ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

ด่วน ขอความเห็นจากแฮนด์เล่อร์ !!
  • สรุป การแข่งสนามนี้ เราใช้สโลป 5 เซนต์ ลงลากได้ 5 ครั้ง รวมซ่อมนะครับ :065:
  • ถ้าคนส่วนมากเห็นตามนั้น ผมก็ไม่ขัดข้องครับ เจอกันวันงานครับ :065:
  • จะกี่ตัวก็เชิญครับ
  • สรุป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วนะครับ ลาก 5 ครั้ง(รวมซ่อม) และใช้สโลป 5 เซนต์

    แต่ขอฝากสมาชิกให้ช่วยคิดแผนสำรองเผื่อไว้ให้ด้วย ถ้าเกิดกรณีหมารุ่นท้ายๆ แข่งได้ไม่จบ เพราะเวลาไม่พอ เราจะทำอย่างไร .... อันนี้ค่อนข้างซีเรียสครับ
  • ผมว่าไม่น่าจะเสียเวลามากนะคับ เพราะถ้า สโลป 5 ซม. ลากได้รวมทั้งแก้ตัวด้วยไม่เกิน 5 ครั้งน่าจะจบเร็วแน่ ไม่น่าเกิน สองทุ่มคับหรือเกินมาก็ไม่น่าจะมากไป
    หมารุ่นเล็ก 3 รุ่นแรกไม่น่าจะเกิน 1300 - 1400 กก. แล้วหมาใหญ่ถัดมาก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดูจากหมาเล็กรุ่นก่อนหน้าเราเป็นตัวอย่างก่อน แล้วค่อยเริ่มลาก

    ขอให้เจ้าของสุนัขกระชับเวลาให้ได้มากที่สุดด้วย ขึ้นรางแล้วให้พร้อมที่จะลากทันที จะเป็นการดีมากด้วยคับ
  • ตกตะกอนซะที เจอกันวันเสาร์นี้ครับ
  • เจอกันวันเสาร์ครับลากไม่ลากไม่รู้ผมขอชุดสวยไว้ก่อน เอาชุดเข้าว่าครับ 555555
  • ผมขอเสนอว่าปรับลาง เป็น 5 เซ็น ดีไม่คับแล้วลาก4รอบรวมซ้อม มันน่าจะทำให้เร็วขึ้นนะคับ เพราะลาง 3เซ็นหมาลากกันได้เยอะกะน้ำหนักที่แน่นอนยาก เหมือนงานอีสานก็จบไม่เย็นเท่ารัยนะคับ 5เซ็นเพื่อเวลาจะเร็วขึ้นคับ ความเห็นเล็กๆน้อยๆคับ
  • สรุปว่าเอา5เซ็นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะเวลานี้คับ เห็นด้วยคับ
  • รางสโลป 5cm ลาก 4 ครั้งรวมซ่อม ก็จะประหยัดเวลาจาก ลาก 5 ครั้งไปอีกตัวละ 3 นาที 90 ×3= 270 นาที ก็จะประหยัดเวลาได้อีก 4 .30 ชม. บางตัว 3 ครั้งจอด เวลาจบก็เพิ่มอีก ผมไม่ใช่แฮนด์เลอร์ ขอออก ความเห็นคงไม่ว่ากันนะครับ...แต่ไปดูแน่ๆเพราะชอบดูหมา :-bd \m/
  • ต้องขอ อภัยพี่น้องทุกๆท่านครับ ผมมา สรุป อีกครั้งนะครับ และทางทีม ออสตาร์ เห็นสมควร ให้ ใช้ เกณฑ์ สโลป 5 cm ลาก 4 รอบ รวมซ่อม ด้วยเลยนะครับ
    ทางทีม ของค่าความเป็นกลางแก่ทุกฝ่ายนะครับ
    ขอบคุณครับ
  • สวัสดีตอนห้าทุ่มครึ่ง ครับ พอได้มีเวลาเข้าบอร์ดกับเขาซะทีครับ ก่อนอื่นต้อง " ขออภัยมากๆ " ที่มาช้าครับ

