เอาเวลาไปช่วยคนที่เดือดร้อนดีกว่ามั้ย

ที่ไหนๆก้อเเย่กันหมด เฮ้อ....

vespapink 4:45PM Permalink
เอาเวลาไปช่วยคนที่เดือดร้อนดีกว่ามั้ย

คุณvespapink ครับเขาแค่จะสื่อว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยครับโดยถ่ายทอดออกมาเป็นศิลปะการถ่ายภาพน่ะครับและผมก็ว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายเลยนี่ครับคนที่เขาไม่รู้และไม่เคยเห็นหรือไม่รับรู้ปัญหาของคนอื่นก็จะถูกกระตุ้นด้วยภาพพวกนี้แหละครับ มีหรือที่เขาจะไม่ช่วยกันนะช่วงเวลาแบบนี้น่ะครับ คิดบวกครับคิดบวก ประเทศชาติจะได้รักกัน....
.
.
.
หากไม่พอใจขออภัยพีๆทุกท่านครับ

คุณคิดว่า มันเป็นภัยธรรมชาติ หรือว่า ฝีมือมนุษย์

แรกๆก็พยายามทำใจว่ามันเป็นภัยธรรมชาติ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากภัยธรรมชาติจริงๆ หรือมันเกิดจากความผิดพลาดของคนกันแน่ โดนกันถ้วนหน้าจริงๆ โดนกันเกือบทุกพื้นที่ ทั้งคนและสัตว์เดือดร้อนกันถ้วนหน้า

หากมันเกิดจากมีพายุเข้า ทำให้ฝนตกหนัก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ทำไมประเทศเพื่อนบ้านไม่เห็นมีใครโดนหนักแบบเรา

เหตุการณ์นี้ไม่ควรที่จะปล่อยใหมันผ่านไปเฉยๆ มันต้องมีคนแสดงสปิริตออกมารับผิดชอบ โดยเฉพาะคนที่รับผิดชอบเรื่องการบริหารน้ำทุกคน

ประเทศเพื่อนบ้านเราเขาโดนเหมือนกัน แต่ทำไมมันไม่หนักเหมือนประเทศไทย เพราะบ้านเราป่านนี้น้ำยังไม่ลด แถมบางพื้นที่เพิ่งเริ่มท่วมเอง ทั้งที่ตอนนี้มันจะเข้าหน้าหนาวแล้ว ฝนก็หยุดไปต้องนานแล้ว ถ้ามองกันแค่ตรงนี้ผมว่ามันเกิดจากการบริหารงานผิดพลาดของคนแน่นอนครับ คนที่ผมหมายหัวคนแรก คือ รมต เกษตรครับ เพราะเป็นผู้ควบคุมกรมชลประทานโดยตรง

หากมันเกิดจาก การบริหารผิดพลาดของ คน มันก็ต้องมีคนยืดอกออกมารับผิดชอบ เพราะว่าความผิดพลาดครั้งนี้มันสร้างความเสียหายมากมายมหาศาล คิดเป็นเม็ดเงินถึงล้านล้าน บาท ซึ่งเราคงจะปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆไม่ได้

ยิ่งฟังนายกพูดว่าจะต้องใช้เงินเยียวยาถึงหนึ่งล้านล้านบาท ถ้าเป็นสมัยโบราณ คนที่ทำผิดพลาดขนาดนี้ โทษมีสถานเดียวคือ ตัดหัวเสียบประจาณ

พวกเราต้องไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปเหมือนไฟไหมฟาง เหมือนกับเหตุการณ์หลายๆเหตุการที่รัดทะมนตรีควาย สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ แต่ก็ยังลอยนวลโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ยกตัวอย่างง่ายๆ ยอมทำสัญญาเสียเปรียบทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ โดยการทุบสะพานลอยข้ามทางแยกเพื่อให้คนไปใช้บริการทางด่วนเยอะๆ

วันนี้พวกเรามีเครืองมือที่ทรงประสิทธิภาพ เรามีโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คที่สามารถเข้าถึงคนได้ทั้งโลก เราต้องช่วยกันกระจายข่าวสาร เรียกร้องหาคนที่ต้องออกมารับผิดชอบ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่เช่นนั้น นักการเมืองควายๆที่ไร้ความสามารถก็จะแย่งกันเป็นรัฐมนตรีกันต้่อไป

แต่ถ้าหากพวกมันเริ่มเห็นว่าประชาชน ไม่ยอมก้มหัวให้พวกมันอีกแล้ว พวกสมองควายจะได้ไม่กล้าแย่งกันอาสาเข้ามาบริหารประเทศ

ผมมองว่ามันคงจะเป็นหนทางเดียวที่พวกเราจะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ พวกเราต้องช่วยกันกดดัน อย่าให้มีควายมาเป็นรัฐาบาล พรรคการเมืองมันจะได้ คัดคนดีๆมีคุณภาพมาทำงาน ไม่ใช่เลือกคนจากระบบโควต้า

