สิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงจะต้องจำไว้ก็คือ ในช่วงที่น้องหมากำลังตั้งท้องไม่ควรฉีดวัคซีนเพราะอาจส่งผลเสียต่อลูกหมาในท้องได้ (อาจทำให้ลูกหมาพิการหรือเสียชีวิตได้เลยทีเดียว!!)
จริงๆ แล้วก่อนน้องหมาจะตั้งท้อง เจ้าของควรพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนให้ครบ และควรป้อนยาถ่ายพยาธิให้แม่สุนัขก่อนการตั้งท้องด้วย เพื่อลดโอกาสการติดพยาธิในลูกสุนัข เนื่องจากพยาธิหลายชนิดสามารถติดจากแม่ไปสู่ลูก ผ่านทางรกและทางน้ำนมได้
ส่วนโปรแกรมการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ในกรณีที่ใช้แบบยากิน (เฉพาะยี่ห้อที่ได้รับการขึ้นทะเบียนนะคะ) สามารถใช้ในสุนัขตั้งท้องได้ตามปกติ ส่วนกรณียาหยดหลัง ถ้าเป็นยี่ห้อ Revolution® มีการทดลองว่าปลอดภัยกับสุนัขตั้งท้อง
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดปรสิตภายนอก (เห็บ/หมัด) ถ้าไม่จำเป็นควรงดใช้ไปก่อน แต่ถ้าแม่สุนัขมีเห็บ/หมัดเยอะ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ถึงผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ว่าสามารถใช้ได้หรือไม่
การให้อาหาร
เรื่องโภชนาการอาหารสำหรับสุนัขในช่วงตั้งท้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าแม่หมาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อาจทำให้ลูกหมาไม่แข็งแรงและอาจจะเสียชีวิตหลังคลอด แต่เจ้าของก็ต้องระวังไม่ควรให้แม่หมาอ้วนจนเกินไปนัก เพราะแม่หมาที่อ้วนเกินไปมักจะมีปัญหาคลอดยากกว่าน้องหมาที่มีรูปร่างปกติ
ให้ทานอาหารสูตรลูกสุนัข ไซบีเรียน
1-3 สัปดาห์แรก ออกกำลังกายได้ตามปกติ หลังจากนั้นให้ออกกำลังกายแบบเบาๆ เดินเล่นทั่วไป ไม่ควรกระโดด กระโจน เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกสัปดาห์ที่ 4 เต้านมเริ่มมีการพัฒนาขยายใหญ่ขึ้นในระยะนี้ บำรุงเสริมด้วยไข่ต้มหรือพวกกล้วยน้ำว้า ฝักท้อง ร่วมกับอาหารเม็ดได้ค่ะหรือเนื้อไก่สุกแบบไม่ปรุงรส สามารถบำรุงได้เรื่อยๆจนคลอด
สัปดาห์ที่ 6 เริ่มฝึกให้แม่สุนัขอยู่ในบริเวณที่เตรียมไว้สำหรับการคลอด
สัปดาห์ที่ 7 ขนบริเวณส่วนท้องจะเริ่มมีการหลุดร่วง แม่สุนัขจะเริ่มมองหาจุดที่จะทำการคลอด
สัปดาห์ที่ 9 พบพฤติกรรมการทำรังของแม่สุนัขให้เห็น สุนัขอาจมีอาการเบื่ออาหารคว่ำชามข้าว อารมณ์หงุดหงิด
อุณหภูมิของร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 100.2-100.8 F หากอุณหภูมิลดลงไปอยู่ที่ 98-99.4 F คาดการณ์ได้ว่าลูกสุนัขจะออกมาภายใน 24 ชั่วโมง
สนับสนุนโดย อาหารสุนัข F1
f1dogfood.com