    จากการนั่งอ่านอยู่ 2-3 รอบ กินเวลากว่า 1 ชั่วโมงเศษ ผมดีใจมากที่เห็นทุกๆได่ร่วมมี " ทัศนะคติ " ต่อ

    กิจกรรมสุนัขลากน้ำหนักอันเป็นที่ชอบที่รักของทุกๆท่านครับ ขอปรมมือให้ครับทุกๆท่าน

    และได้เห็นข้อสรุปไปบ้างในช่วงท้ายๆ ก็ถือว่าผลลัทพ์ออกมาในแนวทางที่ดีครับ สำหรับผมว่าไงก็ว่าตามกันครับ

    แต่ที่เห็นใจก็คือ " ใจของคนทำงานทุกๆท่านรวมทั้งผู้จัดและสปอนเซอรื " อย่างมากๆครับ เพราะสนามเมืองทอง

    มีข้อกำหนดเยอะแยะที่ท้าท้ายและพวกเราต้องร่วมกันฟันฝ่ามันไปให้ได้ครับ

    สนามนี้ผมเองต้องอภัยด้วยครับที่ไม่สามารถนำนักกีฬามาร่วมแข่งขันได้เนื่องจากติดภาระกิจสำคัญครับ

    แต่กระนั้นผมเองก็ขอถือโอกาสนี้ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ ตามประสาคนผู้น้อยครับ

    ความเข้าใจของผมนะครับ " กีฬาสุนัขลากน้ำหนัก " คือกิจกรรมหนึ่งที่มนุษย์ก่อกำเนิดขึ้นมาเพื่อประโยชน์สุข

    ในส่วนรวมทั้งต่อมนุษย์ด้วยกันเองและต่อตัวสุนัขเองไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดก็ตามสามารถเล่นได้หมดครับ

    ขออภัยที่พูดเยอะนะครับ ฉะนั้นขณะนี้ที่ผมนั่งพิมพ์อยู่ผมก็พิมพ์ด้วยใจที่ยิ้มรับเห็น " พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ " ได้แสดง

    บทบาทของตนเองอย่างภาคภูมิใจครับ
  • ปัญหาเรื่อง " เวลา " มันจึงเป็นต้นเหตุสำคัญสุด เข้าใจครับพี่มาร์ค ไม่ไช่เรื่อง " ซ่อมได้ หรือ ไม่ได้ซ่อม "

    ตรงนี้มีเปราะบางมากๆครับ ในประสบการณ์ที่ผ่านมาเท่าที่ผมเคยใช้เวลาชีวิตไปในสนามลากน้ำหนักทุกๆสนาม

    หมาใหม่ๆ แฮน์เล่อร์มือใหม่ๆ มักจะกดดันตัวเองเสมอครับ แต่ไม่เลยครับ ทั่นไม่เคยทำให้ " เสียเวลาในการแข่ง เลย "

    เพราะส่วนใหญ่ตกรอบแรกๆครับ ( ขออภัยด้วยนะครับไม่ได้มีเจตนาไม่ดีครับ

    ส่วนนักกีฬาและแฮน์เล่อร์ที่มีประสบการณ์แล้ว ก็ยิ่งรู้ตัวเองดีครับว่า " ศักยภาพเบื้องต้น " ของนักกีฬาตัวเองมีเพียงใด

    จึงไม่น่าจะทำให้เสียเวลา หากทุกท่าน " เข้าใจถึงบทบาทและลำดับของตัวเองดี "

    มาถึงตรงนี้แล้วผมว่าไม่น่าห่วงครับ ลุยกันต่อไปครับ

    เอาใว้ถกกันอีกทีว่า " หากเราจะใช้เมืองทองเป็นสถานที่สำหรับสนามแข่งขันสุนัขลากน้ำหนักอันทรงเกียรติต่อไป "

