การดูแลแม่สุนัขและสุนัขทัอง !!

โดย Pitbull Zone UPDATE 26-1-2564

เพียงแค่หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจจะต้องใช้กำลังมากหรือกระโดดโลดเต้น การให้อาหารก็ตามปกติตามที่เคยกิน อย่ารีบเห่ออัดอาหาร เพราะมันไม่มีประโยชน์ มันอาจจะมีช่วงเวลาแพ้ท้องที่ไม่ยอมกินอาหาร แต่ก็อย่ากังวลใจมันเป็นเรื่องปกติครับ แต่อย่าพยายามอัดอาหารอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหมาอ้วนจะคลอดยาก การพาจูงเดินหรือปล่อยสุนัขวิ่งเล่นตัวเดียวโดยไม่ได้ขังกรงจะช่วยให้สุจภาพดี คลอดง่าย บางคนกลัวแท้งเลยขังไว้ตลอดเวลาซึ่งเป็นการเข้าใจผิดๆว่าป้องกันแท้ง แต่อย่าลืมมันอาจจะทำให้แม่สุนัขอ่อนแอจนไม่มีแรงเบ่ง ส่งผลให้คลอดลูกยาก จนอาจจะต้องให้หมอผ่าออก



 

หลัง 1 เดือน ถ้าสุนัขท้องจะเริ่มสังเกตเห็น แต่อย่าพยายามเข้าข้างตัวเอง ท้องคือท้องไม่ท้องก็ไม่ท้อง ถ้าอาการยังไม่ชัดยังไม่ควรเสริมอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าเริ่มเห็นว่าท้องแน่นอน ก็ค่อยๆเสริมเนื้อ นม ไข่ เพราะหมาท้องต้องการสารอาหารเพิ่มเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงลูกในท้อง แต่ไม่ควรอัดอาหาร ถ้าลูกสุนัขตัวใหญ่เกิน มันอันตรายเพราะคลอดยาก และสิ่งที่ควรระวังและผมย้ำตลอด คืออย่าให้อ้วนเด็ดขาด แม่สุนัขอ้วนอันตรายและไม่มีข้อดีเลย

สุนัขจะท้อง 63 วัน ก่อนคลอด 2 สัปดาห์ ช่วงนี้อัดเนื้อนมไข่ได้เต็มที่ แต่ไม่ควรฝืนเขาไม่กินก็คือไม่กิน ก่อนคลอดวันหรือสองวันแม่สุนัขจะเริ่มไม่กินอาหาร เพราะ จะต้องเตรียมท้องให้ว่างไว้สำหรับการกินรก ช่วงนี้หลายคนชอบเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับมันซึ่งผมมองว่าไม่จำเป็น มันทำให้แม่สุนัขเครียดเปล่าๆ เราแค่เตรียมรังคลอดไว้ก็พอ อย่าลืมผนังลังคลอดต้องมีที่กั้น สำหรับป้องกันแม่สุนัขนอนเบียดทับลูกหมา ที่เหลือปล่อยให้มันจัดการตัวมันเอง ควรปูพื้นด้วยกระสอบจะเหมาะสุด อย่าลืมขึงให้ตึง อาจจะยิงสกูรยึดกับพื้น เพื่อกันลูกสุนัขมุดไปอยู่ด้านใต้แล้วโดนแม่สุนัขนอนทับตาย

                           
ผมชอบให้มันคลอดเองตามธรรมชาติ อาจจะช่วยแค่ตอนตัดสายรกตรงสะดือเท่านั้น ถ้าปล่อยให้แม่มัรกัดเอง บางตัวมันกัดชิดท้องเกินไป เราตัดเองกะระยะได้ คือไม่ชิดท้องเกินไปเหลือไว้ประมาณ 1-2 เซนต์ แม่สุนัขกินรกมันเป็นเรื่องปกติ ไม่มีโทษมีแต่ประโยชน์ รกจะช่วยการกระตุ้นน้ำนม มันคือหลักการตามธรรมชาติ เพราะในรกอุดมไปด้วยสารอาหาร.....​โพสนี้ เขียนจาก​ประสบการณ์จริง​ที่เคยบรีดสุนัข ผมทำแบบนี้มาโดยตลอด ไม่เคยทำอะไรพิสดารเกินไปจากนี้เลย ยืนยันว่าปลอดภัยต่อทั้งแม่ลูกแน่นอน ..เขียนแนะนำให้ด้วยความปราถนาดีครับ !!
มาร์ค พิตบูล
อาหารสุนัขเอฟวัน
www.f1dogfood.com

                                        

สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง