ต่อมากีฬานี้ได้ถูกต่อต้านและได้ถูกยกเลิกเป็นกีฬาต้องห้ามในที่สุด บรรดาผู้เพาะพันธุ์สุนัขเหล่านี้จึงนำ พวกมันมาใช้ในการต่อสู้ระหว่างสุนัขด้วยกันเอง แต่ได้มีการผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขในตระกูลเทอร์เรีย เพื่อให้มีขนาดเล็กลงเพิ่มความคล่องแคร้วว่องไวและสะดวกในการขนย้ายไปต่อสู้กันในสถานที่ต่างๆ ขนาดถ้าผมจำไม่ผิดความสูงน่าจะอยู่ 15 นิ้ว และน้ำหนักอยู่ที่ 35 ปอนด์ ซึ่งผิดกับขนาดที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก เพราะจากเดิมที่ทำการแข่งขันกันในสนามกีฬาใหญ่ก็กลายว่เอามาต่อสู้กันในสถานที่เล็ก นิยมในกลุ่มคนชั้นธรรมดาหรือสามัญชนทั่วไป สถานที่ๆใช้ในการแข่งขัน ก็เช่นตามข้างถนนหรือตามร้ารเหล้าทั่วๆไป คิดว่าจุดนี้เองที่ทำให้ชื่อของมันมีคำว่าเทอร์เรียต่อท้ายในภายหลัง แต่ชื่อที่เป็นทางการก็คือ Staf fordshire Bull Terrier เท่าที่ผมจำได้ชื่อนี้ตั้งขึ้นมาตามชื่อเมืองเป็นต้น
กำเนิดและเพื่อเป็นเกียรติแก่คนงานเหมืองถ่านหินที่เป็นผู้ริเริ่มการพัมนาสุนัขพันธุ์นี้ สุนัขพันธุ์นี้ได้ถูกนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกา โดยผู้บุกเบิกในสหรัฐอเมริกาในยุคแรกๆ ที่มาจากฝั่งประเทศอังกฤษได้มีการนำสุนัขพันธุ์นี้มาด้วย แต่สุนัขชนิดนี้ก็ยังนิยมใช้สำหรับใช้ในการต่อสู้เช่นเดิม อาขขะมีบ้างที่นำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น หรือใช้เป็นสุนัขสำหรับล่าสัตว์ ประกอบกับประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่กว้าวใหญ่และอาชีพของผู้บุกเบิกในยุคแรกๆ ส่วกมากจะทำอาชีพกสิกรรม สุนัขที่นำไปด้วยนี้จึงถูกพัมนาให้มีขนาดที่ใหญ่โตขึ้น จนถึงระดับความสูงระหว่าง 19-21 นิ้ว และน้ำหนักตัวอยู่ประมาณ 60-65 ปอนด์ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้หลาหหลายขึ้น นอกเหนือจากใช้ในเกมต์ต่อสู้อย่างเดียวเหมือนกัน
การบรีดสุนัขของเซียนพิทบูลที่อเมริกาในยุคแรกๆ ค่อนข้างจะเป็นความลับ มีการปกปิดเรื่องสายเลือด และไม่มีใครสามารยืนยันได้ว่ามันคงสืบสายเลือดร้อยเปอร์เซนต์จากพรรพบุรุษอีกหรือป่าว ต่างคนต่างปกปิดเรื่องสายเลือดหมาของตนเองไว้เป็นการเฉพราะส่วนตัวไม่ยอมให้ใครรู้อย่างง่ายๆ เพราะวัตถุประสงค์หลักของผู้เพาะพันธุ์เพื่อผลิตหมาชั้นยอดสำหรับเกทต์การแข่งขันเท่านั้น และช่วงนี้นี่เองที่ทำให้สุนัขของอเมริกาและอังกฤษเริ่มมีความแตกต่างกันสิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนเรื่องของขนาด ที่หลากหลายมากขึ้น สุนัขในยุคนั้นตัวที่ได้รับความนิยมก็คือตัวที่ ชนะการแข่งขัน มีสุนัขจำนวนไม่น้อยที่ไม่ผ่านเกณฑ์การแข่งขันหฤโหดนี้ ต้องถูกกำจัดออกป สุนัขที่ได้สิทธิ์ในการผสมพันธุ์ต่อไปคือตัวที่ชนะการแข่งขัน และมีชีวิตลอดอยู่เท่านั้น นี่คือหลักเกณฑ์การคัดพันธุ์ที่เหนือกว่าหลักเกณฑ์ธรรมชาติที่ทำให้สนัขพิทบูลแตกต่างจากสุนัขพันธุ์อื่น คือที่มีความกล้าหาญไม่กลัวใคร ความแข็งแรงเกินตัว ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ความสามารถในการต่อสู้ พลังกัดที่หนักหน่วงและทนทานต่อความเจ็บปวดได้สูง เพราะสิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญให้มันสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ด้วยคุณลักษณะพิเศษเหนือธรรมชาตินี่เอง ที่เป็นจุดดึงความสนใจให้คนทั่วไปอยากมาได้มาเป็นเจ้าของ เพราะนอกจากมันจะได้รับความนิยมในเกมต์แล้ว มันยังทำหน้าที่เป็นสุนัขสำหรับครอบครัวได้ดีอีกด้วย มันจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ช่วงแรกๆ ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ จึงมีการเรียกสุนัขพันธุ์นี้แตกต่างกันไปอีกหลายชื่อ รวมถึงชื่อบูลด๊อกด้วย ผมก็งงตอนตอนที่คุยกับเพื่อนพิทบูลชาวอเมริกัน แกคุยกับผมเรื่องสุนัขพิทบูล แต่แกใช้ชื่อเรียกว่าบูลด๊อก เล่นเอาผมมึนเลย เพราะไอ้บูลด๊อกในความหมายของผมก็คือบูลด๊อกที่เราเห็นในปัจจุบัน แต่ไอ้บูลด๊อกของเจ้าสตีฟ มันหมายถึงสุนัขพิทบูลจริงๆ แรกๆ ผมก็งง ๆ ว่าทำไม บูลด๊อกของอเมริกันม้นถึงได้เก่งกาจนักวะ เพราะจากที่เราเคยเห็นบูลด๊อกในเมืองไทยไม่เห็นเป็นอย่างที่สตีฟเล่า ในความคิดผมแค่ให้มันเอาตัวรอดจากหมาข้างถนนให้ได้ก่อนเถอะ อย่าคิดที่จะเอาไปสู้กับใครเลย แต่ที่ไหนได้ตุยกันเป็นชั่วโมงพึ่งจะรู้ว่าพูดถึงหมาคนละตัว