หัวข้อกระทู้
ข่าวสาร
เข้าสู่ระบบ
ยินดีต้อนรับครับ
ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หมวด
หัวข้อทั้งหมด
36,995
General Issues กระทู้ทั่วไป
27,550
All Gangster กลุ่ม ชมรม คอก ฟาร์ม
87
กฎระเบียบ การขึ้นทะเบียนสุนัข ABC
9
Dog for Sale ตลาดซื้อขาย
7,857
Products & Service สินค้าและบริการ
407
ผลิตภัณฑ์/อาหารสุนัข
26
Activities กิจกรรม
138
Knowledge สาระ
880
Hit Questions/ คำถามยอดฮิต
10
สมาชิกใหม่อยากให้อ่าน !!
31
Mark Mafia
เทคนิคการให้อาหารสุนัข
74
พิตบูลกำลังจะกลายเป็นหมาจร !!
96
เปิดตัว เดอะ เฮอร์ริเคน ดุ๊ก
34
ก่อนลงขาย ขอความร่วมมือจากส...
213
เปิดตัว เดอะ เรด กราม ล๊อค
199
ช่วยแนะนำหน่อยคะ... เจ้าหมา...
49
มือใหม่อยากให้อ่าน
64
เล่นบอร์ดนี้ ให้มีความสุข
60
Welcome to Pitbull Cafe'
1118
ทำไมถึงต้อง พิตบูล
47
Pitbullzone Radio สถานีวิทย...
59
เปิดตัว The Red Warrior Dae...
79
ผลิตภัณฑ์สร้างกล้ามเนื้อ "พ...
527
คำคม วลีเด็ด มาร์ค มาเฟีย
49
ประสบการณ์จริงของการเลี้ยงห...
105
มาร์ค มาเฟีย อยากบอก !!!
81
รวมคลิป ฝึกหมาจาก PitbullZo...
43
Gramlock , the first time o...
195
ถึงมือใหม่ทุกท่าน ด้วยความป...
105
นโยบาย ปี2555 ของเว็บ Pitbu...
62
เป็นไปได้ไหม ???
165
ความแตกต่างของเอฟวันแต่ละรุ่น
79
เรียนมาเพื่อแจ้งให้ทราบ
41
กองทุน Pitbullzone (ABC)
43
ชะตาฟ้าหรือจะสู้มานะตน
133
รักหมาจริงหรือว่ารักตัวเองก...
128
สินค้าที่ระลึก Pitbullzone
9
ประวัติพิทบูล นักสู้ตลอดกาล...
96
ลงรูปครับ(สำหรับคนไม่รู้)
6
French-Bulldog กิน F1 ได้มั...
78
Proudly to present The Stro...
64
General Issues กระทู้ทั่วไป
รบกวนช่วยแนะนำวิธีการฝึกลากน้ำหนักหน่อยคับ
roj
พฤศจิกายน 2008
รบกวนช่วยแนะนำวิธีการฝึกลากน้ำหนักหน่อยคับ จะเอามาลองฝึกตัวที่บ้านดูคับ
ไฟล์แนบ
red1002.jpg
20K
หยกComEn
พฤศจิกายน 2008
เออ ช่ายๆ จะได้เอาไปฟิตลูกสาว ก่อนไป มิตติ้ง ใครรู้ แบไต๋ กันหน่อย คร้าบบบ
weerapong
พฤศจิกายน 2008
หมา อายุเท่าไหร่แล้ว
ไฟล์แนบ
untitled5.JPG
56K
weerapong
พฤศจิกายน 2008
อันดับแรกต้องทำชุดลากก่อน ใช้เชือก หรือเศษผ้าก็ได้ผูกแบบชุดลากเลย
weerapong
พฤศจิกายน 2008
อายุสุนัขกับการออกกำลังกาย
