ประวัติและความเป็นมา (1/4)

โดย Pitbull Zone UPDATE 26-5-2563



"มีคนถามถึงความแตกต่างระหว่างสุนัข อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย กับสุนัขพันธุ์ อเมริกัน สแตฟฟอร์คชาย เทอรืเรีย ซึ่งก้ไม่ใช่เรื่องแปลกครับผมถือเป้นเรื่องปกติ คนแถวบ้านผมบ้างคนก็ยังไม่รู้เลยตัวไหนคือบางแก้วตัวไหนคือหลังอาน ฝรั่งเองก็คงไม่ต่างจากเรา อย่างงไรก็ตามสิ่งที่ผมจะเล่านี้เชื่อว่าคงจะช่วยคลายข้อสงสัยให้บ้างพอสมควรนะครับ

สุนัขสองสายพันธุ์ที่สร้างความสับสนให้กับผู้เลี้ยงมากที่สุดแน่นอนครับในจำนวนนั้นก็คือสายพันธุ์อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย กับสุนัข สายพันธุ์ อเมริกัน สแตฟฟอร์ดชาย เทอร์เรีย เนื่องจากมันมีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกันจนแยกไม่ออก แต่ผมอยากให้อ่านบทความนี้ดีๆ ท่านคงได้ข้อสรุปและเป็นคำตอบต่อตัวท่านเอง แต่ผมไม่ยืนยันนะครับว่า ท่านจะเชี่ยวชาญจนสามรถชี้ได้ว่าสุนัขตัวไหนเป็นพิทบูลสุนัขตัวไหนเป็นสแตฟฯ

สาเหตุเพราะ การที่สุนัขสองสายพันธุ์นี้ เคยมีบรรพบุรุษร่วมกันและเคยเป็นพันธุ์เดียวกันมาก่อน แต่ด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของกลุ่มสองกลุ่ม จึงได้พัมนาออกไปตามแนวทางที่ตนชอบจนในที่สุดได้การยอมรับเป็นทางการว่าเป็นคนละพันธุ์กันแล้ว

และก็มีการใช้ชื่อเรียกแตกต่างกันตามสมาคมที่สังกัดตามไปด้วย แต่สำหรับผมเป็นการส่วนตัวคิดว่าผู้ที่ริเริ่มพัมนาจนทำให้สุนัขพิทบูลได้รับความนิยมมาจนทุกวันนี้น่าจะเป็นทาง UDC มากกว่าทาง AKC ก็ใหการรับรองในชื่อของ สแต๊ปฟอร์ค แต่คนก็ยังนิยมในชื่อของพิทบูลมากกว่า

ผมขอย้อนเล่าไปถึงอดีตสมัยโบราณ ที่ประเทศอังกฤษที่คนนิยมการเอาสัตว์ชนิดต่างๆมาต่อสู้กัน จะเป็นการนำมาสู้กันระหว่างสัตว์ต่างชนิดกันหรือ ระหว่างสัตว์ชนิดเดียวกันก็ได้ และสุนัขบูลด้อกในอดีต ก็ถูกจัดรวมอยู่ในนั้นด้วย และมีตำราหลายเล่มสรุปว่า สุนัขเหล่านั้นคือบรรพบุรุษของสุนัขพิทบูลในปัจจุบัน

ผมขอข้ามมาเริ่มในยุคของการนำสุนัขมาสู้กับวัวกระทิงเลยนะครับ สุนัขที่สู้กับวัวกระทิงในสมัยนั้นจะถูกเรียกรวมกันในชื่อเดียยวกันว่าบูลด๊อก เพราะเป็นการเอาชื่อของหมาของวัวมาผสมกัน คิดว่ายุคแรกๆมันคงจะเกิดจากการนำหมาหลายๆพันธุ์มาผสมพัฒนาเพื่อให้มีความสามารถเพื่อกีฬาโดยเฉพราะ  เลยไม่รู้ว่ามันเป็นพันธุ์อะไรกันแน่ คนก็เลยเรียกมันมา Bull Dog หรือแปลเป็นไทยในชื่อว่าหมาวัวมันซะเลย ด้วยความนิยมเป็นอันมากในคนชั้นสูงในยุคนั้น การแข่งขันแต่ละครั้งมีคนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม ผู้เพาะพันธุ์ต่างแข่งขันกันพัฒนาให้สุนัขของตนมีความใหญ่โต กล้าหาญ และแข็งแรงมากพอที่ใช้สู้กับวัวซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตกว่า จากจุดนี้นี่เองเป็นจุดสำคัญที่ได้ช่วยหล่อหลอมคุณสมบัติความเป็นนักสู้เข้ามาไว้ในตัวของสุนัขเหล่านี้

สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง