉบับของสมาคมใหญ่
!..อาจยืนมองว่าหมาพิตบูลพวกนี้ช่างขี้ริ้ว ขี้เหร่!..กะโหลกก็ไม่โตเหมือนหม้อข้าว!..ท้ายก็โด่ง ๆ ความจริงวันนี้คือ นิตยสารไทม์เคยนำมาตีพิมพ์ว่าหมาทุกพันธุ์ที่รับรองโดย AKC ในอเมริกามากกว่า 25 % ต่างมีโรคประจำพันธุ์..และน่าใจหายว่าหมาอเมริกันสแตฟฟอร์ดชายด์ เทอร์เรีย ปรากฏมีโรคข้อสะโพกห่างติดอันดับต้น ๆ..
หมาพิตบูลที่ใช้ในเกมทั้งหมดถูกคัดพันธุ์โดยยึดหน้าที่เป็นหลัก..ส่วนหมาพันธุ์อื่น ๆ ถูกคัดพันธุ์โดยยึดมาตรฐานความงาม (ในสายตาคน)เป็นหลัก..โดยไม่มีการพิสูจน์ตามหน้าที่บรรพบรุษของพวกมัน..
ผมยังไม่แน่ใจว่าไอริชวู๊ฟฮาวน์วันนี้ยังคงล่าหมาป่าได้หรือไม่?เกรทเดนยังคงล่าหมูป่าได้หรือไม่?..ร็อตไวเลอร์ยังคงไล่งับขาม้าได้หรือไม่?..แต่ผมแน่ใจว่าบลูด็อกเมื่อหลายร้อยปีก่อนจนถึงวันนี้ยังคงใช้สู้กับวัวได้ (บลูด็อกโบราณยังไม่สูญพันธุ์สายเลือดยังบริสุทธิ์เพราะมันคือพิตบลูนักสู้ทุกวันนี้)
ป.ล.หมาที่เกิดมามีโรคประจำพันธุ์ติดตัวมาด้วย มันก็คือความโหดร้ายทารุณเหมือนกัน!.
ขอขอบคุณ บทความดีๆ จากคุณ ทรงพล
baba
ธันวาคม 2008
บัญญัติ 10 ประการสำหรับเจ้าของพิทบูล
1.คิดคำนึงถึงวัตถุประสงค์ก่อนเลี้ยง ว่าเลี้ยงเพื่ออะไร?เป็นกีฬา เป็นเพื่อนฯ แล้วหาข้อมูลแหล่งขายพิทบูลที่เพาะพันธุ์ตามหน้าที่นั้นๆ ควรสืบแหล่งที่มาของสายเลือดแน่นอนเชื่อถือได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้จัก พ่อ แม่พันธุ์...ให้ระลึกไว้เสมอว่าผู้ผสมพันธุ์(breeder)หรือคนขายพิทบูลที่เคยมีประวัติว่าเคยหลอกลวง แจ้งข้อมูลเท็จ ถึงเขาพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่คุณก็จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องจากเขาไม่ถึง 50 %
2.ลูกสุนัขควรมีสุขภาพร่าเริง แววตาแจ่มใสไม่มีขี้ตา เหงือกสีชมพูสดใส จมูกชื้น ผิวหนังสมบูรณ์ยืดหยุ่นดี ขนเป็นเงามัน จับลูกสุนัขพลิกดูใต้ท้องต้องไม่มีตุ่มหนอง ดูอุ้งเท้าทั้งสี่ไมแผลตกสเก็ด ถ้าเป็นไปได้ดูว่าลูกสุนัขถ่ายดีหรือไม่ ถ้าถ่ายเหลวท้องเสียเป็นมูกเลือดมีกลิ่นคาว อย่าได้ไปซื้อ!ลูกสุนัขต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์
3.อย่าคิดเพียงจะเลี้ยงพิทบูล เพื่อไปกัดสุนัขแถวบ้าน ปกติสุนัขทั่วไปโดนพิทบูลกัด แค่ครั้งเดียวพวกมันก็เข็ดไปจนตาย แต่คุณต้องเลี้ยงพิทบูลไว้ตลอดชีวิตมัน โชคร้ายมันหลุดไปกัดสุนัขที่มีราคาแพงเจ้าของเขาเอาเรื่อง คุณก็จะลำบาก มันไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวง
4.คิดเสมอว่าเรากำลังเป็นเจ้าของพิทบูลไม่ใช่พุดเดิ้ล ทุกครั้งที่จูงออกนอกบ้านต้องอยู่ในสายจูงตลอดเวลา อย่าได้เที่ยวยุให้พิทบูลไปกัดสุนัขตัวอื่น คำยั่วยุของเจ้าของพิทบูลมันกระตุ้นพลังต่อสู้ได้เป็นอย่างดี แล้วมันก็ฝังใจว่ากัดสุนัขข้างถนนเป็นสิ่งที่เจ้านายต้องการ......พิทบูลกัดเก่งๆระดับแชมเปี้ยนบางตัวไม่สนใจสุนัขข้างถนน แต่พอเข้าสังเวียนมันเปรียบเสมือนระเบิดไดนาไมท์
5.พิทบูลต้องได้รับการฝึกให้รักเด็กตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข ไม่ว่ากับเด็กในครอบครัวหรือเด็กข้างบ้านหรือเด็กที่ไหนก็ตาม สอนเด็กให้เล่นกับพิทบูลด้วยความสุภาพ อ่อนโยน ให้เด็กยื่นอาหารให้พิทบูลเป็นครั้งคราว
6.พิทบูลไม่จำเป็นต้องฝึกอารักขาแบบผิดๆ ชนิดที่เห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด มีพิทบูลไม่น้อยสามารถอารักขาเจ้าของได้โดยไม่เคยฝึก พวกมันสามารถแยกได้ว่าใครมาดี ใครมาร้าย มีรายงานบ่อยครั้งว่าสุนัขฝึกอารักขา(ทุกพันธุ์)ชอบกัดเด็ก กัดผู้หญิง มากกว่ากัดโจรกัดผู้ร้าย
7.บริเวรบ้านที่มีรั้วต่ำๆรั้วไม่แข็งแรง คุณจะปล่อยพิทบูลได้เมื่อคุณอยู่กับมันเท่านั้น บางทีคุณอาจจะมั่นใจว่ามันนิสัยดี เรียบร้อย ไม่กระโดดออกแน่นอน ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน สิ่งกระตุ้นนอกรั้วทำให้พิทบูลสามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ง่ายดาย
8.พิทบูลห้ามผสมข้ามพันธุ์กับสุนัขพันธุ์อื่นจะด้วยความจงใจ หรือประมาทก็ตาม มีลูกสุนัขผสมระหว่างพิทบูลกับพันธุ์อื่นๆพวกมันมีนิสัยดีมาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเชื่อมันได้เสมอไปทุกครอก ทุกตัว พวกลูกผสมเราไม่อาจทำนายนิสัยของมันได้ พอพลาดพลั้งซักครั้ง ที่นี้ก็เหมากันหมดว่าเป็นพิทบูล
9.อุปกรณ์สำหรับพิทบูลแตกต่างจากสุนัขทั่วๆไปในบางอย่าง ไล่ลำดับความสำคัญจากปลอกคอ ต้องผลิตพิเศษสำหรับพิทบูลโดยเฉพาะ ไม้งัดปากไม่ว่าคุณจะเป็น DOGMAN หรือไม่ก็ตาม เลี้ยงหนึ่งตัวมีหนึ่งอัน เลี้ยงหลายตัวมีสองหรือหลายอัน บ่อยครั้งที่พิทบูลไม่ผิด สุนัขอื่นวิ่งเข้ามากัดก่อนแต่คุณก็ต้องจับพิทบูลงัดปากออกอยู่ดี สายจูงมีพิเศษผลิดเพื่อพิทบูลโดยเฉพาะ สำคัญอย่าเอาสายจูงล่ามพิทบูล โซ่และหลักล่ามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพิทบูล โซ่สุนัขที่มีวางขายทั่วไปมันทนแรงของพิทบูลได้ หมุดหลักล่ามหากเพียงตอกลงดินสักวัน มันจะลากทั้งโซ่และหมุดวิ่งเข้าไปหาสุนัขตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด กรงเหล็กติดมุ้งลวดอันนี้มีวางขายตามท้องตลาด อุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดนี้ควรหมั่นตรวจสอบทุกสัปดาห์ เจอบ่อยคือ ตะขอทองเหลืองมักเสื่อมก่อนกำหนด ปลอกคอหลวมเกินไปพิทบูลถอยหลังถอดออกได้ บางทีก็แน่นเกินไป จนเกิดการระคายเคือง พอเกิดเหตุกัดกันไม่มีไม้งัดปาก หรือมีแต่จำไม่ได้ว่าวางใว้ตรงไหน พอตกอกตกใจก็เอาด้ามไม้กวาดมางัดเอาน้ำสาดก็ไม่ปล่อย ลองนึกภาพดูคนอื่นเขาจะมองภาพพจน์พิทบูลเลวร้ายแค่ไหน
10.เมื่อคุณหลงใหลพิทบูล เริ่มลึกในเกมส์ ลึกในวงการ หนีไม่พ้นว่าคุณจะต้องมีกลุ่มแนวร่วมความคิด วงการพิทบูลก็เหมือนกับทุกวงการ มีขัดแย้งกันเป็นกลุ่มๆ คุณเองอาจสนิทกับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งเอาเป็นเอาตายกับกลุ่มอื่น จากสภาพความจริงตัวหัวหน้ากลุ่มไม่กินเส้นกับใคร ลูกกระพรวนก็ไม่กินเส้นตามไปด้วย ให้คุณศึกษาเบื้องหลังของคนที่คุณจะรวมกลุ่ม ถ้าเขาเป็น DOGMAN ก็ต้องมีกิจกรรมแข่งขันบ่อย ชอบพิสูจน์คุณภาพในสังเวียนไม่ใช่ในวงเหล้า บางกรณีถ้าในกลุ่มของคุณมีคนโครตโกง(เป็นพันธุกรรม)แถมยังชอบทอล์คแอนด์บาร์คมากกว่าไฟต์ คุณจะถูกมองเป็นประเภทเดียวกับเขา เสมือนคุณไปอยู่ในฝูงนกแร้ง คุณก็จะถูกมองเป็นนกแร้งฉันใด ก็ฉันนั้นแล........
โดย เนตร วันที่ 20 พ.ค. 2551 : 0:58:06 น. IP : 118.174.190.83
________________________________________
ความคิดเห็นที่ 1
บทความจาก INSIDE PITBULL ชมรมเพื่อนพิทบูล 1993
ขอขอบคุณ คุณทรงพล ที่เอื้อเฟื้อบทความดีๆ
โดย เนตร วันที่ 20 พ.ค. 2551 : 1:10:06 น. IP : 118.174.190.83
ความคิดเห็นที่ 2
ขอแก้ไขข้อ.9 นะครับ
9.อุปกรณ์สำหรับพิทบูลแตกต่างจากสุนัขทั่วๆไปในบางอย่าง ไล่ลำดับความสำคัญจากปลอกคอ ต้องผลิตพิเศษสำหรับพิทบูลโดยเฉพาะ ไม้งัดปากไม่ว่าคุณจะเป็น DOGMAN หรือไม่ก็ตาม เลี้ยงหนึ่งตัวมีหนึ่งอัน เลี้ยงหลายตัวมีสองหรือหลายอัน บ่อยครั้งที่พิทบูลไม่ผิด สุนัขอื่นวิ่งเข้ามากัดก่อนแต่คุณก็ต้องจับพิทบูลงัดปากออกอยู่ดี สายจูงมีพิเศษผลิดเพื่อพิทบูลโดยเฉพาะ สำคัญอย่าเอาสายจูงล่ามพิทบูล โซ่และหลักล่ามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพิทบูล โซ่สุนัขที่มีวางขายทั่วไปมันทนแรงของพิทบูลไม่ได้หมุดหลักล่ามหากเพียงตอกลงดินสักวัน มันจะลากทั้งโซ่และหมุดวิ่งเข้าไปหาสุนัขตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด กรงเหล็กติดมุ้งลวดอันนี้มีวางขายตามท้องตลาด อุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดนี้ควรหมั่นตรวจสอบทุกสัปดาห์ เจอบ่อยคือ ตะขอทองเหลืองมักเสื่อมก่อนกำหนด ปลอกคอหลวมเกินไปพิทบูลถอยหลังถอดออกได้ บางทีก็แน่นเกินไป จนเกิดการระคายเคือง พอเกิดเหตุกัดกันไม่มีไม้งัดปาก หรือมีแต่จำไม่ได้ว่าวางใว้ตรงไหน พอตกอกตกใจก็เอาด้ามไม้กวาดมางัดเอาน้ำสาดก็ไม่ปล่อย ลองนึกภาพดูคนอื่นเขาจะมองภาพพจน์พิทบูลเลวร้ายแค่ไหน
ไฟล์แนบ
DSC01304.JPG
107K
baba
ธันวาคม 2008
น้องก๊องโต้
ไฟล์แนบ
DSC01305.JPG
78K
baba
ธันวาคม 2008
สายกันครับแต่ไม่ได้ปั้นไว้กัดแต่จะให้เป็นนักกีฬาลาก นน.
