ยินดีต้อนรับครับ

ขอแนะนำให้ทุกท่าน สมัครสมาชิก เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อครับ

Mark Mafia

กฎกติกางานลาก 2/11/2556
  • ขอชี้แจง รูปแบบ กฎกติกา นะครับ เพราะกติกาส่วนหลักๆ ก็จะคล้ายๆกันอยู่แล้ว และทางอีสานทีมมีกฎกติกานี้แบบเดิมที่เคยทำกันมา
    1.การเรียกน้ำหนัก และน้ำหนักบังคับ
    การเรียก นน. จะเรียกที่เท่าไหร่ก็ได้ไม่มีการจำกัดว่าจะต้องผ่านกี่รอบ นน.เริ่มต้น อยู่ที่ 500 กก. นน.บังคับที่ตั้งไว้ที่ 500-1000 กก.ท่านจะต้องนำสุนัขลงลากฯที่ นน.500-1000 กก.นี้ และหลังจากที่ท่านนำสุนัขลงลากฯที่ นน.บังคับ 500-10000 กก. นี้ผ่านแล้ว ท่านจะนำสุนัขลงลากฯ อีกที่ นน.ไหนก็ได้ หรือรอลงลากฯที่ นน.2000 ก.ก.เลยก็ได้ ในส่วนของสุนัขตัวใดที่ลงลากฯก่อน นน.บังคับ (1000 กก.) เช่น ลงลากฯที่ นน. 600 กก. หรือ800 กก.แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องลงลากฯ นน.บังคับ (1000 กก.) และจะลงลากฯอีกครั้งที่ นน.ใด ก็ได้
    2.การเรียกน้ำหนักที่จะลากฯ
    ในการเรียก นน.ที่จะลากมีขั้นตอนดังนี้ สมมุติว่าท่านจะเรียก นน.ที่ 1200 ก.ก. ท่านจะต้องเรียกก่อนที่กรรมการจะโหลด นน.ที่1200 กก.เสร็จ และโฆษก สนามจะประกาศ รายชื่อนักกีฬาที่จะลากต่อไป หลังจากที่กรรมการโหลด นน.เสร็จ โฆษกก็จะประกาศรายชื่อนักกีฬา หลังจากนี้ ทุกท่านไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงรายชื่อใดๆทั้งสิ้น
    3.ปลอกคอที่ใช้
    (เมื่อสุนัขอยู่บนรางลาก)ให้ใช้ได้เฉพาะปลอกคอเท่านั้น (หรือปลอกคอสำหรับพิทบูลฯทั่วไป)ไม่อนุญาตให้ใช้ สิ่งอื่นใดนอกจากนี้ สายโช้ค โซ่เหล็ก เชือกโช้คเส้นเล็กๆ เป็นต้น
    4.การสตาร์ด
    หลังจากที่สุนัขเตรียมพร้อมที่จะลากฯแล้วให้แฮนเลอด์ปล่อยมือออกจากตัวสุนัขแล้วให้บอกกรรมการว่า "พร้อม" ในระหว่างนี้ ห้ามกระทำการใดๆ ที่ส่อไปในทางกระตุ้นสุนัขก่อนเป็นอันขาด อาทิเช่น กระตุก หรือกระชากปลอกคอ หรือส่งเสียงกระตุ้น เมื่อกรรมการพิจารณาว่า พร้อมแล้วก็จะบอกว่า "เริ่มได้" ตอนนั้นแฮนเลอด์ จึงจะกระตุ้นสุนัขได้ตามปกติ และในระหว่างกำลังลากฯอยู่นั้น "ห้าม" ไม่ให้มีการสัมผัสตัวสุนัข เป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการ "ฟาล์ว" ในรอบนั้นๆ *ในกรณีที่สุนัขออกตัวเร็วหรือตัวที่พร้อมลากหรือลากทันที(จี้ดๆ)เมื่อขึ้นรางให้แฮนด์เลอร์เป็นคนส่งสัญญาณให้กรรมการทราบ
    5.ในกรณีที่สุนัขออกนอกรางลากฯ
    ในกรณีนี้จะไม่มีการหยุดเวลา ไม่ถือว่าเป็นการ "ฟาล์ว" แฮนเลอด์จะต้องเรียกต่อไป หรือสุนัขเดินวนชุดลากพันขา ให้เป็นดุลพินิจของกรรมการ ว่าจะหยุดเวลาหรือไม่
    6.จุดรอลากฯ
    เพื่อความรวดเร็วทางสนามจะมี "จุดรอลากฯ" ที่บริเวณด้านหลังรถลากฯนักกีฬาจะต้องเช็ครายชื่อของตัวเอง และเมื่อถึงคิวที่จะลากต่อไป ให้นำสุนัขมารอที่ "จุดรอลากฯ" เพื่อที่จะลากฯได้โดยไม่ชักช้า
    7.อนุญาตให้มีแฮนด์เลอร์คนเดียวเท่านั้น
    (เมื่อสุนัขอยู่บนรางลาก)ให้มีคนเรียกหรือจูงสุนัข เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้มีผู้ช่วย
    8.ให้สุนัขลงลากตามคิวที่กำหนด
    เช่นสุนัขตัวเล็กกว่า นน.น้อยกว่า ต้องลากก่อนตัวใหญ่กว่า ในรอบ นน.นั้นๆในแต่ละรอบ
    9.รอบแก้ตัว
    ให้สุนัขที่รอแก้ตัวหรือลากไม่ผ่าน รอลากเป็นตัวสุดท้ายของรอบ นน.นั้นๆตาม นน.สุนัข ถ้ามีสุนัขแก้ตัวในรอบนั้น 3 ตัว ก็ให้ตัวที่ นน.น้อยที่สุดแก้ตัวก่อน(เรียงคาม นน.น้อยไปหามาก)

    ทั้งหมดนี้เป็นกฎ กติกา ที่ทางอีสานทีม ถือปฎิบัติมาตลอด หากสิงห์นักลากฯ ท่านใดมีข้อสงสัย หรืออยากจะให้ฝากบอกหรืสิ่งอื่นใดที่เห็นว่าสมควรหรือเหมาะสมก็สอบถามและแจ้งมาได้ครับ ที่ พี่คาวบอยและท่านประธานหนุ่ม จะเป็นผู้อธิบายให้คำตอบครับ หรือคำถามใด ที่ทางทีมงานอีสานทีม ตอบได้เลยจะช่วยกันตอบให้ครับ

  • เพิ่มเติมนิดหน่อยคับการเพิ่ม นน.ลากครั้งละ 100 กก.และข้ามได้ทุก นน.(ถ้าลาก นน.บังคับเสร็จแล้ว) เช่นเราแจ้งลากที่ นน.1200 กก.พอหมาลาก1100 กก.เสร็จ เราแจ้งกรรมการขอข้ามไป ไม่ขอลาก นน.1200 กก.ขอไปลากที่ 1300 กก.หรือลากที่ 1400 กก.ก็ได้คับ
    ชั่ง นน.หมาก่อนแข่ง เริ่มเวลา 07.30 น.-10.00 น.เริ่มแข่งเวลา 10.09 นาทีคับ จนกว่าจะแข่งเสร็จ
    แข่งเสร็จมีงานเลี้ยงที่รีสอร์ทคับ ลายละเอียดรีสอร์ทจะแจ้งอีกทีคับ
  • โสลปอัพกี่เซนต์ครับ
  • ขอแสดงความเห็นสักสองสามประเด็นนะครับ

    ดูจากกติกาแล้ว ถ้ามีหมาเยอะไม่น่าจะจบทันหนึ่งทุ่มแน่นอนครับ ถ้าการแข่งจบสามสี่ทุ่มเหมือนที่เมืองทอง งานเลี้ยงก็คงเริ่มดึกตามไปด้วย และถ้างานเลี้ยงเริ่มดึกไป เกรงว่าคนที่เหนื่อยมาทั้งวันอาจจะอยู่ไม่ไหว จริงๆแล้วผมตั้งใจไปสังสรรค์ไปพบปะกับเพื่อนฝูงมากกว่าที่จะไปแข่งหมาเพื่อจะกอบโกยถ้วยกลับมาให้มากที่สุดครับ (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆนะครับ) ผมจำวันที่ไปแข่งที่บ้านคุณเคสได้เลย ขนาดหมาไม่กี่ตัวแต่ปล่อยให้ลากกันตามสบาย กว่าจะจบได้ยังเล่นเอามืดเลย ช่วงงานเลี้ยงจึงกร่อยไปพอสมควร

    อีกหนึ่งจุดที่ค่อนข้างหงุดหงิดทุกครั้งก็คือเรื่อง โซ่กระตุก เพราะมันเหมือนกับว่างานนี้ตั้งกติกามาเพื่อต่อต้านคนใช่โซ่กระตุกโดยเฉพาะ อย่าลืมว่าความถนัดคนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนชอบปลอกคอ บางคนชอบโซ่กระตุก บางคนก็ใส่โซ่เส้นใหญ่เพื่อความสวยงามอะไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าน่าจะปล่อยเสรีครับ แต่ถ้าไม่ให้ใช้ โซ่กระตุก ก็ควรห้ามอุปกรณ์ทุกชนิดรวมทั้งปลอกคอด้วย คือ สวมชุดลากแล้วขึ้นรางไปเลย ไม่ต้องเสียเวลา ถอดๆใส่ๆไปด้วย

    ยอมรับว่า ทีมยังเติร์กและคนที่มาฟิตซ้อมทีดีวัน จะถนัดการใช้โซ่กระตุ๊ก และเวลาแข่งจะชอบข้ามน้ำหนักครั้งละเยอะๆ แต่จะอาศัยการวอร์มบนรางก่อนทำการลากทุกครั้ง โดยให้ผู้ช่วยเป็นคนช่วยรั้งสายลากแทนการถ่วงน้ำหนัก แต่หากงานนี้ไม่มีผู้ช่วยวิธีการนี้ก็ทำไม่ได้ ดังนั้น เมื่อขึ้นรางแล้วก็ต้องลากเลย