    ควรมีวิธีคัดกรองกันแบบไหนจึงจะไม่ทำให้บัวช้ำน้ำขุ่น โดยเฉพาะกับเพื่อนกันทั้งนั้นครับ จริงมั้ยครับพี่มาร์ค

    ผมมองเห็นว่าในอนาคต หากลงตัว เราครวคัดตัวนักกีฬาที่ผ่าน DIVITION มาก่อนจึงจะมีสิทธิ์เข้าแข่งในสนามเมืองทอง

    ส่วนเรื่องการผ่านเกณฑ์ น้ำหนักที่เท่าไหร่ ค่อยๆหารือกันครับ

    เพราะ สนามแห่งนี้ สามารถทำ เป็น สนามอันทรงเกียรติให้แก่พวกเราชาว " สุนัขลากน้ำหนัก " ได้คลุ้มต่ามาก


    ขอบคุณมากๆครับ

    ปล.อยากไปเลี้ยงเบียร์นะครับทุกท่าน โดยเฉพาะ พี่มาร์ค ...........................ฮิ้ว
  • สวัสดีอีกรอบในยามดึกครับ เพิ่งดูหนังจบ เลยแวะมาอ่านบอร์ดอีกสักรอบ ก่อนเข้านอน และสวัสดีประธานหนุ่มด้วยครับ

    สิ่งที่ผมกังวลและแบกไว้ในใจนานแล้วก็คือ กลัวว่าเราจะไม่สามารถแข่งจบได้ตามเวลา เพราะจำนวนสุขัขมากขึ้น จึงพยายามปรับเปลี่ยนกติกาเพื่อให้แข่งได้จบตามเวลา แต่ขณะนี้ทุกท่านก็คงทราบแล้วว่า ปัญหาที่รออยู่ตรงหน้าคืออะไร และทุกคนก็ออกมาร่วมแบกรับปัญหานี้ด้วยกัน

    ถ้าหากเราช่วยกันคุมเวลาและแข่งจบได้ตามกำหนด ก็เป็นความสำเร็จร่วมกัน แต่ถ้าการแข่งครั้งนี้เกิดแข่งได้ไม่จบและมีบางรุ่นที่ไม่มีผลการตัดสิน มันก็ถือเป็นความล้มเหลวของเราทุกคนอีกเช่นกัน แต่มันก็จะเป็นประสบการณ์อันดีที่ทำให้เรามองปัญหาให้ครบทุกด้าน เพื่อที่จะจัดงานครั้งต่อๆไปได้ดีขึ้น

    ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ข้อยุติแล้ว ผมจึงสบายใจไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไป เจอกันวันเสาร์ และขอให้ทุกคนสนุก สนานกับเกมส์กันอย่างเต็มที่ จบงานก็ขอให้เดินทางกลับบ้านด้วยรอยยิ้มและเก็บความประทับใจกลับไปกันทุกคน ..... ฝันดีครับ
  • สวัสดีอีกครั้งในยามเช้าครับทุกท่าน

    นั่งดื่มกาแฟและอ่่านกระทู้นี้ เลยนึกขึ้นได้อีกเรื่องและลืมบอกไป เหตุผลที่เรากำหนดความชันของรางไว้ที่ 3 เซนต์ ก็เพราะอยากให้คนที่เลี้ยงพิตบูลไซส์เล็ก ได้มีโอกาสสนุกสนานกับเกมส์นี้มากยิ่งขึ้น อีกอย่างพิตบูล จัดเป็นหมาไซส์กลางและค่อนข้างเล็ก และกิจกรรมที่เหมาะกับหมาพิตบูลมากที่สุด นอกจากการนำไปต่อสู้กันแล้ว การแข่งลากน้ำหนักก็น่าจะได้รับความนิยมสูงสุด ..... และ ถ้าเทียบน้ำหนักตัวกันแบบ ปอนด์ต่อปอนด์ กีฬานี้ก็คงไม่มีใครปราบพิตบูลได้


