ผมว่าเพจนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจให้ติดตาม จึงขออนุญาตนำมาเสนอให้ลองอ่านกันดู

ที่เหลือก็คงขึ้นอยู่กับทุกท่านแล้วครับ ว่าเราจะอยู่กับหมาพิตบูลของเราแบบไม่สนใจอะไร หรือจะรอวันหมาโตแล้วจับปี้กันขายลูกไปวันๆ โดยปล่้อยให้นักการเมืองปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองเราตามสะดวก หรือเราจะค่อยๆ เปิดตา เปิดหู รับฟัง และบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ไปสู่คนรอบข้าง รอคอยให้วันที่คนทั้งประเทศหูตาสว่าง ไม่จำเป็นหรอกครับที่จะเชื่อข้อมูลที่ผมเอามาแชร์นี้ทั้งหมด ขอแค่เพียงเราไม่ได้มอบหัวใจให้กับนักการเมือง ไม่ว่าฝ่ายใดในบ้านเราก็เพียงพอ ค่อยๆ กลับมามองสังคมแบบมีสตินะครับ

แต่สำหรับผม ผมว่าตอนนี้ถึงเวลาโบกปีกผีเสื้อเพื่อชาติของเราแล้วครับ :o034:

หลักคิดของ “ผีเสื้อประชาธิปไตย”

ประเทศไทยบอบช้ำยาวนานมาเกือบสิบปี มิใช่เกิดจากคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว เพียงแต่ทักษิณ เป็นผู้เปิดประตูด้านมืดของสังคมไทยให้ออกมาครอบงำคุณงามความดีจนสังคมเกิดความอ่อนแอ ถดถอยในทางศีลธรรมอย่างรุนแรง โดยเริ่มจาก “ความโลภ” ของคนผ่าน “ประชานิยม” และดึงเอาวัฒนธรรมแบบไทย ๆ มาใช้เป็นประโยชน์ทางการเมืองคือ “ระบบอุปถัมภ์” ด้วยการทำให้ตัวเองเป็น “ศูนย์กลางการอุปถัมภ์” ทั้งของนักการเมือง และประชาชนรากหญ้าที่รู้ไม่เท่าทัน

การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในเชิงยุทธศาสตร์จึงไม่ใช่แค่การสู้กับ “ทักษิณ” แต่เป็นการปลุกพลังสังคมที่ยังยึดมั่นคุณงามความดีให้ออกมาปกป้องสังคมจากความเลวร้ายที่ครอบงำอยู่ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในระหว่างยุคสมัยที่มีความเปราะบางอย่างมากจึงต้องระมัดระวังให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นมากที่สุดและเป็นผลดีกับประเทศชาติอย่างสูงสุดด้วย

ดังนั้นกิจกรรมของ “ผีเสื้อประชาธิปไตย” จึงจะไม่นั่งอยู่แค่หน้าเฟซบุ๊คอีกต่อไป แต่เราจะแสดงออกให้รัฐบาลได้เห็นว่า “ประชาชน” คิดอย่างไร ด้วยความเคารพกติกาและสิทธิของกันและกัน ไม่ใช่การโค่นล้มรัฐบาล แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้ “รัฐบาล” ใช้อำนาจประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนไหวจะกำหนดในเชิงสัญลักษณ์ที่มีพลังทั้งประเด็นขับเคลื่อน และที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจของพลังแห่งความดีที่จะช่วยโบกปีกผีเสื้อ เปลี่ยนแปลงประเทศของเราด้วยการออกมาแสดงตนให้รัฐบาลรับฟังความต้องการของคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจ ด้วยสันติวิธี ไม่มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง แต่เราจะช่วยกันยกระดับการชุมนุมอย่างมีอารยะ เพราะการแสดงออกของประชาชนไม่ควรตั้งเป้าแตกหักกับรัฐบาล เนื่องจากท้ายที่สุดความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้

2475 ใช้ปืนปฏิวัติอ้างว่าเพื่อให้ประชาธิปไตยกับประชาชน แต่ผ่านมา 81 ปี ประชาธิปไตย ที่รัชกาลที่ 7 ทรงเสียสละพระราชอำนาจด้วยความห่วงใยประชาชนเป็นที่ตั้งว่า “เราจะไม่นั่งบนบัลลังก์เปื้อนเลือด” เป็นบทพิสูจน์ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์คือสถาบันหลักของชาติที่ไม่ว่าใครหน้าไหนจะมากัดกร่อนสั่นคลอนไม่ได้