มือใหม่หัดเลี้ยง พิทบูล พร้อมเทคนิคฝึกหมาสุดโหด
พิทบูล ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ของ สุนัขบูลด๊อก เดิมทีเป็นสุนัขอเมริกันพิทบูล ที่ใช้งานต้อนฝูงสัตว์ (Cattie dog) เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ (Shepherds) แต่ต่อมา สุนัขเหล่านั้นถูกนำมาผสมข้ามสายพันธุ์ จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ จนได้ “อเมริกันพิทบูล” ที่มีฟันและกรามที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และมีความว่องไวสูง
และพิตบูลก็ถูกนำมาใช้ในกีฬาสู้วัว (Bullbaiting) แต่ภายหลังกีฬาชนิดนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย กลุ่มคนที่ชื่นชอบในกีฬาดังกล่าวจึงหันมาจับสุนัขสู้กับสุนัขแทน ทำให้อเมริกันพิทบูลกลายเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่ามีพละกำลังมากที่สุด เท่าที่มีการพัฒนาสายพันธุ์กันมา ในความแข็งแรง ดุร้าย เสน่ห์ของพิทบูลอยู่ที่ความจงรักภักดีที่มีต่อเจ้านาย
ผู้เลี้ยงน้องหมาต้องมีความมั่นคงทั้งกายและใจ
แม้ช่วงนี้กระแสเลี้ยงน้องหมาจะเน้นแนวน่ารัก มุ้งมิ้ง แสนซน อย่างไซบีเรียน บีเกิ้ล คอร์กี้ แต่ก็คงมีหนุ่มๆ และสาวๆ ขาโหดหลายคนอยากเลี้ยงน้องหมาร่างใหญ่ กำยำ ดุดัน อย่างที่ใครเห็นก็ต้องหลบให้เดินก่อน ซึ่งผู้ที่จะเลี้ยงน้องหมาเหล่านี้ได้ ก่อนอื่นเลยก็ต้องรู้ตัวเองว่า ตนมีพละกำลัง มีอำนาจต่อกร และ ต่อรองกับน้องหมาหัวแข็งพวกนี้ ความน่ารักมุ้งมิ้ง อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องหลังจากที่เขายอมรับเราแล้วว่ามีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราเผยความอ่อนแอออกมา … นั่นคือจุดจบของการเป็นเจ้านายของเราทันที แล้วน้องหมาก็จะยิ่งแสดงความก้าวร้าวออกมาเพิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า กว่าผู้เลี้ยงจะไปถึงจุดที่สามารถควบคุมพวกเขาได้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวินัยทั้งต่อตนเอง และต่อน้องหมา … ต้องเป็นเจ้านาย (จ่าฝูง) ตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีการง่ายๆ ต้องใช้วินัยและความอดทน ไม่ว่าจะทำอะไรภายในบ้าน เราต้องเป็นที่ 1 เสมอ เช่น กินข้าวก่อน เดินออกจากบ้านก่อน ทักทายก่อน ต้องอนุญาตก่อน และ ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราเป็นเจ้าของบ้านตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ามาในบ้าน โดยการพาไปเดินรอบบ้าน เมื่อพวกเขาสนใจอยากอื่นให้ออกคำสั่งว่า “ไม่” กระตุกสายจูงให้น้องหมารู้สึกตัว
เวลาให้ข้าวกิน น้องหมาต้องไม่หวง เราต้องสามารถจับสิ่งของของพวกเขาได้โดยที่เขายินยอม เราต้องนิ่ง ไม่โวยวาย ไม่ตีโพยตีพาย เมื่อเขาทำผิด ถ้าจะทำโทษให้ใช้วิธีการฉก หรือ การกระตุกโซ่ ออกคำสั่งสั้นๆ กระชับ ชัดเจน เสียงก้องกังวาน จ้องตานิ่ง เหมือนฝึกทหารค่ะ ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด ซึ่งการแสดงความเป็นจ่าฝูงนี้คือด่านแรกและด่านที่สำคัญที่สุด ถ้าด่านนี้ไม่ผ่าน …… ด่านต่อไปลำบากแน่
พาออกกำลังกายใช้พลังงาน ออกสังคม
