กฏข้อที่ 12 ถ้าสุนัขตัวใดเลือดไหลจากการถูกกัดด้วยเขี้ยวของตัวเองหรือที่เราเรียกว่าหมาแฟง (fang) แฮนเลอร์ของสุนัขตัวนั้นจะเรียกให้ผู้ตัดสินได้เข้ามาดูและถ้าผู้ตัดสินพบว่าสุนัขเลือดไหล เขาต้องอนุญาตให้แฮนเลอร์ห้ามเลือดสุนัขของเขาถ้าเขาสามารถทำได้ในขณะที่สุนัขกำลังต่อสู้กัน แต่ถ้าทำไม่ได้แฮนเลอร์ทั้งสองจะต้องจับสุนัขของพวกเขา และผู้ตัดสินจะนำไม้เล็กๆหรือดินสอสอดเข้าไประหว่างเหงือกและริมฝีปากของตัวที่กัดตัวเองและห้ามเลือดสุนัขของเขาก่อน ต่อจากนั้นผู้ตัดสินจะสั่งให้แฮนเลอร์ปล่อยสุนัขของเขาได้ทำการต่อสู้ต่อไป (ปัจจุบันนี้ไม่มีการสั่งให้ห้ามเลือดกับหมาที่เสียเลือดจากการแข่งขัน แต่ถ้าหมาแฟงกรรมการจะสั่งให้แฮนเลอร์ทั้งคู่จับหมาของตัวเอง แต่ไม่ต้องอุ้มเข้ามุมของตัวเอง เสร็จแล้วกรรมการจะเข้ามาดูและช่วยจัดการกับหมาที่เกิดการแฟงให้เสร็จสิ้นไป และดำเนินการต่อสู้ต่อไป ตรงนี้จะไม่มีการสแคช ทั้งคู่จะต้องปล่อยให้เข้าหาคู่ต่อสู้พร้อมๆกัน)
กฏข้อที่ 13 แฮนเลอร์ทั้งสองข้างจะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องตัวสุนัขของเขา จนกระทั่งผู้ตัดสินได้อนุญาตให้มีการเทรินส์ และเพื่อให้ได้รับการเทรินส์ แฮนเลอร์จะต้องเรียกผู้ตัดสินและขอให้มีการเทรินส์ เมื่อสุนัขตัวใดตัวหนึ่งหันหน้าหนีหรือเทรินส์ ถ้าผู้ตัดสินอนุญาตให้มีการเทรินส์ แฮนเลอร์สามารถยกสุนัขของเขาขึ้นตอนใดก็ได้หลังจากที่สุนัขทั้งคู่ได้ปล่อยปากจากกัน(ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้กัดกัน อาจจะเหนื่อยหรือหอบมากจนไม่ได้กัดกัน) และกันแล้ว แต่ถ้าเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอุ้มสุนัข ตัวใดตัวหนึ่งโดยที่สุนัขอีกตัวยังกัดได้อยู่หรือกำลังอยู่ในการต่อสู้ (ได้เปรียบเพราะว่ายังกัดอยู่ แต่อีกตัวไม่ได้กัด) แฮนเลอร์จะต้องปล่อยให้สุนัขต่อสู้กันอีก แฮนเลอร์จะต้องคอยเฝ้ามองดูจนกระทั่งสุนัขทั้งคู่ปล่อยปากจากกัน จึงจะทำการแยกได้ แต่ถ้าแฮนเลอร์คนใดไม่ยอมที่จะทำตามกฎเขาจะถูกประกาศให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้โดยกรรมการที่จะเป็นคนตัดสิน
กฏข้อที่ 14 เพื่อให้มีการเทรินส์ วิธีที่ยุติธรรมใดก็ได้ต้องถูกใช้ เช่นพยายามเรียกสุนัขของคุณหรือสุนัขของฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากการต่อสู้ แต่แฮนเลอร์ทั้งสองจะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องสุนัขของพวกเขาจนกว่าการเทรินส์จะได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
กฏข้อที่ 15 สุนัขที่เป็นฝ่ายเทรินส์ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายสแคชก่อน และหลังจากนั้นทั้งคู่จะต้องสลับกันสแคช ไม่ว่าสุนัขตัวใดเป็นตัวที่หันหน้าหนีหรือเทรินส์ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาททุกอย่างจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ตัดสินที่จะบอกแฮนเลอร์(ของสุนัขที่ได้โอกาสนั้น) มันเป็นโอกาสของสุนัขของคุณที่จะสแคช หลังจากผู้รักษาเวลาตะโกนบอกเมื่อ30วินาทีให้?