? อายุต่ำกว่า 1 ปี ให้ฝึกคำสั่งเบื้องต้นก่อนเช่น ชิด นั่ง หมอบ คอย { ถ้ามีเวลา } และหรือ ให้ใส่ชุดลากฯ หรือชุดรัดอก ให้เคยชิน แต่อาจจะต้องเปลี่ยนบ่อยเพราะสุนัขจะโตขึ้น
? อายุ 1 ปี ขึ้นไปฝึกให้รู้จักคำสั่งลากฯ และฝึกด้วยน้ำหนักเบาๆ { คือ สุนัขเดินลากแบบสบายๆ ไม่ใช่ออกแรงจนตัวเกร็ง } และระยะทางไม่ควรเกิน 10 เมตร
? อายุ 1.6 ปี ฝึกอย่างจริงจัง แต่น้ำหนักยังไม่เต็มที่ { ลากแบบตัวเกร็ง แต่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ตะกุย แล้วตะกุยอีก ก็ยังไม่ขยับ แบบนี้หนักเกินไปครับ }
? อายุ 2 ปี ขึ้นไป ฝึกได้เต็มที่ครับ
การเตรียมตัวก่อนการฝึก
? เล่นกับสุนัข
เพื่อสร้างความผูกพัน คุ้นเคย และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ระหว่างเจ้าของหรือผู้ฝึก กับสุนัข
? การสัมผัสกับสุนัข
เพื่อแสดงความรักที่มีต่อสุนัข โดยการ โอบ กอด ตบไหล่เบาๆ
? การฝึกเบื้องต้น
คือการฝึก ชิด นั่ง หมอบ คอย ฯ ถ้าสุนัขผ่านการฝึกเหล่านี้มา จะทำให้การฝึกลากฯ ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสุนัขเชื่อฟังเจ้าของ แต่ถ้าไม่เคยฝึกมาก่อน ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยๆ ก็ควรจะเรียกสุนัขมาหาได้ ....ถ้าเรียกแล้วสุนัขเฉย { หมาเมิน } ก็...ต้องบอกว่า คงจะเหนื่อยมากๆๆๆๆในการฝึกสุนัขตัวนี้ลากฯ
การฝึกลากน้ำหนักเบื้องต้น
1.การสร้างความคุ้นเคย
โดยการใส่ชุดลากฯเปล่าๆแล้วจูงเดินเล่น สัก20 30นาที ในช่วงเช้า และเย็น สักประมาณ 2-3 วัน หรือมากกว่า โดยต้องสังเกตุสุนัขว่า ไม่กลัวและเริ่มคุ้นเคยกับชุดลากฯแล้ว2.การทำให้ดู
โดยธรรมชาติของสุนัขแล้ว เค้าจะถือว่าเจ้าของคือจ่าฝูง ดั่งคำกล่าวที่ว่า " เจ้าของมีนิสัยยังงัย สุนัขก็จะมีนิสัยคล้ายกัน " หรือ " อยากรู้ว่าเจ้าของสุนัขมีนิสัยอย่างไร ให้ดูที่สุนัข " นั่นเอง
หลังจากมีอุปกรณ์การฝึกแล้ว { ล้อยาง หรือโซ่ } ให้ผู้ฝึก ลากให้สุนัขดูก่อน สักวันนึง เพื่อสุนัขจะได้รู้ว่า สิ่งที่ผู้ฝึกลากอยู่นี่ไม่มีอันตราย ไม่ใช่อยู่ๆเอามาให้ลากเลย สุนัขจะตกใจได้
3.การเล่นก่อนและหลังการฝึกลากฯ
ก่อนฝึกต้องปล่อยให้สุนัขทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อน และเล่นกับเค้าสักพัก เมื่อฝึกเสร็จแล้วก็เล่นกับเค้าอีกสักหน่อยเพื่อเป็นการให้รางวัล และผ่อนคลาย
weerapong
พฤศจิกายน 2008
4. การเริ่มฝึกลากฯ
เตรียมอุปกรณ์โดยน้ำหนักของอุปกณ์ไม่ควรเกิน25% ของน้ำหนักตัวสุนัข และให้สุนัขใส่ปลอกคอแบบทั่วไป ห้ามใช้สาย choke chene เด็ดขาด ผู้ฝึกอยู่ข้างๆตัวสุนัข มือหนึงจับตรงสายชุดลากฯที่อยู่ด้านหลังของสุนัข อีกมือจับปลอกคอหรือสายจูงในระยะที่พอดี กับมือข้างที่จับชุดลากฯ ออกคำสั่ง พร้อมกับออกแรงดึงทั้ง 2 มือ โดยมือที่จับสายจูงหรือปลอกคอให้ดึงหรือกระตุกเบาๆเท่านั้น พร้อมกับเดินช้าๆถ้าสุนัขเริ่มเดิน ให้ปล่อยมือข้างที่จับชุดลากฯ แต่ให้จับสายจูงไว้เช่นเดิม โดยจับแบบหย่อนๆ ถ้าสุนัขหยุดเดิน ให้กระตุกสายจูงเบาๆ พร้อมกับออกคำสั่งด้วย ถ้ายังไม่เดินอีกให้ใช้มืออีกข้างจับชุดลาก { ที่เดิมตรงด้านหลังสุนัข } ออกแรงดึงพร้อมกับออกคำสั่งไปด้วย โดยใช้ระยะทางสั้นๆ ประมาณ 4-5 เมตรต่อเที่ยว เมื่อลากเสร็จในแต่ละเที่ยวให้ชมสุนัขด้วย
หมายเหตุ
-คำสั่งลากฯต้องเป็นคนละคำสั่งที่เรียกมาหาในชีวิตประจำวัน เช่นการเรียกมาหาในเวลาปกติ ใช้ " มานี่ " แต่คำสั่งลากฯ ต้องเป็น " pull หรือ go " หรืออะไรก็ได้ ที่เป็นคำสั้นๆเพื่อไม่ให้สุนัขสับสนคำสั่ง
- น้ำเสียง ต้องไม่แข็งกระด้าง ไม่กระโชก โฮกฮาก แบบที่ใช้ในการดุ หรือทำโทษ ให้ใช้คนละโทนเสียง
- กริยาท่าทาง ต้องไม่เคร่งเครียด ขึงขัง เพราะลักษณะท่าทางแบบนี้ เราจะทำในขณะที่โมโหเท่านั้น ให้ใช้ท่าทางแบบสนุกสนาน ผ่อนคลาย
- การชมเมื่อสุนัขทำได้ ให้ชมแบบสุดๆ ในลักษณะ over ไปเลย เพื่อสุนัขจะได้รู้ว่า ในสิ่งที่เขาทำไปนั้น เจ้าของพอใจมากๆ
weerapong
พฤศจิกายน 2008
5.จำนวนเที่ยวและเวลาในการฝึก
-ให้ฝึกในเวลาที่ไม่ร้อนมากเช่นเช้า-เย็น เพราะถ้าอากาศร้อนๆสุนัขจะเหนื่อยง่าย และไม่มีสมาธิ
-ส่วนจำนวนเที่ยวให้สังเกตุดูว่าสุนัขเริ่มเหนื่อย เริ่มเดินช้า เริ่มไม่อยากเดินแล้ว ให้หยุดทันที ให้นึกอยู่ตลอดว่า ให้ฝึกเท่าที่สุนัขจะทำได้ ไม่ใช่ให้ได้อย่างใจของผู้ฝึก
6.ความถี่ของวันที่ฝึก
-การฝึกคือการสอนให้ลากฯเป็น โดยการใช้น้ำหนักน้อยๆ ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัน
-การซ้อม คือหลังจากที่ฝึกจนลากฯเป็นแล้ว จึงมาซ้อมโดยใช้น้ำ
weerapong
พฤศจิกายน 2008
.การฟิตซ้อมและการเพิ่มน้ำหนัก
-ในที่นี้จะกล่าวถึงการซ้อมกับล้อยางเท่านั้น ส่วนการซ้อมกับรถลากนั้นจะกล่าวถึงในบทต่อไป
-หลังจากเตรียมอุปกรณ์ คือล้อยางกับขวดทรายแล้ว { รายละเอียดจะกล่าวถึงในบทต่อไป } ให้ชั่งน้ำหนัก แล้วจดไว้เป็นสถิติ
