สายไหนเหมาะกับคุณ พิตบูล

อ่าน 708 ตอบ 5

สายไหนเหมาะกับคุณ พิตบูล

ความคิดเห็นเจ้าของกระทู้
มีพิตบูล มีเพื่อน
3/12/2563 เวลา 13:42 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

Pit Bull สายใหนเหมาะกับคุณ
ขณะนี้ดูเหมือน Pit Bull กำลังกลับมาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสายโชว์ หรือสายกัด ผมเองก็สนใจ มานานกว่า 10 ปี จึงอยากให้คนเลี้ยง Pit Bull รักและสามัคคีกัน ส่งเสริม ให้เกียรติ์ เข้าใจกันและกัน ไม่ใช่ว่าใครไม่เห็นด้วยกับแนว ความคิดและวัตถุ ประสงค์ของเรา เกียวกับ Pit Bull จะผิดไปหมดใช้ไม่ได้ Pit Bull เป็นสุนัขขนาดกลาง ในกลุ่ม Terrier น้ำหนัก 30-65 ปอนด์ สูง 18-19 นิ้ว ประวัติ โดยทั่วไปในอดีต เลี้ยงไว้สำหรับเกมส์ กัดสุนัข บางแห่งก็เลี้ยงไว้ตาม ฟาร์ม แต่ในยุคแรกๆ ไม่ได้เลี้ยงไว้โชว์ แน่นอน สังเกตุได้ในยุคแรกๆ ตัว Pit Bull เอง จะหาเหมือนกันได้ยากมาก ไม่เหมือนพันธ์อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ การคัดพันธ์จะอาศัย โครงสร้างและ ลักษณะภายนอกเป็นหลัก ดังนั้นจึงทำให้ดูเหมือนกันไปหมด ทั้งมาร์คกิ้ง รูปร่างหน้าตา แต่ Pit Bull จะอาศัยการคัดพันธ์จากลักษณะ การใช้งาน เช่นการกัด และการทำงานในลักษณะเฉพาะ ประจำพันธ์ ที่เน้นความสามารถเฉพาะตัว เพราะฉนั้นจึงหา Pit Bull ที่เหมือนกัน ค่อนข้างยาก แล้วเหตุใด คนยังนิยมเลี้ยง Pit Bull ทั้งๆ ที่ความสวยงามในยุคแรกๆ คาดหวังยาก โดยเฉพาะสายกัดมีผู้เลี้ยงหลายท่าน บอกว่าถ้าจะเลี้ยงสุนัขสวยงามให้ไปเลี้ยงพันธ์อื่น ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะปัจจุบัน Pit Bull ก็มีความสวยงาม และ มีเสนห์ อยู่ในตัวเอง และมีมากด้วย ก่อนอื่น ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้เลี้ยง Pit Bull ไว้กัด หรือ ประกวด ผมเลี้ยงเพราะว่าผมรักมัน ผมจึงอยากจะแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ Pit Bull อย่างเป็นกลาง ตามความคิดเห็นของผม ซึ่งคุณอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่ที่เขียนมานี้ก็เพื่อให้ คนเลี้ยง Pit Bull รักและสามัคคีกัน Pit Bull สายโชว์หรือกัด จริงๆแล้ว มันก็คือ Pit Bull เหมือนกัน ไม่อยากจะบอกว่าสายใหนมันดีกว่ากัน ต่างคนต่างรสนิยม อยากยกตัวอย่างง่ายๆ เขาทราย ก็คือคนไทย แซมยุรนันท์ ก็คือคนไทย ถามว่า 2 คนนี้ ใครเก่งกว่ากัน ถ้าชกกัน เขาทรายก็กินขาด แต่ถ้าเดินแบบเล่นหนัง เขาทรายก็ไม่มีทางสู้ได้ แต่ที่สำคัญ 2 คนนี้ชกมวยไทย เป็นแน่ๆ Pit Bull ก็เหมือนกัน คุณคงไม่เอาตัวที่ ขี้เหล่ ไปประกวดแน่นอน แต่ที่แน่ๆ Pit Bull มันกัดเก่งกว่าสุนัข พันธ์อื่นๆ แน่นอน ถ้าทั้งสองฝ่ายยอมรับความจริงในข้อนี้ การทับถมอีกฝ่ายก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าร่วมใจกันพัฒนา เราอาจจะได้ Pit Bull ที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง เหมือนกับ สามารถ พยัคอรุณ ที่ทั้งหล่อชกมวยเก่ง ร้องเพลงก็ได้ ทำไม Pit Bull จะเป็นเช่นนี้ไม่ได้ ถ้าใครชอบจุดใหน ก็ไป พิสูจน์กันในสังเวียนนั้น ไม่ใช่สังเวียนปาก ถ้าถามผมว่าอยากได็แบบใหน ผมคงตอบว่าอยากได้แบบ ทั้งหล่อ และทั้งเก่ง แต่ถ้าให้ผมนำ สุนัขของผม ไปพิสูจน์ ผมก็คงจะไม่เอา ทั้ง 2 สังเวียน นั่นแหละ เพราะผม ภูมิใจในความที่มันเป็น Pit Bull ก็พอแล้วครับ

รูปภาพเพิ่มเติม

ตอบกระทู้ล่าสุด

  • ความคิดเห็นที่ 1
    มีพิตบูล มีเพื่อน
    3/12/2563 เวลา 13:43 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

    โครงสร้างและหน้าที่ของพิตบูล
    ถ้าคุณหยิบตำราหมาพันธุ์ต่างๆ มาอ่านสักเล่ม..คุณจะเห็นเขาบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของหมาพันธุ์นั้นๆ หลายๆ พันธุ์มีประวัติวีรกรรมของบรรพบุรุษยิ่งใหญ่มาก เช่น ไอริซ วู๊ฟฮาวน์ ล่าหมาป่า เกรทเดนล่าหมูป่า..ร็อตไวเลอร์ ใช้ในกองทัพโรมันว่ากันว่ามันงับข้อขาม้าแตกหักได้อย่างง่ายดาย!...ประวัติทั้งหลายมันก็คือหน้าที่ประจำพันธุ์ของมัน..ฉะนั้นโครงสร้างมาตรฐานของแต่ละพันธุ์ก็ถูกคนเรามากำหนดว่าต้องเป็นอย่างไรจึงจะทำหน้าที่นั้นๆ ได้ดี.บรรดาสมาคมหมาๆ อย่าง AKC, UKC, FCIฯ ต่างก็ตอบสนองนักเพาะพันธุ์หมา..ร่วมกันร่างมาตรฐานของแต่ละพันธุ์และให้เหตุผล..เถียงกันหน้าดำหน้าแดง...หัวต้องแบบนี้ หูต้องอย่างนี้ เส้นหลังต้องตรงเท่านั้น!..ฯลฯ.ทุกอย่างถูกกำหนดขึ้นในห้องประชุม.พอมาตรฐานโครงสร้างของหมาถูกร่างออกมา ลงนามยอมรับกันแล้วนำออกเผยแพร่..เป็นที่น่าสังเกตว่ามาตรฐานหมาเกือบทั้งหมดมีความคิดไปแนวเดียวกัน คือ ความสวยงาม..สวยตามความนึกคิดของคน..ก็ไม่รู้ว่าหมามันมองพวกเดียวกันอย่างไร!?. ดูง่าย ๆ หมาหลายพันธุ์กำหนดไว้ว่าเส้นหลังต้องตรง ลาดต่ำลงจากวิทเทอร์สู่บั้นท้าย..เหตุผลว่าต้องตรงจึงจะแข็งแรง..ถูกต้องเลย.. ยิ่งตรงยิ่งแข็ง!..แต่มันแข็งทื่อ!..ไม่มีความยืดหยุ่น!.. คนที่เลี้ยงหมาไว้ใช้ประโยชน์จริง ๆ เขาคัดพันธุ์กันที่ความสามารถหมาล่าหมูป่าถ้ามันไม่มีความสามารถ มันคงโดนหมูขวิดตายไปแล้ว!..ไอ้พวกที่รอดมาจึงมีโอกาสได้ผสมพันธุ์แพร่ลูกหลาน... หมาพิตบูลที่ใช้ในเกมต่อสู้ก็เช่นกัน..หมาตัวที่ใจเสาะ อ่อนแอ..ไร้ความสามารถ..คงไม่มีด็อกแมนคนไหนอยากเก็บไว้..ว่าไปแล้วพวกด็อกแมนก็ไม่ได้รู้เรื่องพันธุกรรมลึกซึ้งแต่อย่างใด..แต่เขาเข้าใจในตัวหมาที่ความเก่งของมัน เลือกตัวเก่ง ๆ ผสมกัน..มันเหมือนธรรมชาติช่วยคัดสรร..หมาป่าก็เช่นกันหมาจ่าฝูงกัดเก่งจึงมีโอกาสได้ทับตัวเมีย..แน่นอนมันจะกัดเก่งได้จำต้องมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า..หมาจะแข็งแรงได้มันต้องมีโครงสร้างที่ถูกต้องตามธรรมชาติของพันธุ์..หาใช่มนุษย์ไปกำหนดไม่!..
    มาดูใกล้ตัวเราหน่อย..หลังจากองค์กรต่างๆ ต่อต้านการแข่งขัน เกมพิต..หาว่าโหดร้าย ทารุณ!..แต่เพื่อคงอยู่ของเผ่าพันธุ์..เขาหลีกเลี่ยงมาจดทะเบียนเป็นอเมริกัน สแตฟฟอร์ดชายด์ เทอร์เรีย..แล้วมาตรฐานพันธุ์ของมันก็ถูกกำหนดโดยคน..บนโต๊ะประชุมตามที่กล่าวข้างต้น..อีกกลุ่มพวกชื่นชอบความเก่งกาจของพิตบูล เขาก่อตั้งสมาคม ADBA แล้วก็ร่างมาตรฐานพันธุ์ภายใต้แนวคิด คงความเก่ง คงศักยภาพไว้..จริง ๆ มันก็ไม่ยากเย็นอะไร..เอาพวกตัวที่กัดเก่ง ๆ ระดับแชมเปี้ยนหลายๆ ตัวมาวิเคราะหโครงสร้างพวกมันดูว่ามีอะไรเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน. หมาพิตบูลเก่งๆ อาจมีรูปร่าง สีสันแตกต่างกันไป.แต่มีจุดหลักๆ ที่ใกล้เคียงกันคือบั้นท้าย..เชื่อกันว่าพละกำลัง 70% ถูกส่งมาจากส่วนท้ายตั้งแต่บั้นขาหลัง (Stifle) ตรงนี้ถ้าเทียบเป็นคนก็คือเข่า..พละกำลังจะถูกส่งจากขาหลังนี้ส่งผ่านมาถึงสะโพก (Hip) ถึงบั้นเอว (loin) ?เวลาแยกหมากัดกันเราหนีบเอวมันไว้..เท่านี้ก็ตัดกำลังได้เกือบหมดแล้ว.. หมาพิตบูลนักสู้ส่วนใหญ่มักมีส่วนท้ายโค้งมนลงเล็กน้อย..ตำแหน่งหาค่อนไปทางต่ำเล็กน้อย(Low set tail)..ปั้นขาหลังต้องกว้าง มีกล้ามเนื้อนูนเด่นชัด และต้องมีมุมโค้ง(Angulation)..หมาที่ไม่มีมุมโค้งมองดูเหมือนขาหลังตึงพวกนี้จะไม่มีแรงส่งที่ดี..ส่วนพวกที่มีมุมขาหลังโค้งมีมุมมากเกินควร (over Angulation) เช่น หมาเยอรมันเช็พเพอด พวกนี้มักมีปัญหาเรื่องข้อกระดูกและสะโพก (Hipdysplasia) คนเลี้ยงหมาตามแบบฉบับของสมาคมใหญ่!..อาจยืนมองว่าหมาพิตบูลพวกนี้ช่างขี้ริ้ว ขี้เหร่!..กะโหลกก็ไม่โตเหมือนหม้อข้าว!..ท้ายก็โด่ง ๆ ความจริงวันนี้คือ นิตยสารไทม์เคยนำมาตีพิมพ์ว่าหมาทุกพันธุ์ที่รับรองโดย AKC ในอเมริกามากกว่า 25 % ต่างมีโรคประจำพันธุ์..และน่าใจหายว่าหมาอเมริกันสแตฟฟอร์ดชายด์ เทอร์เรีย ปรากฏมีโรคข้อสะโพกห่างติดอันดับต้น ๆ.. หมาพิตบูลที่ใช้ในเกมทั้งหมดถูกคัดพันธุ์โดยยึดหน้าที่เป็นหลัก..ส่วนหมาพันธุ์อื่น ๆ ถูกคัดพันธุ์โดยยึดมาตรฐานความงาม (ในสายตาคน)เป็นหลัก..โดยไม่มีการพิสูจน์ตามหน้าที่บรรพบรุษของพวกมัน..ผมยังไม่แน่ใจว่าไอริชวู๊ฟฮาวน์วันนี้ยังคงล่าหมาป่าได้หรือไม่?เกรทเดนยังคงล่าหมูป่าได้หรือไม่?..ร็อตไวเลอร์ยังคงไล่งับขาม้าได้หรือไม่?..แต่ผมแน่ใจว่าบลูด็อกเมื่อหลายร้อยปีก่อนจนถึงวันนี้ยังคงใช้สู้กับวัวได้ (บลูด็อกโบราณยังไม่สูญพันธุ์สายเลือดยังบริสุทธิ์เพราะมันคือพิตบลูนักสู้ทุกวันนี้)
    ป.ล.หมาที่เกิดมามีโรคประจำพันธุ์ติดตัวมาด้วย มันก็คือความโหดร้ายทารุณเหมือนกัน!..

  • ความคิดเห็นที่ 2
    มีพิตบูล มีเพื่อน
    4/12/2563 เวลา 11:10 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

    ในการเลี้ยงพิตบูลเราควรให้ความสำคัญกับ 3 สิ่ง

    1. ซึ่งจะอธิบายแบบกว้างๆ กล่าวคือ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว อุปนิสัย ความก้าวร้าวต่างๆ ก็สามารถถ่ายทอดจากพันธุกรรมได้ด้วย เช่น หากพิตบูลตัวนั้นมีบรรพบุรุษที่เป็นสายกัด หรือบรรพบุรุษที่มีประวัติดุมากจนถึงขั้นกัดคนมาก่อน ความดุนั้นอาจตกทอดมาถึงรุ่นลูกหลานได้ ดังนั้น ตอนเลือกซื้อก็ควรศึกษาที่มาที่ไปของสุนัขตัวนั้นให้ดีเสียก่อน หรือเลือกซื้อจากสถานที่ หรือฟาร์มที่ไว้ใจได้แต่สถานที่ที่ผู้เขียนไม่แนะนำเลยก็คือ  ตามตลาดนัดต่างๆ จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเจอมาก็คือ มีคนที่รู้จักไปหาซื้อลูกพิตบูลตามตลาดนัดปรากฎว่าเลี้ยงได้อาทิตย์สองอาทิตย์ก็เสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ สันณิฐานว่าสุนัจที่มาจากตลาดนัดอาจมีที่อยู่ที่กินไม่ค่อยสะอาด บวกกับการที่ไม่ได้รับวัคซีนตามกำหนดทำให้ลูกสุนัขไม่แข็งแรง...

    วรรธนา สมิตร

  • ความคิดเห็นที่ 3
    มีพิตบูล มีเพื่อน
    4/12/2563 เวลา 11:23 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

    ต่อครับ 

    และอีกเหตุการณ์ที่ผู้เขียนเจอโดยตรงเลยก็คือ เมื่อไปตลาดนัดที่โซนขายสัตว์เลี้ยงก็มักจะแวะเวียนไปดูแถวที่ขายลูกสุนัขเป็นประจำ หลังๆที่กระแสสุนัขพันธุ์นี้เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากขึ้น ก็จะมีบางร้านนำลูกสุนัขพันธุ์นี้มาขาย พร้อมมีภาพมาประกอบเป็นสุนัขพิตบูลพันธุ์ต่างๆนำเข้ามาจากต่างประเทศแปะไว้บนข้างฝา  พอผู้เขียนแวะดูคนขายก็จะชี้ไปยังหนึ่งในสุนัขที่ผู้เขียนรู้จักพอดี และเข้าก็บอกกับผู้เขียนเองว่าตัวนี้จะไม่นำมาผสม เนื่องจากมีพี่น้องตัวนี้เป็นโรคข้อสะโพก ( Hip dysplasia ) จึงกลัวว่าถ้านำมาผสม ลูกที่ออกมาก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้  โรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งอาจทำลายชื่อเสียงของฟาร์มของเขาได้

    วรรธณา สมิตร

  • ความคิดเห็นที่ 4
    มีพิตบูล มีเพื่อน
    4/12/2563 เวลา 11:40 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

    2.การเลี้ยงดู..  ผู้เขียนคิดว่าข้อนี้สำคัญมาก เพราะแม้เราจะได้พิตบูลที่นิสัยดีเพียงใด หรือมีพ่อแชมป์แม่แชมป์ พ่อนอกแม่นอก แต่เราไม่มีเวลาเลี้ยงดู ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน ไม่มีเวลาพาเข้าไปเดินเล่นออกกำลังกายพาเข้าสังคม  ต่อให้เป็นพันธุ์ไหนก็ดุเพราะเครียด.  อย่าว่าแต่เป็นพิตบูลเลย หรือกล่าวได้อีกอย่างคือ การเลี้ยงดูสุนัข เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมใหเกิดขึ้นกับตัวสุนัข เปรียบเหมือนเด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมใดก็จะหล่อหลอมให้เขาออกมาเป็นอย่างนั้น ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของคุณมาร์ค พิตบูล ที่ว่าสุนัขพิตบูลตอนเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว. การเลี้ยงดูของคุณเปรียบเหมือนการวาดรูปลงไปในผาขาวอันนั้น แต่ก็อย่าลืมว่าหลังจากวาดรูปลงไปแล้วมันซักไม่ออก นิสัยบางอย่างของมันฝังลึกลงในตัวอย่างถาวร ดังนั้นเขาจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงเป็นสำคัญ..

    วรรธณา สมิตร

    • ตอบกลับความคิดเห็นที่ 4
      มีพิตบูล มีเพื่อน
      4/12/2563 เวลา 13:32 น. โดย มีพิตบูล มีเพื่อน

      3. นิสัยส่วนตัว อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าคนเราเป็นพี่น้องกันหรือเป็นฝาแฝดกัน นิสัยก็ยังต่างกันและถึงสุนัขจะเป็นเพียงสุนัข แต่ความจริงแล้วสุนัขก็มีความคิดจิตใจเหมือนมนุษย์เช่นกัน ดังนั้น สุนัขแต่ละตัวย่อมมีนิสัยส่วนตัวที่แตกต่างกันออกไป

      วรรธณา สมิตร

       

ตอบกระทู้