ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ขอความเห็นงานลากที่ขอนแก่น
  • เนื่องจาก เหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวจริงๆ

    image

    สถานที่ ห้างเซนทรัลขอนแก่น วันที่ 12 สิงหาคม 2556
    ไม่ทราบว่าเจ้าภาพและคณะกรรมการทางอีสานพร้อมไหมครับ ขอความเห็นด่วน
    ไฟล์แนบ
    ขอนแก่น.jpg 46K
  • :X :031: :008: ~X( =D>
  • ทีมเหนือสู้ๆๆว่าไงว่าตามกันครับ
  • สวัสดียามเช้าในวันหยุดครับ พี่น้องทุกท่าน :005:

    เรื่องงานลากน้ำหนักที่ขอนแก่น หลังจากผมได้พิจารณาทบทวนเป็นอย่างดีแล้ว ผมจึงจะขอเรียนให้ทราบว่า เห็นควรที่จะ งดและเลื่อนออกไปก่อน เพราะว่าความไม่พร้อมหลายๆประการ และระยะเวลาก็ค่อนข้างกระชันชิด อีกอย่างมันเป็นการแข่งขันบน ฮอลล์ที่อยู่ชั้นห้า ซึ่งโครงสร้างของ ฮอลล์ไม่น่าจะรับน้ำหนักได้ถึง 3 ตัน ผมเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงขอยกเลิกการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ครับ

    แต่ท่านที่เตรียมสุนัขไว้แล้วไม่ต้องห่วง ผมจะพยายามหาสถานที่แห่งใหม่ และจัดการแข่งขันให้พวกเราได้มาสนุกสนานกันต่อไป

    จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ ^:)^
  • อยากให้จัดที่โคราชครับ ;-)
    ใกล้กรุงเทพดีเดินทางสะดวก ผู้ชมก็น่าจะเยอะ
  • ถ้ามีกลุ่มพิตบูลลากน้ำหนักที่โคราชวันไหน ก็คงได้เห็นครับ การจะจัดที่ไหน มันต้องมีทีมเจ้าบ้าน มาเป็นเจ้าภาพมันถึงสนุกครับ
  • สวัสดียามเช้าวันหยุดเช่นกันกันครับพี่มาร์คและพี่ๆน้องๆทุกท่าน

    เช้านี้ได้กาแฟดำถ้วยโปรดแล้วรู้สึกกระปรี่กระเป่าขึ้นมากๆครับ ประกอบกันมาเปิดบอร์ดเห็นกระดีดีแบบนี้แล้วชื้นใจครับ

    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่มาร์คที่เข้าใจครับว่าสถานะการณ์ในช่วงนี้ครับ และขอภัยไปยังเหล่าพลพรรคพี่น้องสิงห์นักลากทุกๆท่านด้วยครับ

    เหตุที่ไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพในงานวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ที่ขอนแก่น มีดังนี้ครับ

    1. เรื่องระยะห่างของแต่ละสนามที่เป็นสนามเก็บคะแนนอย่างเป็นทางการแบบนี้ เราตั้งกติกากันใว้แต่แรกเริ่มแล้วครับว่าเห็นสมควรห่างกันอย่างน้อย 2-3 เดือน

    เพื่อให้เวลากับนักกีฬาได้พักฟื้นร่างกายแล้วเริ่มฟิตซ้อมกันใหม่ ฉะนั้นเวลาแค่ 1 เดือน ไม่พอแน่นอนครับ

    และอีกอย่างเพื่อนๆเราก็ต้องทำงาน ครั้นจะให้ " ลางาน " บ่อยๆคงดูไม่ดีแน่ครับ

    อีกอย่างที่สำคัญที่สุดคือ " ครอบครัว " หากครอบไม่สนุกด้วยก็คงทำให้มาร่วมงานแบบอึมครึมอย่างแน่ๆ

    เพราะอะไร เหตุผล ร้อยแปดพันประการ ครับ กับ " แม่บ้าน " เพราะการดำรงชีวิตต้องมีความสุขร่วมกันครับ

    ฉะนั้น ระยะห่างของแต่ละงานที่เป็นสนามเก็บคะแนนจึงไม่ควรต่ำกว่า 2-3 เดือนครับ

    2.เรื่องปัญหาในความไม่นิ่งใน " มตราฐาน " ของงานครับ อันนี้หากทุกๆคิดเป็นและคิดตามก็จะมองเห็นปัญหาครับ อย่ายกปัญหาให้แก่คนจัดงานแต่เพียงฝ่ายเดียวครับ

    เพราะหากเราคิดจะเล่นกิจกรรมด้วยกันแล้วเราก็ควรช่วยกันลดปัญหาลงโดยเริ่มจาก " ตัวเราเอง " ครับ

  • เราไม่ต้องมาถกกันในเรื่อง " SLOPE UP " ครับ ว่าจะเอาที่ 3 หรือ 5 ซม. ดีครับ เพราะอะไร มันไม่เกิดการตกผลึกครับ

    นั่นคือ ให้เลือกมาเลยครับว่าจะเอา slopeกี่เซนติเมตร ครับ แล้วเรามาเล่นกันอย่างจริงๆจังๆ ไม่ไช่จะมาแก้ไขเป็นงานๆแบบนี้

    แล้วเรื่องเวลาที่มีจำกัดในสนามอย่างงานเมืองทองแบบนี้ เราควรจัดการกับจำนวนนักกีฬาที่จะมาลงแข่งขันครับ

    ไม่ไช่มาเปลี่ยนรูปแบบงาน ขนาดเปลี่ยนแล้วงานก็ยังจบที่ " เวลาเที่ยงคืน " อยู่ดีครับ

    การจำกัดจำนวนนักกีฬาทำได้โดย ให้จัดการขันแข่งรอบนอกมาในแต่ละภาคส่วน ( เสหมือน DIVITION 2 )

    โดยให้กำหนดคุณภาพของนักกีฬาที่ผ่าน " PRO " แล้วเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์มาลงแข่งที่สนาม ( DIVITION 1 )

    ส่วนค่าน้ำหนักที่จะให้ผ่านproได้นั้นให้จัดตั้ง คณะกรรมการมาคุยกันก่อนครับ

    หากทำได้เช่นนี้ รับรอง สนามเมืองทองฯหรือในห้างฯลากกันจบไม่เกิน 6 โมงหรือ 1 ทุ่ม ครับ และไม่ต้องมาปวดหัวเพิ่มโหลดกันทีละ 200 โล หรือบังคับลงได้แค่ 5 รอบต่อ 1 CONVENTION ครับ

    เพราะ " สุนัข " นะครับไม่ไช่ " LOBOCOP " มันได้ทำงานได้ดั่งใบสั่ง เป๊ะ เป๊ะ จริงมั้ยครับพี่น้อง
  • ลองทบทวนในสนามแต่ละสนามมาให้ดีดีนะครับท่านผู้ชมว่าท่านผู้ดูการแข่งขันสุนัขลากน้ำหนักแล้วได้อะไรกลับไปบ้าง

    ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วครับว่า ท่านผู้ชมเหล่านั้น เค้าได้รับ ความมันส์ในเกมส์ , ความรู้สึกประทับใจในพลังของสุนัขพิทบูลฯ

    แต่เค้าเหล่านั้นได้รับรู้กันบ้างมั้ยครับว่า " ความเป็นมาของกิจกรรมสุนัขลากน้ำหนักเิกิดขึ้นมาเพราะอะไร "

    วัตถุประสงค์ของการเล่นกีฬาชนิดนี้ได้มีใครประชาสัมพันธ์ผ่านในงานหรือไม่หรือท่านๆลืมกันไปหมดแล้วครับ