ไฟล์แนบ
DSC01295.JPG
120K
baba
ธันวาคม 2008
2 เดือน 20 วัน
ไฟล์แนบ
DSC01303.JPG
75K
baba
ธันวาคม 2008
หัวไว้มากครับยังไม่ถึง 3 เดือน คำสั่งนั่ง หมอบ ทำได้หมดแล้วครับ แต่ซนมากๆ
baba
ธันวาคม 2008
แล้วก็ถ้าได้ยินคำสั่งว่า อย่าหรือไม่ ก็จะนั่งลงทันที่ แต่ช่วงแรกๆก่อนจะเข้าใจคำสั่งเหนื่อยหน่อยกัดของไม่เลือกตอนหลังไม่กล้าครับแต่ต้องมีลงไม้ลงมือบ้าง ไม่เกิน 2 วันเป็นหมดครับ
ช่วยพี่มาร์กประชาสัมพันธ์อีกทางครับดูท่าทางจะเหนื่อย อิๆ
baba
ธันวาคม 2008
ตัวนี้เป็นตัวที่ 2 ครับ(สายกัด) ตัวแรกแก่แล้วเป็นตัวเมียแบบว่าปล่อยให้ขึ้นคานทองจนแก่ครับไม่ผสมไม่อยากเพิ่มภาระให้สังคมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักเพาะพันธุ์ไป ตัวนี้จับมา 15,000 บ. แต่บอกแฟน 9,000 บ. อิๆ รู้แล้วอย่าไปบอกนะ 555 แววดีครับบ้าพลังดี นี้รูปพ่อกับแม่มันของคอก http://www.hardmouthkennel.com/
ไฟล์แนบ
ปอร์เช่&แบร๊คโรส(พ่อกับแม่ก๊องโต้).gif
82K
baba
ธันวาคม 2008
ตัวพ่อสีขาว แต่ไม่ได้ส่งเสริมให้ทำแบบนี้นะครับ
ไฟล์แนบ
mini29060884630029080830180[1].gif
72K
baba
ธันวาคม 2008
รูปหน้าตรง
ไฟล์แนบ
mini310508162031631041619151[1].gif
81K
GHOST
ธันวาคม 2008
ความรู้อีกแล้วคับทั่น
tom123
ธันวาคม 2008
มีความรู้แล้วไม่เก็บไว้คนเดียวเป็นสิ่งที่ดีเยียมครับท่านขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆๆ
redonly
ธันวาคม 2008
ขอบคุณที่เอาบทความดีๆมาให้อ่านครับ
tenpst
ธันวาคม 2012
ขอบคุนสำหรับบทความครับ
korniip
ธันวาคม 2012
ผมไม่ได้ค้านความคิดนะครับ แต่ดูจากปริมาณสารอาหารมันเยอะไปรึป่าวครับ
ผมเองเคยเพาะกายยังกินไม่เยอะขนาดนี้ กินเข้าไปเยอะขนาดนี้ผมว่าคงต้องออกกำลังกาย
หนักแบบโอเวอร์กันไปเลย ย้ำนะครับว่าไม่ได้ค้านความคิด ที่คุณบอกมาก็ถูกครับ ผมเองก็ทำแบบนี้
แต่ผมจะคำนวนความต้องการของพลังงาน สารอาหารที่ต้องการ เพราะหากกินเข้าไปแล้วออกกำลัง
ไม่พอ บวมแน่นอนครับ
^:)^
Add a Comment