ปล่อย? และถ้าสุนัขที่ได้โอกาสสแคชไม่ออกจากมุมของมันโดยทันที ผู้ตัดสินจะเริ่มนับ1วินาทีและต่อจากนั้นเป็น2วินาที และถ้าสุนัขไม่เริ่มก่อนกรรมการหยุดนับจนถึง10วินาที ผู้ตัดสินจะประกาศให้สุนัขตัวนั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด ในกรณีที่สุนัขเริ่มและหยุดระหว่างทาง มันจะถูกประกาศให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยเหมือนกัน เพราะสุนัขที่กำลังสแคชจะต้องเข้าไปหาคู่ต่อสู้และสแคชเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างแท้จริง
กฏข้อที่ 16 ถ้าไม่มีการเทรินส์ระหว่างการต่อสู้และหนึ่งในสุนัขต่อสู้นอนลง ช่วยตัวเองไม่ได้อยู่บนพื้นของสังเวียนและไม่ได้ทำการต่อสู้กัน โดยที่สุนัขอีกตัวหนึ่งยืนอยู่ด้วยขาของมันเองแต่ไม่หันหน้าหนี แฮนเลอร์ของสุนัขตัวที่ยืนสามารถขอผู้ตัดสินเพื่ออุ้มสุนัขและถ้าสุนัขไม่ต่อสู้กัน ผู้ตัดสินต้องอนุญาตให้ยกสุนัขขึ้น(ปกติกรรมการจะนับ30วินาที กรณีที่ครบ30วินาทีแฮนเลอร์จะต้องรีบอุ้มสุนัขทั้งคู่เข้ามุมโดยเร็ว) แฮนเลอร์ทั้งสองข้างจะต้องยกสุนัขของพวกเขาไปที่มุมของตัวเอง และเมื่อครบ30วินาที ที่อยู่ที่มุมของตัวเองแล้ว ผู้รักษาเวลาจะสั่งให้?ปล่อย? แฮนเลอร์ของสุนัขตัวที่ยืนจะเป็นฝ่ายที่จะสแคชก่อน ถ้าสุนัขของเขาสแคช ครั้งต่อไปจะเป็นโอกาสของสุนัขอีกตัวที่จะเป็นฝ่ายสแคชบ้างเมื่อมีการยกครั้งต่อไป(กรณีนี้ เราจะเรียกว่าเอ๊า ออฟ โฮด์ (out of hold) คือสุนัขทั้งคู่ปล่อยปากจากการกัด กรรมการจะรีบนับทันที กรรมการจะนับจนกระทั่งครบ30วินาที เมื่อนับครบแล้ว แฮนเลอร์จะต้องรีบอุ้มเข้ามุมเพื่อทำการให้น้ำ หรือทำการนวดตัวสุนัข จนกระทั่งครบ30วินาทีอีกเหมือนกัน จากนั้นกรรมการจะให้สุนัขตัวที่ตกเป็นรอง เป็นฝ่ายที่จะสแคชก่อน ถ้าสุนัขตัวนั้นไม่สแคชหรือวิ่งเข้ามากัดฝ่ายตรงข้าม กรรมการยังไม่ปรับให้สุนัขตัวนั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สุนัขอีกตัวจะต้องสแคชบ้าง ถ้าสุนัขตัวนี้สแคชหรือวิ่งออกจากมุมเข้าไปกัดคู่ต่อสู้ สุนัขตัวนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าสุนัขตัวนี้ไม่สแคช กรรมการจะถือให้ทั้งคู่เสมอกันไป ไม่มีสุนัขตัวใดเป็นฝ่ายชนะ
กฏข้อที่ 17 หลังจากสุนัขถูกล้างและอยู่ในมือของแฮนเลอร์ของมันเองแล้ว พวกมันจะต้องถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เมื่อผู้ตัดสินสั่งให้?ปล่อย? เพื่อที่จะได้เริ่มให้สุนัขต่อสู้กัน หลังจากนั้นในการสแคชทั้งหมดของสุนัขทั้งสอง ผู้รักษาเวลาจะตะโกนเมื่อ25วินาทีให้ทั้งคู่มีการ?เตรียมพร้อม?และเมื่อ30วินาทีผู้รักษาเวลาจะสั่งให ?ปล่อย?อำนาจของผู้รักษาเวลาจะหมดไปจนกระทั่งการสแคชครั้งต่อไป ผู้ตัดสินจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบในการตัดสินทันทีที่ผู้รักษาเวลาสั่งว่า?ปล่อย?เสร็จ คำพูดและการใช้กฎของผู้ตัดสินถือเป็นที่สิ้นสุดในทุกเรื่อง
เครดิตผู้แต่ง
มาร์ค พิตบูล wwwpitbullzone.com
อาหารสุนัขเอฟวัน www.f1dogfood.com