    เราคุยเรื่องโซ่กระตุ๊กมาหลายครั้งแล้ว จนเริ่มรู้สึกเหมือนกับว่า ต่อไปใครจะลงแข่งลากต้องเลิกใช้โซ่กระตุกและเปลี่ยนไปใช้ปลอกคอในการแข่งจะได้ไม่ต้องหงุดหงิดกับกฏข้อนี้อีกต่อไป และต้องเลิกวอร์มบนรางด้วย การลงแข่งจะไม่มีสิทธิทำอะไรตามความถนัดของตนเองอีกแล้ว ทั้งที่หัวใจสำคัญของการแข่งขัน คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้สุนัขลากน้ำหนักได้มากที่สุด ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของใครของมัน โดยไม่มีการทำร้ายทุบตีหรือกระทำการใดๆให้สุนัขได้รับอันตราย จนคนมองได้ว่าเรากำลังทรมานสัตว์ ดังนั้น ระหว่างการกระตุกโซ่แต่ลงลากเพียงไม่กี่ครั้งตลอดการแข่งขัน กับ สุนัขต้องลงลากตั้งแต่เช้าจนเย็น ก็ไม่รู้ว่า แบบไหนที่ทารุณกรรมกว่ากัน ขอฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ

  • การตั้งกติกา หากมีข้อจำกัดเยอะและหยุมหยิมเกินไป นอกจากการแข่งไม่สนุกแล้วยังทำให้คนไปร่วมงานรู้สึกหงุดหงิดใจโดยไม่จำเป็น ผมเชื่อว่า ทุกคนไปร่วมงานต้องการบรรยากาศการแข่งขันที่สบายๆ ดังนั้นคนที่โดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ฝืนกับความรู้สึก ก็คงไม่มีใครแฮปปี้แน่ๆครับ

    ผมขอเสนอว่า ขณะทำการแข่งขันเรามีเวลาให้หนึ่งนาที ใครจะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้สุนัขลากได้มากที่สุด ตราบใดที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับสุนัข จะสวดมนต์อ้อนวอนขอพรจากพระเจ้า จะกอดจะหอม จะกราบจะไหว้ จะกระตุกโซ่เบาๆก่อนการออกตัว อันนี้มันเป็นเพียงเทคนิคเฉพาะตัวที่เป็นเสน่ห์ของการแข่งขัน แต่ห้าม ตบ ตี กระชากโซ่ ลาก ดึง หรือ ทุกการกระทำทีส่อให้เห็นว่าเป็นการทำร้ายสุนัขมากกว่าครับ ^:)^

    หมายเหตุ การแสดงความเห็นนี้ ไม่เกี่ยวกับใคร และก็ไม่ได้พูดแทนใคร แต่พูดจากประสบการณ์ เพราะอยากให้ทุกคนที่มาร่วมงานสนุก แต่ขอยืนยันว่า ไม่ว่ากติกาจะเป็นอย่างไร ผมก็เฉยๆ เพราะที่นำกรามล๊อคไปลงแข่ง ก็ไม่เคยหวังว่าจะต้องได้รางวัลอะไรกับมา ต้องการเพียงแค่ได้มีส่วนร่วมกับงาน และได้ไปเจอเพื่อนฝูง ไปสนุกสนาน ไปสังสรรค์ เพื่อมิตรภาพเท่านั้นครับ :033:
  • ขอเพิ่มบางส่วนนะครับ (PIT_sanu)สนามนี้ สโลปอัฟ 5 เซนติเมตรขาดตัว ครับ
  • เรียน คณะกรรมการดำเนินงาน แข่งขัน นะครับ รายละเีอียด ยังขาด สถานที่นะครับ ช่วยพิจารณาหน่อย หรือว่ายังไม่ได้ข้อยุติ เกี่ยวกับ สถานที่ ครับ
  • image
    ไฟล์แนบ
    IMG_20130825_120727.jpg 144K
  • พี่อาทูล ตกลงสนามนี้ใช้สโลป 5 เซนต์ใช่ไหมครับ
  • ชี้แจงอีกครั้งคับ นน.บังคับตั้งแต่ 500-1000 กก. ใครที่ลาก นน.บังคับแล้ว นน.ใดก็ตาม ตั้งแต่ 500-1000 กก.แล้ว ก็ไม่ต้องลงลากอีก ใน นน.บังคับนี้ เช่นถ้าลง 600 กก.แล้ว ก็ไม่ต้องลง 1000 กก.อีกก็ได้ จะไปลงที่ 1200 กก.เลยก็ได้คับ
    สถานที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็คหลังมหาลัยราชภัฎสารคามคับ
    ความเห็นพี่มาร์คเรื่องโซ่กระตุก ผมขอให้พี่คาวบอยเป็นคนตอบหรือนำพิจารณาคับ ส่วนสโลป 5 เซนนะคับ
  • รับทราบครับ :063:
  • สโลป 5 เซนอืมหืม!!! ถ้าทายจริงๆ. ไหนๆก็ไหนๆ จะทำให้ดีกว่าเก่า เกิดมาลากมันแล้ว เจอแบบไหน มันก็ต้องลาก :o028:
    ขอบคุณ ทีมงานที่ชี้แจงให้ทราบครับ :X
  • ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับโซ่กระตุกนิดนึงนะครับ ผมว่าหมาที่มาจากศูนย์ฝึกดีวันเก่งทุกตัวแล้วครับ ถึงแม้จะมีกฏห้ามใช้โซ่กระตุกผมว่าหมาเหล่านั้นก็ลากได้ดีเหมือนเดิมแหละครับอย่างเจ้าดุ๊กหรือบรูตัสเนี่ย จะใช้โซ่กระตุกหรือไม่ มันก็ลากเก่งเหมือนเดิมแหละครับ ขออนุญาตออกความเห็นนิดนึงนะครับ
  • ที่แย้งเรื่องโซ่กระตุ๊ก ก็เพราะว่า มีงานหนึ่ง ที่ถอดโซ่ออกก็ทำมาแล้ว พยายามโชว์ให้เห็นว่า ที่ใส่โซ่เพราะมันควบคุมสุนัขได้ง่าย ไม่ได้ตั้งใจใส่โซ่มาเพื่อจะเล่นตุกติกเลยสักนิด แต่มันคืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยจริงๆ การแพ้ชนะในการแข่งนั้นมันไม่ได้เพราะโซ่กระตุกเลย มันอยุ่ที่เตรียมตัวมาดีพอหรือเปล่า แต่พอเห็นเขียนกติกามาแบบนี้เลยรู้สึกว่ามันหยุมหยิมโดยไม่จำเป็นครับ

    และจะว่าไปแล้ว ตอนแข่งจริงๆ ก็ไม่ค่อยจะทำตามกติกาสักเท่าไร ส่วนมากเอาตามถนัดกันแทบทั้งนั้น ผมจึงไม่เห็นความจำเป็นของการตั้งกติกาที่หยุมหยิมแบบนี้ครับ

    ยืนยันว่าแสดงความเห็นด้วยเจตนาดี อยากเห็นการแข่งในบรรยาก่าศสบายๆ มากกว่าแข่งกันแบบเครียดๆครับ แต่ไม่ว่ากติกาจะเป็นแบบไหน ผมก็ไม่มีปัญหาครับ เผลอๆสนามนี้ขอลงที่ตันห้าเลย มั่นใจว่าลางเอียงห้าเซนต์เคยซ้อมได้เท่านี้ แต่ถ้าไม่ผ่านก็ยอมรอบเดียวจบ แต่จะมารอคิวทั้งวันคงไม่ไหว มันนานเกินไป ผมจะเอาเวลาที่เหลือไปเดินโม้ดื่มเบียร์กับเพื่อนๆดีกว่า 55
  • ไม่ได้นะพี่มาร์ค ต้องลากน้ำหนักบังคับ 500-1000 น้ำหนักใดน้ำหนักหนึ่งก่อน 55555 เพราะงั้นลง 500 ก่อนแล้วไปนอนซะ อิอิ
  • ก็พี่มั่นใจว่าหมาพี่ลากได้ตันห้า แล้วจะมาบังคับลงที่ 500 หรือ 1,000 เพื่ออะไร ? :-D
  • ก็กฏเขาว่าไว้อย่างนั้นครับ
  • โปรดอย่าแปลเจตนาว่าตีรวนนะท่าน พี่เพียงแค่อยากแสดงความเห็นเพื่อเพิ่มมุมมองให้มันหลากหลาย จะได้ตกผลึกเป็นแนวทางที่ทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้เท่านั้นเองครับ

