การทำหมันในสุนัข เป็นสิ่งหนึ่งในความรัลผิดชอบของเจ้าของในการดูแลสุนัขในตอนแรกเจ้าของอาจจะมีข้อสงสัยต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ความเสี่ยงต่างๆและค่าใช้จ่ายในบทความนี้เรามีคำตอบที่คุณต้องการจะรู้
อะไรคือความแตกต่างระหว่างspaying กับ neutering
ก่อนอื่น spaying หมายถึง การทำหมันโดยการตัดอวัยวะสืบพันธู์ของสุนัขเพศเมีย ในขณะที่คำที่เราได้ยินบ่อยๆคือ neutering คือ การทำหมันเพศผู้ โดยในการทำหมันเพศเมีย สัตวแพทย์จะทำการตัดรังไข่ ท่อน้ำไข่ และมดลูกออก ดังนั้นเมื่อทำหมันเพศเมียแล้วจะไม่มีอาการเป็นสัตและไม่สามารถสืบพันธุ์ได้อีกต่อไป ซึ่งการทำหมันอาจทำให้สัญชาตญาณบางอย่างในการสืบพันธุ์หายไปหรืออาจไม่หายก็ได้ ซึ่งวิธีการผ่าตัดที่กล่าวมาข้างต้น จะเรียกว่า
ovariohystetectomy ซึ่งหมายถึงการผ่าตัดยกเอาระบบสืบพันธุ์ออกทั้งหมด
ส่วนในการทำหมันสุนัขเพศผู้ จะตัดเอาลูกอัณฑะสองข้างแล้วเอาโครงสร้างที่เกี่ยวข้องออกไปสุนัขเพศผู้ที่ทำหมันแล้วจะไม่สามารถสืบพันธุ์ได้อีกแต่การแสดงสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ อย่างเช่นพฤติกรรมการขึ้นขี่ อาจจะหายไปหรือคงอยู่ก็ได้ ซึ่งวิธีการผ่าตัดทำหมันสุนัขเพศผู้ จะเรียกว่า castration ซึ่งหมายถึงการตัดอัณฑะออก
ในการทำหมันสุนัขเพศผู้ก็มีอีกวิธีหนึ่ง คือ vasectomy เป็นการตัดหรือตัดท่อน้ำอสุจิ ส่วนในเพศเมียอีกวิธี คือ ovariectomy เป็นการตัดรังไข่ออกอย่างเดียว ซึ่งสองวิธีสัตวแพทย์ในสมัยก่อนไม่นิยมทำเพราะผลข้างเคียงบางอย่างง่ายกว่าเช่นปัญหามดลูกอักเสบ เพราะการตัดแบบหลังนี้จะไม่ได้นำมดลูกออกไป
ทำไมเราต้องทำหมันให้สุนัข
ในขณะที่ศูนย์พักพิงสัตว์ทั่วประเทศเต็มไปด้วยสุนัขและลูกสุนัขที่ไม่มีใครต้องการ โดยองค์กรปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์สหรัฐอเมริกา (HSUS) ประมาณการว่ามีองค์กรให้ความช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ประมาณ 10,000 องค์กร โดยมีทั้งองค์กรที่หาที่พักพิงให้สัตว์และองค์กรที่จัดหาบ้านที่จะอุปการะสุนัขไปเลี้ยงและในทุกๆปีจะมีสุนัขและลูกสุนัขที่ไม่มีใครต้องการทำให้หลับไปมากกว่า1 ล้านตัว ซึ่งการทำหมันในสุนัขจะช่วยลดจำนวนลูกสุนัขที่ไม่เป็นที่ต้องการได้
อีกทั้งการทำหมันก็มีข้อดีต้อสุขภาพของสุนัขอีกด้วย โดยจะทำให้สุนัขมีสุขภาพที่ดีขึ้น อายุยืนและอาจทำให้พฤติกรรมก้าวร้าวได้ เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมดลูกอักเสบ การติดเชื้อในมดลูกที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ และในการทำหมันสนัขเพศผู้จะช่วยให้สุนัขไม่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งอัณฑะ สุนัขเพสผู้ที่ทำหมันแล้วจะก้าวร้าวและออกหนีออกจากบ้านน้อยลง
ในทางตรงกันข้าม โรคบางโรคอย่างเช่น ดรคมะเร็งต่อมลูกหมากและโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกมักพบได้เป็นประจำในสุนัขที่ทำหมันแล้ว แต่ก็ไม่พบได้บ่อยนัก
ควรให้สุนัขทำหมันเมื่อไหร่
ปกตินิยมทำหมันสุนัขระหว่าง 6-9 เดือน แต่คลินิกทำหมันหรือศูนย์พักพิงสัตว์เลี้งอาจจะทำหมันสุนัขตั้งแต่ 2 เดือน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์ของสุนัขก่อนทำหมัน หากมีเหตุการณ์ค่อนข้างจำเพาะ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อช่วงเวลาที่ควรทำหมัน