    ปัจจุบันเรามีผู้สนใจส่งสุนัขเข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นปัญหาเรื่องเวลาคงจะเป็นประเด็นหลักสำหรับการแข่งขันในครั้งต่อๆไป การแข่งขันแต่ละครั้งเราคงใช้เวลากันเกินกว่าสิบชั่วโมง แต่ผมคิดว่าในอนาคต หากเราเริ่มได้ที่เวลา 10 หรือ 11 โมงเช้า ใช้เวลาในการแข่ง 7-8 ชั่วโมงและสามารถจบการแข่งได้ที่เวลา 6 โมงเย็น มันน่าจะเหมาะสม ไม่น้อยหรือมากจนเกินไป ปัจจุบันเราเริ่มกันแต่เช้าแล้วแข่งเลิกดึกใช้เวลากันมากกว่า 12 ชั่วโมงผมว่านอกจากจะสร้างความอ่อนล้า แล้วเรายังแทบไม่เหลือเวลาไว้สำหรับการมอบรางวัล การถ่ายรูปร่วมกัน หรือแม้กระทั้งการจัดเลี้ยงในงานภาคกลางคืน ไม่รวมถึงภาระกิจของทีมงานที่ต้องรีบเคลียร์อุปกรณ์กันหลังแข่งจบอีก ผมว่ามันออกจะโหดร้ายเกินไปสักนิด ... ผมเสียดายบรรยากาศดีๆของการสังสรรค์หลังแข่งจบครับ

    เราสามารถควบคุมเวลาให้อยู่ในช่วงที่กำหนดได้หลายวิธี เช่น ...

    1. การจัดการแข่งขันมากกว่า 1 วัน
    2. การปรับความชันของรางให้มากขึ้น
    3. การลดจำนวนครั้งในการลากลงหรือไม่ให้มีการซ่อม
    4. การโหลดน้ำหนักต่อครั้งให้มากขึ้น ฯลฯ

    ซึ่งแต่ละวิธี ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ยกตัวอย่าง ถ้าเราจัดงานหลายวัน คนต่างจังหวัดคงไม่สะดวก แต่เราก็มีเวลาแข่งขันอย่างเหลือเฟือ การปรับความชันของรางมากขึ้น การแข่งก็จบไว แต่ก็เป็นการจัดโอกาสของหมาเล็ก การลดจำนวนครั้งในการลากและไม่มีการซ่อม หมาที่ฝึกมาไม่ดีก็อาจจะมีปัญหา การโหลดน้ำหนักต่อครั้งมากขึ้น หมาที่อยู่ในรุ่นเดียวกันแต่น้ำหนักน้อยสุดก็ได้เปรียบ .....

    แต่สนามนี้เราเลือกใช้วิธีการ เพิ่มความชันของรางเป็น 5 เซนต์ ให้ลงลากได้ 5 ครั้ง และซ่อมได้อีกหนึ่งครั้ง ซึ่งเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมก็คงไม่มีใครตอบได้มันอยู่ที่มุมมองส่วนบุคคล แต่สำหรับตัวผมเองที่คลุกคลีอยู่กับการแข่งมาก็นานพอสมควร พิจารณาแล้วว่า พวกเราได้เลือกใช้วิธีการ ตัดโอกาสของหมาพิตบูลขนาดเล็กที่ฟิตซ้อมมาดี แล้วเอาไปเพิ่มโอกาสให้หมาขนาดใหญ่ที่ฟิตซ้อมมาไม่ดีครับ

    แต่สนามนี้เราได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงอยากฝากความเห็นนี้ไว้เป็นข้อคิดสำหรับการเลือกใช้วิธีการควบคุมเวลาแข่งสำหรับการจัดงานในครั้งต่อๆไปครับ

    ด้วยความเคารพ ฯ :005:
  • สวัสดียามเช้าเช่นกันครับพี่มาร์คและพี่ๆน้องๆทุกท่าน

    ขอขอบคุณครับพี่มาร์คที่ได้ให้แนวทางใว้ครับ หากแต่พวกเราคงต้องมาถกกันอีกทีให้ตกผลึกกว่านี้ก่อนที่จะใช้