    การแข่งขันทุกประเภท การตั้งกฏ กติกา นั้นแท้จริงแล้วมีเป้าหมายเพื่อ ให้การแข่งขัน สนุก สนาน กระชับ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และต้องปลอดภัย แต่ถ้ากฏกติกาข้อใดที่ตั้งขึ้นมาแล้วไม่สนับสนุนเป้าหมายข้างต้น ก็ควรตัดออกน่าจะดีกว่า กติกาจะได้กระชับ เข้าใจง่าย และกลายมาเป็นมาตรฐานในที่สุดครับ ^:)^
  • เห็นด้วยกับพี่มาร์คนะครับ ถ้ามั่นใจ ลงตอนไหนก็ได้ น่าจะกระชับเวลากว่า
  • กฎกติกาทางอีสานทีมเป็นผู้รวบรวมและตั้งกันมาแต่เดิมแล้วคับ ตั้งแต่ผมยังไม่เลี้ยงหมาลาก ตอนนี้ถ้าจะให้แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง ผมจะไม่พูดตรงนี้ เพราะผมไม่ได้ตั้งกฎเอง ให้พี่คาวบอยหรือท่านประธานหนุ่มเป็นคนพิจารณาเอาดีกว่าคับ
  • ครับ เรื่องกติกา ท้ายสุดก็คงแล้วแต่เจ้าภาพว่าอย่างไรก็ต้องใช้กันตามนั้นครับ
    เพียงแต่อ่านแล้วรู้สึกว่าตรงไหนไม่เห็นด้วย ก็ท้วงติงพร้อมกับมีข้อเสนอแนะเข้าไป
    ถ้าเจ้าภาพเห็นด้วยก็แก้ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่จำเป็นต้องแก้ ผมเคารพสิทธิของเจ้าภาพครับ :-D
  • 1.ขอสรุปสั้นๆ เรื่องน้ำหนัก "บังคับ" นะครับ เท่าที่ตกลงกันไว้และที่คุณอุทัย ชี้แจงมานั้น สนามนี้คือ 500 กก.- 1,000 กก. ขยายความ ยกตัวอย่าง เจ็ทโด้ จะต้องลงลากในน้ำหนักหนึ่งน้ำหนักใด ก็ได้ที่อยู่ระหว่าง 500-1000 กก.จะลงที่ 700 กก. แล้วไปรอลากที่ 2,500 กก.เลยก็ได้ กรามล๊อก จะลงที่น้ำหนัก 500 กก.แล้วไปรอที่น้ำหนัก 1,300(มากไป) เลยก็ได้ หรือ บารอน ลงลาำำกที่ 1,000 กก.แล้วไปรอที่น้ำหนัก 2,300 กก
    เลยก็ได้ หรือ ชบาแก้ว จะลงแต่ 500 -600-700-800-900 แล้วไปรอลง 1,700 กก.ก็ได้ กล่าวคือ น้ำหนัก จบที่ 1,000 กก.นี้ ทุกตัวจะต้องเข้าสัมพัสราง ไม่น้ำหนักใด น้ำหนักหนึ่งแล้วแต่ความพอใจ เป็นการเช็กนักกีฬาไปในตัว สำหรับหมาใหญ่ อาจจะลงที่ น้ำหนัก 1,000 กก. ก็เป็นการโชว์ตัวหน่อย แล้วจะไปรอลากที่น้ำหนัก 1,700 หรือ 1,800 หรือ 1,900 หรือ 2,500 กก. เลยก็ได้ ครับ
    2.เรื่องโซ่กระตุ๊ก พูดแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องตีความเย่อะ ทุกคนคงเข้าใจ เมื่อใส่ลงไปเข้าสนาม " สนามอิสาน" เมื่อสั่งหมาเดิน ห้ามไปจับที่โซ่ แล้วกระตุ๊กลงเป็นการส่งสัญญาณให้หมาเดิน คือจับโซ่แล้วกระตุ๊กตึ๊ก ลงมาใต้คางหมา กริยาอย่างนี้ มีท่านใดไม่เข้าใจบ้างครับ จะให้คนทำคลีปเป็นทำให้ดู
    3.เรื่อง ก่อนลากแต่ละรอบ ไม่ต้องให้ผู้ช่วยเเฮนด์เล่อไปช่วยดึงหน่วงน้ำหนัก แล้วแฮนด์เลอร์เรียกหมาบนราง จะวอร์ม จะซ้อมอย่างนี้ อยู่ส่วนในในสนามไม่ว่า แต่บนราง ไม่อนุญาติครับ กริยาอย่างนี้มีท่านใดไม่เข้าใจบ้างครับ
    4.ขอขอบคุณพี่น้องชาวสิงห์ นักลาก ทั่วสารทิศนะครับ ทุกอย่างคือสปริต สิงห์นักลากย่อมรับได้ทุกสภาวะการณ์
  • แข่งลากหลังมหาลัยเรานี่หว่า ไปเบิ่งๆ เป็นตามันส์แถ้น้อimage
    ไฟล์แนบ
    1170724_505240046235323_251731274_n.jpg 202K
  • รับทราบและยินดีปฏิบัติครับ :-D

    สำหรับผมตอนนี้กระจ่างแล้วทุกข้อครับ แต่ท้ายสุดขอฝากเรื่องรางอีกเพียงเรื่องเดียวครับ ตอนตั้งรางขอความแน่นอนเรื่องความลาดชันและต้องได้ระดับไม่แอ่นไม่ทรุดนะครับ เพราะผมจะแสดงให้เห็นว่าสิ่งสำคัญก่อนการแข่งขัน คือการเตรียมตัว โดยผมจะบอกน้ำหนักที่จะลงลากให้ทราบก่อนเลย ก่อนทำการลากผมจะถอดโซ่กระตุกออก แล้วเรามาดูกันนะครับว่า โซ่กระตุกมันไม่ใช่สาระเลยสักนิด และผมจะลงลากทั้งหมดเพียง 5 ครั้ง

    ลากครั้งแรก คือ น้ำหนักบังคับ
    ลากครั้งที่สองคือ น้ำหนักที่ผ่านแน่ๆ
    ลากครั้งที่สามคือ สถิติที่ดีที่สุดทำได้ตอนซ้อม
    ถ้าไม่ผ่านคือ จบ การแข่งขันที่จุดนี้ แต่ถ้าผ่านจะลงลากต่อไป แต่เพียงอีกเพียงสองครั้ง
    ลากครั้งที่สี่ เพิ่มน้ำหนักไปอีก 100 กก (ถ้าผ่านลากต่อ)
    ลากครั้งที่ห้า เพิ่มอีกหนึ่งร้อย (แต่ผมมั่นใจว่าไม่ผ่าน 55 )