ตัวอย่างเช่น มีคว่ามแตกแยกกันในสุนัขแต่ล่ะพันธุ์ โดยงานวิจัยบางงานวิจัยพบว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่จะโตเต็มวัยช้ากว่าสุนัขพันธุ์เล็กๆน้อย ความแตกต่างของสภาพแวดล้อมก็ควรคำนึงถึงด้วย เช่น สุนัขเพศผู้และสุนัขเพศเมียที่ถูกรับเลี้ยงไว้ในบ้านเดียวกันหากมาจากคอกเดียวกันก็ควรทำหมันก่อนสุนัขเพศเมียจะเป็นสัด แต่ถ้าหากเป็นลูกสุนัขที่อยู่ตัวเดียว
ในบ้านก็ไม่จำเป็นต้องรีบทำหมัน
ก่อนที่จะทำหมันสุนัข สิ่งสำคัญมากที่สัตว์แพทย์ คลีนิก หรือศูนย์พักพิงต้องทำคือการตรวจร่างกายสุนัข เพื่อดูว่าปัญหาด้านสุขภาพหรือไม่และเจ้าของควรให้ข้อมูลประวัติการรักษาให้ครบถ้วน (เนื่องจากอาจมีภาวะอื่นอยู่ก่อน) และประวัติของยาที่ได้รับปัจจุบัน
การพักฟื้นหลังการทำหมัน
เจ้าของสามารถให้สัตว์เลี้ยงฟื้นตัวอย่างปลอดภัยและอุ่นใจ โดยการทำตามข้อควรระวังของสมาคมป้องกันการธารุณสัตว์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (ASPCA)
>ให้สุนัขทำหมันอยู่ให้ห่างจากสัตว์อื่นๆในช่วงพักฟื้น
>อย่าให้สุนัขวิ่งเล่นไปทั่วและกระโดขึ้นลงหลังจากการผ่าตัด 2 อาทิตย์หรือขึ้นอยู่กับคำแนะนำของสัตวแพทย์
>สวมปลอกคอกันเลีย ให้สุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเลียบริเวรแผลผ่าตัด
>ตรวจดูบริเวรแผลผ่าตัดทุกวัน ถ้าหากมีอาการแดง บวมหรือมีของเหลวไหลออกมาจากแผลให้ติดต่อสัตวแพทย์
>ไม่ต้องอาบน้ำให้สุนัขหลังผ่าตัด 10 วัน
>โทรหาหรือแจ้งสัตวแพทย์หากสุนัขมีอาการไม่สบาย ซึม กินน้อยลง อาเจียน หรือท้องเสีย
ข้อแนะนำ ควรปรึกาาสัตวแพทย์เกี่ยวกับความเจ็บหลังผ่าตัด เพื่อให้มั่นใจว่าสัตวแพทย์จ่ายยาแก้ปวดให้กับสุนัข เนื่องจากในบางกรณีควรได้รับยาแก้ปวดหรือบางรายอาจไม่จำเป็นต้แองใช้ก็ได้ วิธีการที่ดีในการวัดการฟื้นตัวของสุนัขสามารถวัดได้จากการที่สุนัขรู้สึกสบายและมีแรงที่จะเล่น ถ้าหากฟื้นตัวได้ดีสุนัขก็จะเล่นเป็นปกติ
การทำหมันมีความเสี่ยงไหม
การทำหมันเป็นการผ่าตัดทั่วไป ซึ่งมีความเสี่ยงบางประการที่เกิดจากการผ่าตัดหรือวางยา ดังนั้นสุนัขควรถูกตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อที่จะมั่นใจว่าสุนัขตัวนั้นสุขภาพดีก่อนที่จะทำการผ่าตัด หลายคำแนะนำพูดตรงกันว่าควรให้ตรวจเลือด เพื่อที่จะมั่นใจว่าสุนัขตัวนั้นไม่มีปัญหาทางด้านสุขภาพที่ซ่อนอยู่ อาจจะต้องมีการตรวจ ตับ ไต และเสียงหัวใจผิดปกติเพิ่มเติม
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำหมัน
มีความเข้าใจผิดหลายอย่างเกี่ยวกับการทำหมันสุนัข โดยหนึ่งในนั้นที่คนส่วนมากเข้าใจผิดคือสุนัขที่ทำหมันแล้วจะอ้วน ซึ่งไม่เป็นความจริง สุนัขที่ไม่อ้วนถ้าหากเจ้าของให้ปริมาณที่เหมาะสมและออกกำลังกายที่เพียงพอ สุนัขที่ทำหมันแล้วมีแนวโน้มในความต้องการพบังงานน้อยลง ดังนั้น วรให้ปริมาณอาหารที่เหมาะสมและให้สุนัขออกกำลังกายสมำ่เสมอ
ความเข้าใจผิดอีกอย่าง คือ สุนัขที่ทำหมันจะมีลักษณะที่เปลี่ยนไป ซึ่งไม่เป็นความจริง สุนัขจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงนิสัยหลังจากทำหมันแล้ว
ทำไมการทำหมันถึงมีราคาแพง
ค่าใช้จ่ายในการทำหมันสุนัขแตกต่างกันในแต่ล่ะประเทศและต่างกันในขนาดของสุนัขที่ต่างกัน Petfinder รายงานว่าค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดในโรงพยาบาลสัตว์สูงกว่า 9,945 บาท (300$) ส่วนคลีนิกราคาประหยัด ค่าใช้จ่ายระหว่าง 1,493 บาท (45$) ถึง 4,479 (145$)
การเพิ่มขึ้นของคลีนิกทำหมันราคาประหยัดทำให้มันคุ้มค่าในการค้นหาทางเลือกในการทำหมันราคาประหยัดในพื้นที่ๆหนึ่ง โดยมีองค์กรจัดทำข้อมูลเพื่อให้เจ้าของสามารถค้นหาข้อมูล
สนับสนุนโดย อาหารสุนัข F1
f1dogfood.com