-ในการซ้อมลากฯนั้นให้ใช้แบบขั้นบันได เช่น จะซ้อม 12 เที่ยว โดย ในเที่ยวที่1ยาง 2 เส้น เที่ยวที่2 เพิ่มขวดทราย 1 ขวด เที่ยวที่3 เพิ่มขวดทราย อีก1 ขวดโดยให้เพิ่มทีละขวดไปเรื่อยๆ จนถึงเที่ยวที่6 ซึ่งจะเป็นเที่ยวที่น้ำหนักสูงสุดที่ลากฯได้ ส่วนเที่ยวที่7 ก็ลดลง 1ขวด และลดลงเที่ยวละขวด จนครบ12เที่ยว
-ในการลดน้ำหนักในแต่ละเที่ยว ก็เพื่อให้สุนัขได้เรียนรู้ว่าในการลากฯแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่หนักขึ้นเรื่อยๆเพียงอย่างเดียว บางครั้งก็มีเบาบ้างเช่นกัน
-การเพิ่มขวดทรายทีละขวด { ขวดละประมาณ2.5ก.ก.} นั้นก็เพื่อป้องกันการกระตุก กระชาก เพราะการเพิ่มยางแต่ละเส้น ซึ่งหนักไม่ต่ำกว่า 10 ก.ก. บางครั้งอาจจะเกินลิมิตที่สุนัขจะลากฯได้ แล้วโดยสัญชาตญาณของพิทบูลที่ไม่ยอมแพ้ ก็จะกระตุก ไปจนถึงกระชาก เพื่อจะเอาชนะให้ได้ แล้วก็จะติดนิสัยเหล่านี้ซึ่งแก้ยากมากๆ
-ส่วนของโปรแกรมการฟิตซ้อม ก็แล้วต่เจ้าของจะเป็นคนวางโปรแกรม เช่น ซ้อมวันเว้นวัน หรือ 2 วัน พัก 1วัน เป็นต้น แต่ก็ต้องให้มีวันพักกล้ามเนื้อบ้าง
weerapong
พฤศจิกายน 2008
ดูต่อที่นี่ www.bullvariety.com/how-to-train.html
ใหม่Pitlok
พฤศจิกายน 2008
การเตรียมนักรบ (ลากน้ำหนัก)
นี่เป็นการฟิตสุนัขหรือการออกกําลังกายแบบ Basic ง่ายๆ โดยใช้การเดินเป็นหลัก
อาหารก็จะเป็นอาหารที่คุณสามารถหามาใช้ได้โดยง่าย อยู่รอบตัวคุณ สามารถจัดอาหารได้ด้วยตัวคุณเอง
การออกกําลังใน Keep นี้คุณไม่จำเป็นต้องใช้ จักรยาน , เป้ากัดหรือเครื่องมืออื่น ๆ เลย สิ่งจําเป็นที่คุณต้องมีใช้ในการ Keep ครั้งนี้คือ สายรัดอกที่ดีและแข็งแรง สายจูง ความยาว 3 เมตร และ 15 เมตร สายลากน้ำหนัก และโซ่ไว้สําหรับลาก มีความยาวและน้ำหนักที่สมดุลกับตัวสุนัข และรองเท้าดี ๆ ซักคู่สำหรับคุณ กรุณาจำไว้เลยว่าการ ฟิตไม่เหมาะสําหรับคนขี้เกียจและมันก็ไม่เหมาะสําหรับคนที่มีเวลาให้กับสุนัขวันหนึ่งน้อยกว่า 2 ชั่วโมง หรือคนที่ชอบประหยัดเวลาไว้ดื่ม ให้เวลากับการดื่มมากกว่าเวลาที่ให้กับสุนัข ถ้าคุณยังทําสิ่งเหล่านี้บอกได้เลยว่าคุณแพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว
ผมเข้าใจดีว่าผู้เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่มักคิดว่าสภาพแวดล้อมในการฟิตที่แตกต่างกัน ( อยู่ในเมืองและนอกเมือง ) จะส่งผลที่ต่างกัน แต่ที่จริงแล้วมันไม่สําคัญว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เป้าหมายหลักคือความพยายามของคุณที่จะใส่ความแข็งแรงของปอดและกล้ามเนื้อเพื่อที่จะทําให้สุนัขของคุณและคุณไปสู่ความสําเร็จ ความอดทน การเอาใจใส่กับสุนัขของคุณนั้นสำคัญกว่าสถานที่เสียอีก
โปรแกรมในการฟิตมีทั้งหมด 8 อาทิตย์ , 2 อาทิตย์แรกเป็นการเตรียมตัว
อาทิตย์ที่ 1) จูงสุนัขของคุณเดิน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องเดินเร็วแบบสุดฝีเท้า ให้เดินไปเรื่อย ๆ แต่อย่าให้ช้าจนเกินไปประมาณ 5-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้สายรัดอก คอยตรวจเช็คอุ้งเท้าสุนัขของคุณเป็นประจํา ตรวจดูว่ามีบาดแผลที่เกิดจากเศษแก้วหรือเท้าแตก เพราะอาจจะเกิดจากการเสียดสี พยายามตรวจเช็คตัวล็อกระหว่างสายจูงกับสายรัดอก ใน 1 อาทิตย์ จูงเดินทั้งหมด 6 วัน ถ้าอุ้งเท้าของสุนัขไม่มีปัญหาอะไร วันที่ 7 คุณสามารถจูงเดินสบาย ๆ ได้อีกประมาณ 30 นาที หรือคุณจะจูงเดิน 3 วัน พัก 1 วัน ก็ได้ ใช้เวลานวดตัวสุนัขประมาณวันละ 20 นาทีหลังออกกําลังกาย นวดเบา ๆ ให้สุนัขผ่อนคลาย นั้นเป็นสิ่งที่คุณควรทํา และไม่ควรที่จะทำมากกว่านั้น หลังจากนั้นให้สุนัขได้พักผ่อน นอน อยู่ในที่ ๆ สงบ ไม่มีสุนัขตัวอื่นรบกวนหรือผู้คนมารบกวน ( หลังจากออกกําลังกายทุกวันควรจะให้เขาพักในที่ ๆ สงบ )
อาทิตย์ที่ 2) ทําเหมือนอาทิตย์แรก , แต่เราจะเพิ่มเวลาในการเดินเป็น 1.5 ชั่วโมง ต่อวัน ในการเดินไม่ใช่คุณมุ่งหน้าเอาแต่เดินอย่างเดียวจนลืมที่จะพูดคุยกับสุนัขของคุณ สร้างความสัมพันธ์ ให้เกิดขึ้นระหว่างคุณกับสุนัขของคุณ ปลอบโยนเขาเมื่อเขาเหนื่อย ชมเขาเมื่อเขาทําได้ดี นั้นจะทําให้สุนัขของคุณเกิดความไว้ใจคุณ แต่สําคัญที่สุดนั้นคือ คุณต้องรักมันจากข้างใน นั้นแหละที่จะทําให้คุณกับเขาเป็นทีมเดียวกัน
ใหม่Pitlok
พฤศจิกายน 2008
อาทิตย์ที่ 3) ในวันแรกของอาทิตย์ที่ 3 ให้สุนัขของคุณเดินไม่ต้องเร็วนัก ประมาณ 30 นาที เมื่อถึงสถานที่ ๆ คุณสามารถวิ่งได้ ( ควรเป็นพื้นหญ้า ) ให้ใช้สายจูงเส้นที่ยาว 15 เมตร ให้สุนัขของคุณวิ่งแบบสุดฝีเท้า หรือจะหาบอลให้เขาเล่นก็ได้ ถ้าไม่มีที่กว้างขนาดนั้น ให้คุณวิ่งไปกับสุนัขของคุณแบบสุดฝีเท้า ประมาณ 15 วินาที แล้วผ่อนความเร็วลงเป็นการวิ่งซอยเท้า 30-50 วินาที เดินเร็ว และเบาลงจนกลับมาเป็นการเดินปกติ ทําซ้ำ 2 ครั้ง ถ้าคุณมีที่ ๆ สามารถปล่อยได้ ให้เขาเล่นบอล วิ่งไล่กวดลูกบอล สร้างเกมขึ้นมาให้สุนัขของคุณได้เล่น หรือ จะให้สุนัขของคุณเล่น Flirtpole ก็ได้แต่ต้องอยู่บนพื้นที่นิ่ม เล่นประมาณ 8-15 นาที หลังจากนั้นเวลาที่เหลือ พาไปเดินเล่นจนหายเหนื่อย กลับมาที่บ้าน นวดตัวและให้อาหาร