    สนามเมืองทองแข่งขันกันต่อไปครับ ผมเองอยากเห็นสนามเมืองทองเป็นสนามที่สร้างชื่อเสียงให้กับพิทบูลในบ้านเรา

    และรวมไปทั้งการใช้เป็นสื่อในเชิงสร้างสรรค์ครับ เรื่อง เวลา ก็อยากให้แข่งและจบในช่วงเวลา 6 โมงเย็นเช่นกันครับ

    ฉะนั้นหากเป็นไปได้จึงอยากเสนอให้มีการจัดแข่งในรอบคัดเลือกให้ผ่านโปรก่อน โดยทำได้ในแต่ละภาคพื้นที่ได้เลยครับ

    และควรมีค่ากำหนดว่าในแต่ละรุ่นควรให้ลากผ่านที่น้ำหนักเท่าใดจึงจะสามารถผ่านโปรได้

    แต่ต้องอยู่บนกติกามาตรฐานสนามเหมือนกันนะครับ เอาใว้ค่อยปรึกษากันดูอีกทีครับ



    ส่วนสนามนี้ผมขอให้ทุกๆท่านประสบความสำเร็จบนความสนุกสนานสามัคคีกันนะครับ

    ขอบคุณครับ



    ปล.เช้านี้กาแฟดำถ้วยโปรดของผมหอมกรุ่นและสดชื่นเหมือนดั่งทุกครั้งที่ผมเคยนั่งอ่านบอร์ดแห่งนี้เสมอครับพี่มาร์ค
  • อย่าหายไปนานซิครับ แวะเวียนมาทักทาย กันบ่อยๆ หน่อย มีข่าวสารมาอับเดท เอารูปมาลงให้ชมย้าง บรรยากาศจะได้คึกคักครับ
  • ถ้าพวกเราคุยกันบ่อยๆ เราจะได้มุมมองที่หลากหลายมากขึ้นทุกๆวัน และกลายเป็นตกผลึกทางความคิดนำไปต่อยอดได้ แต่นานๆคุยกันที มันรู้สึกห่างเหิน จนกลายเป็นความเกร็ง เคอะเขิน จนไม่กล้าจะนำเสนอมุมมองที่แตกต่างครับ
  • รับทราบครับพี่มาร์ค ขออภัยอีกครั้งครับสำหรับผู้น้อยในร่างใหญ่ครับโผม

    ^:)^
  • สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านเพื่อนๆทุกคน
    สนามเมืองทองนี้ผมเห็นด้วยว่าให้เป็นสนามโปรโหมดกิจกรรมของพวกเรา วิธีการคัดเลือกมีหลากหลายวิธี
    การจัดรอบคัดตัวก่อนเป็นสิ่งที่ดีครับแต่อาจจะไปลดทอนกำลังใจสำหรับมือใหม่ๆที่พยายามฝึกสุนัขของตนแต่ไม่ได้ทดลองสนามจริงๆสักทีและอาจเหมือนปิดกั้นสำหรับพวกที่ไม่มีกลุ่มก้อนข่าวสารอาจล่าช้าแต่ในอนาคตผมว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งครับ หรืออีกการแก้ปัญหาอีกหนึ่งทางคือ ในช่วงเวลาการเปิดรับสมัคร เราอาจกำหนดจำนวนสุนัข เช่น 60ตัว ใช้ระบบขีดเส้นใต้เลยครับ ครบ60 ปิดเลยไม่ต้องสนใจ นับจากคนโอนเงินเข้าสมัคร เป็นบทพิสูจน์เรื่องความชัดเจนและวินัยของพวกเรากันเองครับ เพราะถ้าพวกมืออาชีพเราควรมีความกระตือลือล้นที่จะร่วมกิจกรรม ผมว่าวิธีนี้อาจจะสรุปยอดนักกีฬาได้ภายใน1อาทิตย์ และที่เหลืออาจจะมานั่งถกกันเรื่องระเบียบในงานได้สบาย เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นครับ ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ เป็นแค่คำเสนอแนะครับ
  • อยากเห็นสังคมเราสนุกสนาน เต็มไปด้วย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และการกระเซ้าเย้าแหย่ ส่วนกิจกรรมต่างๆที่เราจัดขึ้น และหมาพิตบูล มันเป็นเพียงสะพานเชื่อมให้พวกเรา ได้มีโอกาสมาเจอกัน เพื่อส่านสร้างมิตรภาพระหว่างคนรักหมาพิตบูล อันนี้คือ หัวใจหลักที่พี่พยายามจัดกิจกรรมครับ