    เพราะความมันส์ในเกมส์มันมาบดบังหรือไม่ อันนี้ท่านๆทั้งหลายได้โปรดหยุดคิดซักนิดส์นะครับ
  • เพราะเหตุใดผมจึงเขียนถึงจุดๆนี้ ก็เพราะมันยังไม่จบครับ มันยังมีใครบ้างคน ชนบ้างกลุ่ม เค้ายังไม่ปลื้มกับสิ่งที่พวกเรากำลังร่วมกันทำอย่างภาคภูมิใจครับ

    ฉะนั้นเราจงอย่าทำให้เกิด " ช่องว่าง " ไม่งั้นจะโดนเสียบได้ครับจากกลุ่มผู้ที่เห็นด้วยกับกีฬาชนิดนี้

  • ฉะนั้นเราจงอย่าทำให้เกิด " ช่องว่าง " ไม่งั้นจะโดนเสียบได้ครับจากกลุ่มผู้ที่เห็นด้วยกับกีฬาชนิดนี้

    ขอเปลี่ยนเป็นตามข้างล่างนี้นะครับ ขออภัยด้วยครับพิมพ์ตกไปครับ

    ฉะนั้นเราจงอย่าทำให้เกิด " ช่องว่าง " ไม่งั้นจะโดนเสียบได้ครับจากกลุ่มผู้ที่ " ไม่ " เห็นด้วยกับกีฬาชนิดนี้
  • ผมอยากให้ กิจกรรมลากน้ำหนัก เป็นกิจกรรมคู่กับสุนัข อเมริกัน พิตบูล เพราะมันช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีแก่สุนัขสายพันธ์นี้ได้ ถ้าสุนัขพิตบูล นอนอยู่บ้านเฉยๆ มันก็น่าเสียดาย และถ้าต้องการเพียงหมาเฝ้าบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเฉพาะเจาะจงที่หมาพิตบูล

    แต่การแข่งขัน มันมีมุมให้มองได้หลายมุม คนที่ชอบเขาก็สนับสนุน ส่วนคนที่ไม่ชอบเขาก้พยายามหาช่องจับผิด เกาะคุ้มครองพวกเราที่ดีที่สุด ก็คือ ความสามัคคี อย่ามองที่ผลการแข่งขันมากจนเกินไป แต่อยากให้มองที่เจตนารมณ์ของเกมส์คือ เปิดโอกาสให้สุนัขได้แสดงออกครับ

    อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ ไม่อยากให้มองข้าม พรบ. ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ที่กำลังจะประกาศใช้ในเร็ววันนี้ เราต้องไม่สื่อออกไปว่า กิจกรรมนี้เป็นการทรมานสุนัข หรือใช้งานสุนัขหนักจนเกินไป ผมจึงกำหนดไว้ว่าให้ลากคนละ 5 ครั้ง เพราะถ้ามีการเตรียมตัว ฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี จนสุนัขเข้าใจในหน้าที่ ผมว่ามันก็ก็น่าจะเพียงพอครับ :-D
  • ถ้าอย่างนั้นก็จัดแข่งขันเฉพาะสุนัข " ที่เก่งๆและเข้าใจในหน้าที่แล้วเท่านั้นครับ " ไม่ควรเปิดแข่งแบบ OPEN

    เพราะปัญหามันคนละปัญหากันครับ

    -การเปิดโอกาส ให้ได้ร่วมแข่ง ทำที่ไหน ก็ได้ที่ไม่จำกัดนักซึ่งเวลา

    -การแข่งแบบ 5 รอบต่อ 1 convention มันเหมาะสมกันนักกีฬาที่ไม่ต้องการเสียเวลาอันไม่พึงประสงค์

    ฝากให้พิจารณาให้ดีครับ
  • ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆแก้ ค่อยๆปรับ เดี๋ยวก็ลงตัวครับ

    อนาคตเราอาจจะมีการแข่งแบบนอกรอบมากขึ้น จัดกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เอาที่เจ้าภาพสะดวกก้ได้ครับ หากพี่ว่างยินดีไปร่วมทุกงานอยู่แล้ว แต่งานที่เราไปพ่วงเขาจัด บางครั้งเราก็ต้องปรับตัวเราให้เข้ากับเป้าหมายของเขาด้วย พี่เชื่อว่า กิจกรรมลากเรากำลังไปได้สวยครับ
  • ขออนุญาติออกความคิดเห็นนะครับ

    งานเมืองทองที่ผ่านมา ประทับใจมาก สนุก และเต็มเอิ่มมากครับ มีภาพประทับใจจากเจ้าของ และสุนัข ที่ได้นำมาลงแข่ง แทบจะทุกตัวทุกทีม แต่ละทีมก็เตรียมตัวมาน่ารักมาก

    ส่วนงานที่จะถึงนี้ ผมว่า เลื่อนออกไปนิดหน่อย ให้หลายๆท่านได้พักผ่อนบ้าง ก็น่าจะดีครับ เพราะจะได้มีเวลาปรับเนื้อปรับตัว ทำการบ้านให้ดีขึ้น และได้แบ่งเวลาให้กับหน้าที่การงานและครอบครัว ที่เป็นสิ่งสำคัญ หมาใหม่ก็จะได้มีเวลาพัฒนาตัวเอง เพราะเมื่อใกล้ถึงวัน เวลาแข่งจริงๆ เราต้องวางแผนวันเวลา เตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทาง ต้องเตรียมทุนทรัพย์ ต้องเตรียมสุนัข ฯลฯ

    แล้วเรื่องสโลปอัพ ว่าไง ว่าตามกันครับ ไม่ซีเรียส อยู่แล้ว พร้อมลงชิงชัยทุกสนามที่จัด เท่าที่สามารถไปได้ แต่มีอยู่อย่างนึงที่ อยากฝาก เรื่องกติกาครับ คือถ้าจะทำเป็นมาตรฐาน เก็บคะแนนจริงๆ ไม่ควรปรับเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะจบที่สนามสุดท้าย. ในสนามที่3 แล้วค่อยมาประชุม ปรับเปรี่ยนมาใช้ในสนามหน้าทีเดียวครับ

    ส่วนเรื่อง ลงลาก 5 รอบต่อ 1 convention ผมเห็นว่าดีครับ แต่ยังไม่น่าจะนำมาใช้เพราะ
    1. หมาที่น้ำหนักตัวน้อยๆ ได้ลากก่อน จะเสียเปรียบ ในการเรียกน้ำหนัก
    2. เรื่องราง ที่ผ่านมา ไว้ใจรางไม่ได้เลย ทำให้เราไม่แน่ใจในการเรียกน้ำหนัก การที่จะเรียก รอบน้อยลง อนาคตเราอาจจะทำเป็นเอาท์ดอร์ จุดใดจุดหนึ่ง อันนี้โอเค เห็นด้วยครับ


  • เหตุผลที่ยืนยันว่าต่อไป จะใช้สโลป 3 เซนต์ ก็เพื่อให้เป็นมาตรฐานตลอด ต่อไปแฮนด์เล่อร์ ก็จะสามารถวางโปรแกรมการฟิตซ้อมได้อย่างใกล้เคียงกับสนามแข่งจริง ส่วนวันงานแน่นอนครับ การเซ็ทรางมันไม่มีอะไร 100% การวางแผนก่อนการแข่ง และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็จะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในเกมส์การแข่งขันครับ

    ยกตัวอย่างให้เห็นนะครับ ตอนซ้อม ผมเคยลากที่ 1,500 แต่แข่งจริงได้เพียง 800 ที่เชียงใหม่ งานมหาสารคามก่อนไปซ้อมได้ที่ 2,500 แต่วันแข่งจริงทำได้เพียง 1,500 และครั้งหลังสุด ตอนซ้อมทำได้เพียง 2,100 และก็แทบจะลากไม่ออก แต่ครั้งนี้กลับดีขึ้นคือได้ถึง 1,900