หากใครเห็นด้วย ก็ได้โปรดช่วยกระจายความเห็นนี้ออกไปให้มากๆ วันนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องรักษาสิทธิของพวกเราแล้ว สิทธิของพวกเราไม่ใช่แค่หย่อนบัตรลงคะแนน แล้วที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกโกงบ้ายกินเมือง ช่วยกันย่ำยีประเทศชาติ

ผมอยากให้นักการเมืองมันได้เห็นว่า คนไทยไม่ได้โง่ พวกเรารู้เท่าทันพวกมันทุกอย่าง แถมมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ฉลาดกว่าพวกมัน รักบ้านเมืองกว่าพวกมัน อย่าให้มันอ้างได้อีกว่าประชาชนเลือกมันเข้ามา ผมเชื่อว่าถ้าเขารู้ว่ามันเข้ามาทำร้ายประเทศชาติเขาก็คงไม่เลือก

ผมตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเรียกร้องหาคนรับผิดชอบ มากกว่าปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ เหมือนหลายๆเหตการณ์ที่นักการเมืองสร้างความเสียหายทิ้งไว้ แต่ก็ยังลอยหน้าลอยตาโดยไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะบทเรียนนี้มันราคาแพงมาก

ขอบคุณครับ

ยังจำวันนั้นได้ดีเป็นคืนที่ไม่ได้นอน เพราะน้ำเข้ามาตังแต่ตี3จึงรีบตัดสินใจอพยพก่อนที่จะออกไม่ได้

ถือว่าผมยังโชคดีที่มีพ่อ แฟนเป็นคนรักหมาและมีคนช่วยดูแลให้ ไม่ต้องห่วง

หลังจากหยุดยาวๆตั้งใจที่จะเข้าไปดูบ้าน ใช้เวลาเเดินทางจากคลอง 4 เพื่อเข้าไปเสมาฟ้าครามคลอง 2 เริ่มเดินทางบ่าย 3 ถึงคลอง 5 โมงเย็นเพราะรถทหารไม่มีสักคัน ต้องเกาะรถ 10 ล้อเข้าไป

ระหว่างทางเห็น SHOP ชื่อดังข้างทางประตูกระจกแตก ตั้งแต่ คลอง 3 ถึง คลอง 2คิดเอาเองฝีมือใคร

พอไปถึงหน้าซอยก็โดนขูดค่าเรือ คนล่ะ 300 บาท 2 คน 600 แต่ไม่รับกลับบอกว่าไม่ปลอดภัย เพราะมีข่าวว่าจี้ปล้นในหมู่บ้านเพราะไกล้ค่ำ(ถามใครกล้าเข้าไปบ้าง)

ขากลับก็ต้องเกาะรถที่ถูกจ้างไปยกรถ ที่จมน้ำเพราะรถหน่วยงานภาครัฐ มันไม่รับ 555 อันนี้เรื่องจริง
กว่าจะถึงคลอง5ค่ำพอดี หันกลับไป ไม่ต่างอะไรกับเมืองล้าง

วันนี้เป็นคืนแรกที่ต้องนอน office ผมว่าหลายๆคน คงประสบชตากรรมเดียวกัน ได้แต่ถามความรับผิดชอบ ตกลงเพราะธรรมชาติหรือตั้งใจกันแน่ คงพูดได้แค่นี้ บัดซบจริงๆ

คิดถึง คิดถึงบ้าน คิดถึงหมาที่ห่างกันไกล คิดถึงที่นอน คิดถึงงงงงงงงงงงง

ขอให้ทุกท่านโชคดีและต่อสู้กับชตากรรมถึงแม้ว่าเราจะไม่สร้างขึ้นเอง แต่ขอให้ฝ่าฟันและผ่านไปให้ได้เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีเรื่องเล่าสืบลูกชั่วหลานครับ

ถ่ายได้สวยมากครับ ขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านที่โดนน้ำท่วมด้วยครับ

จริงครับใช้คนไม่ถูกกับงาน

เมื่อวานฟังคุณโชค บุลกุล พูดเกี่ยวกับคน 3 ประเภท
ประเภทแรก: คิดและทำจากประสบการณ์จริง
ประเภทสอง: ช่างคิดมีไอเดียใหม่ๆอยู่้ในสมองเพียบแต่ไม่เคยทำ
ประเภทสาม: รู้ทุกเรื่องแต่ไม่รู้ว่าที่รู้มาจริงอ่ะป่าว

ที่ผ่านมาผมว่ารัดทะบานเอาคนที่รู้ทุกเรื่องแต่ไม่รู้ว่ารู้จริงอ่ะป่าว
มาทำงาน ยกตัวอย่าง ศปภ. ไม่มีใครที่มีความรู้เรื่องการบริหาร
จัดการน้ำเลย เอาตำหนวด เอานักการเมือง เอานักเลง เอาตลก
ฯลฯ เอามาเป็นผู้บริหารศูนย์ฯ แล้วเป็นไงสุดท้ายแม้กระทั่งศูนย์ฯ
ตัวเองยังช่้วยเหลิือไม่ได้ หนีกันจ้าล่ะวัน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบครับ

เรื่องของบริจาคที่่กักตุนก็แก้ตัวได้น้ำขุ่นๆ พี่น้องเค้ามีการศึกษาหมด
นะครับทั่นอาจาร์ย คนที่ไหนเค้าจะเอาเสื้อที่ไม่ได้ซักมาบริจาค พูด
ออกมาได้ว่าต้องรอซักเสื้อก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน

ฟังแล้วจะเป็นลม บ้านเมืองนี้สงสัยจะ "Chip Lost"

ถึงวันนี้รัฐบาล กทม.และผู้ประสบภัยน้ำท่วมคงมีความเห็นตรงกันว่านอกจาก”น้ำ”จะมีพลังเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดแล้ว “น้ำ”ยังฉลาดจริงๆ

ต่อให้ป้องกันอย่างไร ไม่ว่าจะทำคันดิน ถุงทรายกั้น หรือใช้เครื่องสูบน้ำออก

แต่สุดท้าย”น้ำ”ก็สามารถทะลุทะลวงเข้ามาได้

ปิดกั้นด้านนี้ก็ตลบหลังไปด้านอื่น

ไปช้าๆ แต่จะไป
ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายรายยืนยันว่าแม้พยายายามป้องกันอย่างเต็มที่ แต่สุดท้าย”น้ำ”ก็หาทางเข้าบ้านได้

ไม่ว่าจะเป็นทางท่อระบายน้ำ โพรงใต้ดินทะลุเข้ามาตามกระเบื้อง หรือช่องว่างที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
“น้ำ”ฉลาดจริงๆ

ในโลกไซเบอร์วิพากษ์วิจารณ์กันว่า”น้ำ”ฉลาดเพราะเธอเป็นคนรักการเรียนเป็นชีวิตจิตใจ

มีมหาวิทยาลัยที่ไหน เธอจะต้องแวะไปหาความรู้

ตามปกติเรามักจะเรียนเพียงแค่มหาวิทยาลัยเดียว

แต่”น้องน้ำ”ผ่านทุกมหาวิทยาลัย

เริ่มตั้งแต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต

วันนี้ถาม”น้องน้ำ”เรื่อง”กฏหมาย-รัฐศาสตร์” ...รู้

ถามเรื่อง”นิเทศศาสตร์” .... สบาย
ถามเรื่อง”แอนิเมชั่น”... หมู

พอผ่านพ้น 3 มหาวิทยาลัยเสร็จ “น้องน้ำ”ก็เริ่มตระเวณไปหาความรู้แถวบางเขน
“มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”คือเป้าหมาย

วันนี้ความรู้ชลประทาน-เกษตร “น้องน้ำ”รู้ดี

ระหว่างที่แวะ”เกษตรศาสตร์” เธอก็ยังไขว่คว้าหาความรู้เพิ่มเติม

เธอแวบไปหาความรู้ที่”มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”ด้วย

และยังตีโอบไปขอความรู้จากมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

คาดว่าคงอยากเรียนรู้เรื่องดนตรี จาก”ดร.สุกรี เจริญสุข”ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ด้วย

ต่อไปนี้เวลาน้ำไหล เธออาจไหลเป็นเสียงดนตรี

มีตัวโน้ต และจังหวะ

ผ่อนคลายความเครียดจากผู้ประสบภัยน้ำท่วม

หลายคนยังสงสัยว่าการที่”น้องน้ำ”ทะลุทะลวงแนวป้องกันได้ เธอต้องมีความรู้ด้านวิศวกรรมเป็นอย่างดี

แค่ระดับปริญญาตรี ไม่น่าจะเก่งขนาดนี้

คนที่ถามคงลืมไปว่า”น้องน้ำ”นั้นผ่าน”สถาบันเทคโนโลยี่แห่งเอเซีย”หรือ”เอไอที”ที่สอนระดับปริญญาโทและเอกมาแล้ว

เมื่อ”น้องน้ำ”เป็นคนไขว่คว้าหาความรู้เช่นนี้

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ประสานมิตร มหาวิทยาลัยรามคำแหง

หรือแม้แต่“จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”และ”นิด้า”
อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของ”เธอ”

...ประมาทไม่ได้เลย

ไม่ต่างอะไรกับหัวขโมย

ภาพถ่าย ยอดเยี่มมากเลยครับ :063:
สื่อ ได้อารมณ์ มาก

ควรดีใจ .. ที่รู้ว่า.. ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้.. :o010:

ภาพสลดใจที่สุดคือภาพสนามบินจมน้ำ

น่าเศร้าใจเป็นที่สุด มองตอนนี้แค่เศร้าแต่ต่อไปอาจยิ่งกว่า กับระบบการจัดการของระทะบานไทย เน่าไม่เหลือชิ้นดี

เห็นภาพนี้ในพันทิปเลยเอามาให้ดูแก้เครียดครับ สิ่งที่หลายๆตนโหยหา ตอนนี้ได้อยู่ใกล้ๆละ

vespapink ตุลาคม 31
เอาเวลาไปช่วยคนที่เดือดร้อนดีกว่ามั้ย
----------------------------
ขอประทานโทดเถอะ
ผมไปนั่งเบ่งขี้รดหัวกระบาลคุณเหรอครับ