    ที่ผ่านมา แข่งจบ หลายคนเก็บของเดินทางกลับทันที เขามาเพียงเพื่อแข่งจริงๆ จนไม่มีโอกาสสังสรรค์ ไม่มีโอกาสพูดคุยกับใคร ทั้งที่อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล มันน่าเสียดายครับ
  • ขออนุญาต ...ชี้แจงและสรุป รูปแบบการดำเนินงานนะครับ


    เรื่อง สโลปและจำนวนครั้ง
    เราสรุปร่วมกันด้วยเหตุผล เรื่องเวลาและสถานที่ที่จำกัดเพื่อให้งานครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี
    และหลังจากงานนี้เห็นสมควรให้ทีมต่างๆ หรือ ผู้เข้าร่วมแข่งขันได้แสดงความคิดเห้นร่วมกันอีกครั้ง
    -------------------------------------
    สโลป 5 สิทธิ์การลาก 4ครั้งรวมซ่อม / นักกีฬา1ตัว
    -------------------------------------
    เนื่องจาก

    นักกีฬา ทั้งหมด โดยประมาณ 90 ตัว
    ทุกตัวต้องลาก ไม่ต่ำกว่า 2ครั้งแน่นอน(โดยใช้เวลาเฉลี่ยรอบละ 3นาที)

    90 ตัว X 3 นาทีX 2ครั้ง = ใช้เวลา เบื้องต้น 9 ชั่วโมง
    ---------------------------------------------------------------------------

    ที่ยังคงการซ่อมไว้ เพื่อเปิดโอกาศให้มือใหม่
    และนักกีฬาที่ลงสนามครั้งแรก มีโอกาศปรับตัว แก้ตัว และเรียนรู้ไปพร้อมกัน

    (แต่อยากให้เตรียมพร้อมกันไว้ในงานครั้งต่อไป
    การไม่มีซ่อมจะช่วยกระชับเวลา และ เซฟสุนัขได้มาก
    จะทำให้นักกีฬาที่ลงเตรียมตัวให้พร้อมกว่าทุกวันนี้ที่สำคัญจะเป้นเสน่ห์ของการแข่งขันแน่นอน

    --------------------------------------------------------------------------

    ต่อ ....

    เมื่อเราใช้เวลาเบื้องต้น ไปแล้วอย่างน้อย 9 ชั่วโมง

    หากเริ่มลาก 10โมงเช้า และ ตามเวลางานปิด 2 ทุ่ม
    เราจะเหลือเวลา แค่ 1 ชั่วโมง กับ รอบการแข่งขันและนักกีฬาที่เหลือเท่านั้น

    ซึ่งแค่นี้เวลาก็ไม่พอแน่ๆ อยู่แล้ว

    หากเราจะรักษาวินัยการใช้เวลา
    เพื่อพี่มาร์คที่ทำหน้าที่ประสานงานเรื่องการจัดงานมาให้เราด้วยดีตลอดมา
    มีพาวเวอร์ และความน่าเชื่อถือ กับฝ่ายเจ้าของสถานที่ เราต้องร่วมด้วยช่วยกันรักษาเวลา และ เสียสละ
    กันบ้างคนละเล็กคนละน้อย เพื่อให้การจัดงานทุกครั้งลุล่วงไปด้วยดี พร้อมความสุขสนุก และกลับกันไปด้วยรอยยิ้มทุกๆคน
  • เดี๋ยว ผมจะเปิดกระทู้ การเตรียมงาน รุปแบบ กติกา
    ที่จะใช้ในงานให้รับทราบเพื่อช่วยแบ่งเบา และจัดการงานให้ทันตามเวลาที่กำหนด
    ขอความกรุณา ผู้เข้าร่วมแข่งขัน เข้าไปอ่าน กฏกติกา คร่าวๆ ด้วยเพื่อความพร้อมในวันงานนะครับ