หลายคนเลี้ยงน้องหมาดุๆ ก็อยากให้เขาดุสมกับที่ใครกล่าวขาน จึงใช้วิธีการขังไว้ในบ้าน ไม่ให้พบปะกับใคร สะสมความดุไว้ให้คนอื่นหวาดกลัว …โดยที่ไม่รู้เลยว่า น้องหมาจะดุและก้าวร้าวกับเราด้วย เนื่องมาจากความเครียดที่ถูกกักขัง จึงหงุดหงิดง่าย และมีพลังงานเหลือใช้ การพาออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยพัฒนาอารมณ์ในทางบวก อีกทั้งยังช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เป็นการฝึกวินัย และ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องหมากับผู้เลี้ยงในทางอ้อม
ส่วนข้อดีในการออกสังคม คือจะเป็นการเรียนรู้กฏระเบียบและกติกานอกบ้าน ว่าอะไรควรทำ และไม่ควรทำ ซึ่งประสบการณ์นอกบ้านที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จะช่วยสอนให้เรารู้จักนิสัยน้องหมามากขึ้น และเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กับพวกเขาค่ะ เพื่อที่น้องหมาจอมโหดของเรารู้กาลเทศะ เคารพกติกาทั้งในบ้านและนอกบ้าน นั่นเอง
มอบความรักให้อย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ
ห็นพวกเขาเป็นน้องหมาแข็งแกร่ง ดุดัน ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อความรัก การดูแลเอาใจใส่นะคะ ถึงแม้เราจะต้องแสดงตนว่าเป็นจ่าฝูง มีอำนาจเหนือตลอดเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยิ้ม ลูบหัว กอด หรือเล่นกับพวกเขาไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำอย่างมีสติ ไม่โวยวาย ดีใจ กรี๊ดกร๊าด จนน้องหมาคึกคัก ควบคุมตัวเองไม่อยู่ไปกับเราค่ะ แต่อาจจะใช้วิธีการสัมผัส นวด การใช้น้ำเสียงอ่อนโยน ตบไหล่เบาๆ หาเกม กิจกรรมร่วมกันเล่นกับพวกเขา แม้กระทั่งการแปรงขน การทำความสะอาดก็เป็นอีกหนทางในการมอบความรักค่ะ แล้วเมื่อน้องหมารับรู้ถึงความรัก ความเมตตาของเรา พวกเขาก็จะใจเย็น นิ่งสงบลง
ให้อิสระ ปล่อยเวลาให้พวกเขาได้อยู่เงียบๆ
สุดท้ายก็คือ การได้ปล่อยให้พวกเขาได้เป็นตัวของตัวเอง มีเวลาส่วนตัว ได้เล่น ได้นอนพัก นอนแช่น้ำ กินอาหาร ได้สำรวจบ้านโดยไม่มีใครตามจี้ ได้นอนเงียบๆ ไม่มีใครตอแย ซึ่งการปล่อยให้พวกเขาได้มีเวลาเงียบๆ ของตัวเอง นอกจาก จะช่วยลดความเครียดแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่เป็นอิสระจากหน้าที่ รู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งช่วงหน้าร้อน น้องหมาจอมโหดยิ่งหงุดหงิดง่าย ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้เลี้ยงจึงต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กในบ้าน หรือคนในบ้านไปตอแยเข้าใกล้ ไม่เช่นนั้นอาจโดนแว้งกัดได้
การควบคุมน้องหมาดุ สุดโหดเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความอดทน และ ระเบียบวินัยที่สูงมาก … โดยเฉพาะวินัยต่อการเลี้ยงของตัวเอง บางคนฮึดทำได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ แล้วก็ผ่อนลง ทำบ้างไม่ทำบ้าง น้องหมาก็จะเกิดความสับสนว่าตกลงอะไรคือกฏกติกาที่ถูกต้องกันแน่ ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงทางจิตใจของพวกเขา จนทำให้เกิดก้าวร้าวอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น ถ้าน้องหมาของเริ่มฉายแววความดุ ไม่ควรนิ่งดูดาย แต่ต้องรีบฝึกให้พวกเขาอยู่ในโอวาทก่อนจะสายเกินไปนะ
cheezebite.com