วันที่ 2--- เมื่อคุณเตรียมสายลากน้ำหนักพร้อมแล้ว จูงหมาของคุณเดินซัก 20 นาที ให้แน่ใจว่าหมาของคุณได้ถ่ายเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นถึงเวลาของการลากนํ้าหนัก ใส่สายลากนํ้าหนักเข้ากับหมาของคุณพร้อมกับโซ่ที่มีนํ้าหนัก 2.5-5 กิโลกรัม (นํ้าหนักของโซ่ขึ้นอยู่กับขนาดของหมาและความแข็งแรงของมัน) และเริ่มจูงสุนัขของคุณเดินไม่ต้องเร็วนัก พยายามเดินรักษาระดับประมาณ 30 นาที หรือประมาณ 2-2.5 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย เมื่อครบตามเวลาที่กำหนด ถึงเวลาที่จะต้องปรดเอาโซ่ออก และอย่าลืมที่จะเดิน 1 ชั่วโมงเพื่อให้หายเหนื่อย นวดตัวสุนัขและให้อาหารหลังจากนั้น 15 นาที
วันที่ 3--- เมื่อถึงเวลาต้องฟิตให้คุณแน่ใจว่าสุนัขของคุณพร้อม มันต้องดูสด ดูพร้อมที่จะทำงาน คุณต้องเตรียมตัวคุณเองให้พร้อมและต้องแน่ใจว่าสุนัขของคุณก็พร้อมเช่นกัน เพราะวันนี้จะเป็นการเดินระยะยาวใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเดินเร็วและใช้เวลาอีก 15 นาทีสําหรับเล่นบอล หรือถ้าคุณไม่มีสถานที่ ๆ สามารถปล่อยสุนัขของคุณให้เล่นบอลได้ คุณสามารถใช้วิธีการวิ่งแทนได้ ใช้เวลา 15 นาทีเช่นกัน
วันที่ 4--- เหมือนกับวันที่ 3 แต่ไม่ต้องเล่นบอล
วันที่ 5--- ทําเหมือนกับวันที่ 2 เล่นบอลซัก 10 นาที
วันที่ 6--- เป็นวันพักผ่อน ไม่ต้องออกกำลัง เพียงให้สุนัขของคุณเดินเล่นซัก 20 นาที วันที่ 7--- กลับไปทําของวันที่ 1 และเริ่มวงจรใหม่ แต่ละอาทิตย์ผมจะเพิ่มการเดิน 1 ชั่วโมง และในการเดินสูงสุดอาจจะต้องเดินถึง 4-5 ชั่วโมง ก็เท่ากับ 24-32 กิโลเมตร อย่าลืมที่จะเดินเล่น 15-30 เพื่อให้หายเหนื่อยหลังจากเดิน และอีก 15 นาทีเล่นบอล
การลากน้ำหนักจะทำเหมือนกันตลอดทุกอาทิตย์ การเดินก็จะเพิ่มจนถึง 4 ชั่วโมง และหลังจากนั้นการเดินจะค่อย ๆ ลดลง จาก 6 วันที่ออกกำลังกาย จะเหลือเพียง 4 บางครั้งอาจสลับกับการจูงสบาย ๆ ให้อาหารสัดส่วนที่สมดุลกับการออกกำลัง และควรตรวจดูอุ้งเท้าอยู่เสมอ ผมเองจะพยายามให้สุนัขฟิต 6 วัน พัก 1 วัน หรือบางครั้งอาจจะ 5 วัน พัก1 วัน
แต่นี้แค่คร่าว ๆ คุณอาจจะให้พักมากกว่านี้ก็ได้ ผมจะคอยสังเกตทุกอย่าง จะสังเกตถึงสภาพอากาศในแต่ละวันว่าเหมาะที่จะให้สุนัขของคุณเดินหรือไม่ ถ้าร้อนจัดคุณอาจจะต้องระวังเป็นอย่างมาก คอยสังเกตท่าทาง และอาการของสุนัข ว่าผิดปกติจากที่ควรเป็นไหม พยายามสังเกตสิ่งผิดปกติทุกอย่าง ถ้าพบสิ่งผิดปกติจากสุนัขของคุณ
อย่างแรกที่ควรทำคือพักทันทีในวันนั้นหรือในวันถัดไป ถ้ารู้สึกว่าผิดปกติอย่างมากให้พักสองวันติดกันไปเลยหรือมากกว่านั้นก็ได้ อย่ากังวลที่จะให้สุนัขของคุณพัก เพราะถ้าคุณฝืนที่จะเดินสุนัขของคุณต่อมันอาจจะทำให้โปรมแกรมทั้งหมดที่คุณทำมาล้มเหลว ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะให้วันพักกับสุนัขของคุณ สุนัขหลายตัวประสบความสำเร็จจากการฟิตบนเครื่องวิ่งไฟฟ้า Dogman หลายคนฟิตสุนัขของเขาบนเครื่องวิ่งไฟฟ้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงและสามารถไปสู่ชัยชนะได้ เครื่องวิ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ดี แต่มันไม่สามารถแทบเคียงการจูงเดินบนถนนได้เลย
ตอนนี้คุณคงจะเข้าใจวิธีการออกกำลังกายในโปรแกรมนี้แล้ว คุณอาจจะเพิ่มเติม การว่ายน้ำ เพิ่มการวิ่งวงเวียน เพิ่มการวิ่งเครื่องวิ่ง หรือเพิ่มการกัดเป้าก็ได้ หรือจะเป็นอะไรก็ได้นอกเหนือจากที่กล่าวมาขอแค่เพียงสามารถทำให้สุนัขของคุณมีปอดที่แข็งแรงขึ้นเป็นอันใช้ได้ แต่ต้องแน่ใจว่ามันจะดีกับสุนัขของคุณจริง การฟิตที่คุณได้อ่านอยู่นี้มีการทดลองใช้มาแล้วสี่ครั้ง 3 ครั้งชนะ 1 ครั้งแพ้ ครั้งที่แพ้ แพ้แบบยอมแพ้ในเวลา 2 ชั่วโมง 3 นาที
หวังว่าการฟิตสูตรนี้ จะช่วยให้มือใหม่หรือใครบางคนได้พัฒนาการฟิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ?.
(เขียนโดย คุณยุทธ DB-K)
roj
พฤศจิกายน 2008
ขอบคุณมากคับ สำหรับวิธีการฝึกและทุกคำแนะนำ
Killer_Machine
พฤศจิกายน 2008
:013: ใหม่คับข้อมูลแน่นดีคับฝึกหมาที่บ้านบ้างรึยัง
ไฟล์แนบ
DSC05075.jpg
93K
mancandy
พฤศจิกายน 2008
:m001:พิโลก จงเจริญ.............55+
ไฟล์แนบ
IMG0375A7.jpg
22K
IMG0365A5.jpg
28K
weerapong
พฤศจิกายน 2008
11เดือน
ไฟล์แนบ
untitled9.JPG
30K
untitled2.JPG
25K
weerapong
พฤศจิกายน 2008
เสริม
ไฟล์แนบ
b71a_2.jpg
6K
fc8a_1.jpg
13K
Add a Comment