    :033: :033: :033:
  • ถ้าเป้าหมายของการจัดกิจกรรมของพวกเรา มันยังเป็นเพื่อความสามัคคี ส่งเสริมมิตรภาพในหมู่คณะ จริงๆแล้ว คนเยอะ หมาเยอะ มันก็ยิ่งสนุก และการจัดงานมันทำให้พวกเราได้มาเจอกัน มือใหม่ได้เจอมือเก่า คนเก่า มีโอกาสได้เจอเพื่อนใหม่ พี่จึงไม่อยากให้เอา วิธีการแข่งขัน และผลการแข่งขันมาทำให้ช่องว่างของ มิตรภาพระหว่างพวกเรามากขึ้นครับ
  • เชื่อหรือเปล่า คำพูดที่ฟังแล้วเสียใจมากๆคือ อุตส่าห์เดินทางมาไกล ได้ลงครั้งเดียวแล้วตกรอบ มันไม่คุ้มเลย

    คนที่คิดแบบนี้ แสดงว่า เขามองความคุ้มค่าเป็นเรื่องของจำนวนครั้งที่ได้ลงแข่ง แต่ผมกลับมองว่า การตกรอบเร็วมันก็ดี จะได้มีเวลาสนุกสนานพูดคุยกับคนอื่น ไม่ต้องกังวลห่วงเตรียมหมา เพราะความคุ้มค่าของผมคือการได้มาเจอเพื่อนๆครับ

    และหากผมมองความคุ้มค่าเป็นกำไรขาดทุน เป็นยอดขาย ผมคงไม่กล้าจัดงานครับ

    ค่าสมัคร 500 แจกเสื้อ แจกอาหาร เงินรางวัล ถ้วยรางวัล ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะ คำนวนอย่างไรก็ขาดทุน
  • แค่แลกเปลี่ยนมุมมองนะครับ อ่านแล้วอย่าเครียด 55
  • มีประเด็นที่ ก็ได้คุยกันที บอร์ดคึกคักขึ้นทันที 55

    เสียดายปีนี้ ไม่ได้จัดงานเลี้ยงปีใหม่ ไม่ได้ไปนอนเต้นท์ ที่เขาอีโต้ รู้สึกความสนุกของชีวิต หล่นหายไปเยอะ
  • 5555 ผมก็ว่าอย่างนั้นอะพี่ เด๋วหลังแข่ง ว่ากันครับ
  • สำหรับผม หมาไม่ลากเลย แต่ได้ร่วมงานก็คุ้มแล้วครับพี
  • ครับ ถ้าตั้งใจมาสนุก แพ้ก็สนุก ชนะก็สนุกครับ ความสนุกอยู่ที่โดนเพื่อนทับถม หรือได้ทับถมเพื่อน แต่มาเพื่อชัยขนะแล้วดันแพ้ มันจะกลายเป็นเซ็ง 55
  • ผมตั้งใจไปกินเบียร์ กับเอาหมาไปออกกำลังกาย เรื่องกติกายังงัยก้อได้ เน้นสนุกครับ :-D :-D
  • ผมก็ไปเอาหนุกหนาน ไปเจอ ไปพูดคุยกับพรรคพวกทีมงานหมาลากน้ำหนักคับทุกท่านทุกคน แต่จะขอถ้วยติดมือกลับบ้านด้วยฮ่าๆๆๆ
  • เสียดายรุ่นยักษ์สนามนี้น้อยกว่าที่คิด