    ผมว่า การสร้างผลงานในสนามจริง มันเป็นอะไรที่ท้าทายดีครับ :-D
  • การแข่งขัน มันมีแพ้ มีชนะ มีดีใจ เสียใจ มีผิดหวัง สมหวัง แต่หัวใจของเกมส์ มันไม่ใช่ัวัดกันเพียงผลแพ้ชนะเท่านั้น เพราะ กุศโลบายที่แท้จริง คือ การที่ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับหมาเรามากขึ้น ได้มีกิจกรรมพบปะกับคนที่ชอบอะไรในแบบเดียวกัน ได้ฝึกการบริหารเวลาว่างและฝึกอารมณ์ตัวเราเอง และก็มีโอกาสได้ทบทวน แก้ไข เพิ่มพูนทักษะ วิธีการฝึกหมาให้เชี่ยวชาญมากขึ้น ฯลฯ

    สนามนี้แพ้ มันก้ไม่ใช่ว่าชีวิตเราจะจบสิ้น เรายังมีสนามต่อๆไปให้เราแก้ตัว อันนี้คือความท้าทาย แต่ถ้ามาแข่งแบบแพ้ไม่ได้ แทนที่จะได้มาสนุกกับเพื่อนฝูง ก็กลายเป็นมางานด้วยความเครียด พกความกังวลมาสารพัด บางคนกดดันมากๆ ก้เอาไประบายลงที่หมา กลายเป็นว่า กิจกรรมนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้คนรักหมาตัวเองมากขึ้นเลย แถมเป็นการส่งเสริมให้ทำร้ายมันมากกว่า :-D
  • ชัยชนะที่แท้จริงของสิงห์นักลาก หาใช่การชนะคู่แข่งในสนาม แต่คือการชนะตัวเองและข้ามกำแพงน้ำหนักที่ขวางหน้าตั้งแต่วินาทีแรกที่จับชุดลากออกฝึกซ้อม จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ปลายรางแข่งขัน คำตอบของความพ่ายแพ้หรือชัยชนะไม่ได้อยู่บนสกอร์บอร์ด แต่มันอยู่ในใจของสิงห์นักลากทุกคน........"อย่าให้ใครมาตัดสินคุณ ชนะหรือแพ้ถามใจของคุณเอง"
  • คนชนะไม่จำเป็นจะต้องยืนบนโพเดี้ยมเสมอไป เพราะการลากน้ำหนักคือการสื่อสารระหว่างสุนัขกับแฮนเลอร์ ทำได้เท่าที่ใจเราตั้งไว้ก็ถือเป็นชัยชนะ ของสุนัขและแฮนเลอร์ ไม่มีชัยชนะใดยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตัวเองคับ วิน ดีเซล :-D
  • วันอาทิตย์สบายๆแบบนี้มีแต่คำคมทั้งนั้นเลย :063:
  • รู้สึกประทับ ใจ กับงานที่ผ่านมามากมาย สำรับจำนวนนักกีฬาที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ และ แทบจะไม่เห็นนักกีฬาตัวไหนที่ลากไม่เป็น

    เห็นด้วยครับกับพี่มุ และรู้สึกประทับใจคำคม ของ " PLAM " จัง พร้อมเมื่อไหร่ เจอกันที่สนามครับ
  • ไปชมงานมาครับประทับใจมาก ตอนแรกคิดว่าจะดูสักพักแต่สุดท้ายอยู่จนจบงานเลยครับมันส์มาก :063:
  • เช่นกันคับ ประทับใจมากๆๆรู้สึกว่างานลากแต่ละครั้ง มักจะทำให้สนุกและประทับใจมากกว่าเดิมทุกครั้งไปฮ่าๆๆๆ