    หมายเหตุ สนามนี้อาจจะเป็นสนามสุดท้ายที่ผมจะส่งกรามล๊อคเข้าร่วมการแข่งแล้วครับ เหตุผลคือผมเริ่มอิ่มตัว และไม่อยากถอยหลังไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยอาจจะไปลองเล่นสายกัดตูบ้าง แต่ก็ยังยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมลากน้ำหนักเหมือนเช่นเคยและจะเดินทางไปร่วมงานลากทุกครั้ง แต่ขอไปในฐานะคนดูและเพื่อสังสรรค์เพียงอย่างเดียวนะครับ :033:

    ขอบคุณครับ :036:
  • กรามเทพ....จะแขวนชุดลาก โอ้บร๊ะเจ้า..... :o014:
  • เป็นกำลังใจให้อาจารย์...คับ :039: :062: :039:
  • "ทุกอย่างคือสปิริต...สิงห์นักลากย่อมรับได้ทุกสภาวะการณ์" โคตรชอบ โคตรคม โคตรโดน วะพี่ทูล จุ๊บ จุ๊บๆๆๆ :m44:
  • หันมาเล่นแนวนี้แล้วหราครับปิ๊งปั่งเลยimageimageimage
    ไฟล์แนบ
    1002877_498971660195495_1062856960_n.jpg 96K
    1185136_498970420195619_529350425_n.jpg 44K
    1174623_498970796862248_2068954028_n.jpg 54K
  • คิดเหมือนกันครับพี่มาร์ค อยากสัมพัส พวกไม่เกิน 20 โล แต่ใจ ล้านเปอร์เซนต์ สักครั้งในชีวิตครับ ไม่แน่อาจจะเห็นเทพๆๆเมืองกรุง ปะทะเทพๆๆทางอุดร ที่พิืกัดน้ำหนัก ไม่เกิน 20 โล 555555555
  • แบบนี้น่าจะเข้าใจมากขึ้นคับฮ่าๆๆๆ
    สำหรับความเห็นผมนะคับ ใครจะใส่โซ่หรือไม่ใส่ ผมไม่สนอยู่แล้ว ผมมองว่าถ้าอยู่ในรุ่นหมาผม ผมไม่กลัวเลยคับ เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า หมาลากนั้น ท่าลากที่ถูกต้องนั้นเป็นยังไง ใครทำถูกหรือทำผิด แล้วสิ่งที่เราทำนั้น เราก็ไม่รู้หรอกว่า ที่เราทำนั้นมันถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์จริงมั้ยคับ (ผมหมายถึงการใช้สายโช้คกับไม่ใช้สายโชค)
    สำหรับคนดูเขาเห็นแต่หมาตัวนี้ ลากดี ลากสวย ตัวนี้ท่าสวย ตัวนี้ลากเก่ง ตัวนี้ได้ที่ 1-2-3 อย่างอื่นเขาไม่รู้หรอกคับ มีบางคนเท่านั้นที่เขาสังเกตุว่า เจ้าของหมาสั่งหมาลาก ทำไม่เหมือนกัน......................... แค่นั้น

    และนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจผมที่อยากพูดแบบเป๊ะๆฮ่าๆๆๆ
  • ล่ะจะตั้ง กฎ หลังเขามาทำอะไรอีกล่ะครับ ......เดิน ไปข้างหน้านะครับ ไม่ใช่เดินถอยหลัง สังคมหมาลากมันกว้างขึ้นจะตั้งกฎอะไรก็ให้มัน ง่ายๆ กลางๆ หน่อยก็แล้วกันนะครับ ไม่ใช่ตั้งกฎเพื่อเข้าข้างหมา..... :-W
  • ผมดีใจที่สามารถเดินมาได้ไกลขนาดนี้ครับ ยอมรับว่าเคยเหนื่อย เคยท้อ จนคิดจะหยุดก็หลายครั้ง และหลายครั้งก็มีความสุขจนทิ้งมันไปไม่ลง แต่เมื่อถึงจุด จุดหนึ่ง ที่ผมคิดว่าคนฝืนไม่ไหว จึงคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ผมควรจะต้องปล่อยมือให้คนรุ่นหลังๆเขาได้สานต่อบ้าง :002:

    นิสัยผมชอบเดินไปข้างหน้า ถ้าทำก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ไม่ชอบหยุดอยู่กับที่ และยิ่งให้เดินถอยหลังยิ่งฝืนกับความรู้สึกอย่างที่สุด ถึงแม้วันนี้พวกเราจะเดินมาไกลแล้ว แต่ก็ยังไปไม่ถึงจุดที่ผมได้ฝันไว้ เพราหลายท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังจะทำ และก็มีคนดึงให้ถอยหลังไปยังจุดเริ่มต้น รู้สึกเสียใจอยู่นิดหน่อย เพราะกว่าจะรวมตัวกันได้ขนาดนี้มันเหนื่อยยากแสนสาหัส แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่าผมล้มเหลวก็คือ ผมไม่สามารถทำให้ทุกคนก้าวข้ามเส้น ของการแข่งเพียงเพื่อเอาชนะเพียงอย่างเดียว ไปเป็นการแข่งเพื่อเชื่อมมิตรภาพกันได้เสียที แค่เรื่องโซ่กระตุก ซึ่งผมก้ได้พิสูจน์ไปหลายสนามแล้วว่า มันไม่ได้ทรมานหมา แต่ก็ทุกครั้งที่จะมีการแข่งก็เอากลับมาเป็นประเด็นได้ตลอด มันเหมือนกับคนชอบกินไวน์ แต่ก็ยังไปบังคับให้เขากินเบียร์ ยังไงก็ไม่รู้ .. เหนื่อย !!

    การจัดงานแต่ละครั้ง กว่าจะเริ่มต้น กว่าจะเตรียมงาน มันทีเรื่องให้ทำเยอะมาก และผมยังเหนื่อยกับการแข่งขันที่ต้องมาเริ่มกันตั้งแต่เช้าและกว่าจะจบก็เล่นไปถึงสามสี่ทุ่ม อย่าว่าแต่หมาเลย ขนาดคนนั่งรอชมอย่างเดียวยังทนกันแทบไม่ไหว ดังนั้นผมจังพยายามทุกวิธีทางที่จะย่นระยะเวลาให้การแข่งขันเหลือเพียงสี่ห้าชั่วโมงก็พอ แข่งจบก็ให้ทุกท่านได้มีเวลาสังสรรค์กันอย่างเต็มที่ และผมก็อยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ได้มีโอกาสมาสนุกร่วมกันโดยไม่มีการแบงอยก จะหมาเล็กหมาใหญ่ จะบูลลี่บูลแหลม ก็ได้สิทธิเท่าเทียมกัน แต่ผมก็ทำมันไม่สำเร็จ วันนี้กติกาของเราย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกแล้ว

    ผมจึงคิดว่าผมควรจะหยุดพาหาลงแข่งลาก และลองไปเล่นหมาสายกัดแบบแท้ๆดุสักตัว และอาจจะหากิจกรรมอื่นที่เหมาะสมกับหมาแบบนี้ทำดูบ้าง ผมหวังว่ามันอาจจะช่วยจุดพลังไฟให้ผมรู้สึกสนุกกับ การครอบครอง อเมริกัน พิตบูลต่อไป

    ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ได้ร่วมฝ่าฝันมาด้วยกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมจะไม่มีวันลืมทุกท่านอย่างแน่นอนครับ :-D
  • จากสายตาของผู้ชม ผู้ดู (อนาคตจะเป็นผู้ร่วมแข่งให้ได้) โซ่กระตุกเส้นเล็กๆ ต่างสนามต่างความชันของราง ผมขอภาวนาว่าอย่าให้มันเป็นวงจรแห่งความขัดแย้งเกิดขึ้นเลย จากการแข่งเพื่อผูกมิตรกลายมาเป็นตัดมิตร หรืออาจจะแค่กินแหนงแคลงใจกัน(ก็ไม่อยากให้มีครับ) ซึ่งผู้ชมอย่างผมมองว่าปีสองปีที่ผ่านมาทุกอย่างกำลังไปด้วยดี แต่เมื่อไหร่ล่ะครับ จุดลงตัวจะมีซักที หากว่าเรื่องนี้เป็นวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเซต ยูนิเวิร์สของพวกเราคือกลุ่มผู้รักอเมริกันพิทบูล ซึ่งประกอบไปด้วยหลายเซต เซตสายโชว์ เซตสายกิจกรรม เซตสายกัด หรือเซตอีสาน เซตภาคกลาง เซตภาคเหนือ เซตภาคใต้ ซึ่งแต่ละเซตเราสามารถมายูเนี่ยนกันได้(ร่วมมือด้วยกันทุกฝ่าย)ด้วยการทำกิจกรรมลากน้ำหนักที่ควรจะมีกติกาเดียวกันไม่ใช่หรือครับ ถ้าหากว่าแต่ละที่กติกาต่างกัน ผมว่าไม่นานหรอกครับคงต้องคอมพลีเมนท์(แยกทาง)กัน หรือไม่ก็อาจจะมีแค่เซตสองเซตมาอินเตอร์เซคชัน(ร่วมมือ)กัน แต่บางเซตอาจหายไป บอกตรงๆ คือ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ครับ ถอยหลังดูคนละก้าวดีไหมครับ แล้วหันมามองข้อดี-ข้อเสียเพื่อนำมาปรับแก้ สโลปอัพ 3 cm หมาของพวกเรามันลากได้มันส์ ได้เร้าใจขึ้นไม่ใช่เหรอครับ ในสายตาของผู้ชมอย่างผมชอบแบบนี้มากกว่าครับ โซ่กระตุกมันก็แค่ตัวบอกสัญญาณกับหมาว่าจะเริ่มแล้วนะ อีกฝ่ายที่ไม่ใช้โซ่กระตุกก็ไม่เห็นจะต้องไปกลัวอะไรให้มากมาย ดีซะอีกถ้าหมาเราชนะพวกที่เค้าฝึกหมาแบบนี้มันส์กว่าเยอะ ในสายตาของผู้ชมอย่างผมจะเชียร์แฮนเลอร์และหมาที่ไม่ใช้โซ่กระตุกมากกว่าครับ

    ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวไป ผมอยากเห็นกลุ่มผู้รักในอเมริกันพิทบูลหรือบูลลี่ หรือหมาลากพันธุ์อื่น ทำหรือปรึกษาหารือกันซักทีครับกับการแข่งขันที่อยู่ภายใต้กฏกติกาเดียวกันสำหรับกีฬาสุนัขลากน้ำหนักของประเทศเรา

    ด้วยความเคารพจากผู้ชมคนหนึ่งครับ
  • ผมเป็นผู้น้อยแต่ชอบเล่นหมาลาก ผมยังรู้สึก งง กับกฎ กติกา เพราะมันไม่เคยยุนิ่ง ชักสนาม แต่ผมอยากจะพูดเลย ณ ตอนนี้ ที่ผม นำหมาลงแข่ง ผมรู้ว่าทุกคนหวังกะผลงานที่ตัวเองลงทุนลงแรง ในการฝึกซ้อม แต่ผลการแข่งขันจะออกมายังไง ผลสุดท้ายก็คือเพื่อนกัน และมิตรภาพ ที่มันหาซื้อไม่ได้ รางวัลที่ได้มาคือสิ่งพลอยได้ จากที่เราที่ทุ่มเทในการฟิตหมาลงแข่ง ใครทำดี มาดีก็ได้ไป แต่สุดท้ายเราก็เพื่ิอนกัน วงการหมาลาก
  • aoJVOJ ชัดเจน จากใจผู้ชมรอบสนามเลยครับ ผมว่าผู้ชมหลายๆคนก็คงคิดแบบเดียวกันนี้ เห็นด้วยกับพี่มาร์ค เรื่อง การแข่งขันที่มุ่งเอาชนะกันอย่างเดียวไปเป็นการแข่งขันเพื่อเชื่อมมิตรภาพ อันนี้สำคัญครับ และส่วนตัวมองว่าสโลบ 3 ซ.ม. หมาลากได้มันและเร้าใจ จริงๆครับ
    เชียร์กันมันลืมเวลากันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องโซ่กะตุกผมเห็นด้วยกับคุณ aoJVOJ นะ ว่ามันเป็นเพียงแค่ตัวบอกสัญญาณกับหมาว่าจะเริ่มแล้วนะแค่นั้น ไม่ได้ดึงหรือว่าลากกันซะจนหมาหายใจไม่ออก เพราะว่าสุดท้ายถึงจะกระตุกแรงแค่ไหนมันลากไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ได้ไปสัมผัสตัวสุนัขแล้วกะชากลากถูมา ซะเมื่อไหร่ ผมจึงไม่เห็นว่าจะต้องมากลัวกังวลอะไรกันกับเรื่องโซ่กะตุก ประเด็นที่สำคัญคือ ถ้ามันลากไม่ไหวก็อย่าไปโหดร้ายเตะมันโชว์บนรางก็แล้วกัน 5555 อันนี้ล้อเล่นนะครับ ทุกอย่างที่พูดมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ
  • เรื่องสโลป 5 เซนต์ เราก็เห็นกันอยู่ว่าหมาเล็กแทบจะเล่นไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันลากไม่ไหว แต่มันลากไม่ไปเพราะเท้ามันฟรีมากกว่า น้ำหนักตัวที่น้อย ในขณะที่ต้องลากน้ำหนักที่เยอะ แต่พื้นมันลื่นจนเท้าไม่สามารถดันตัวไปข้างหน้าได้ ต่อให้มีพละกำลังมากแค่ไหนมันก็เดินอยู่กับที่ครับ

    ถ้าสโลปห้าเซนต์เพื่อให้หมาตกรอบเร็วๆ เพราะต้องการให้การแข่งจบได้ตามเวลา ถ้าผมเป็นคนเลี้ยงหมาเล็ก ก็ไม่รู้จะพาหมาไปแข่งเพื่ออะไร เพราะเอาไปก็ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ไปงานก็เป็นเพียงตัวประกอบที่ไม่มีความสำคัญ ก็ต้องไปหาหมาตัวใหญ่มาเล่น ในที่สุดกิจกรรมการแข่งลากน้ำหนักก็เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมเฉพาะหมาใหญ่ มันคงไม่ใช่กิจกรรมสำหรับหมาพิตบูลอีกต่อไปแล้ว แต่เราก็รู้กันอยุ่แก่ใจว่าหมายักษ์หลายๆตัว มันไม่ใช่พิตบูล

    ผมไม่ได้รังเกียจหมาใหญ่ เพราะผมเองก็มีหมาใหญ่อยู่ในสังกัดหลายตัว แต่ที่ไม่อยากให้เน้นกันที่ขนาดเพราะว่า มันกำลังทำลายพิตบูลสายเลือดร้อยให้ค่อยๆหมดไป หมาขนาดใหญ่แต่คุณสมบัติที่โดดเด่นของพิตบูลหายไป อ่อนแอลง เหนื่อยง่าย ความแข็งแรงเมื่อเทียบกับขนาดตัวก็ลดลง เพราะถึงทำน้ำหนักได้เยอะๆ แต่ เมื่อเอาน้ำหนักตัวหารแล้ว เอามาเฉลี่ยเทียบกับน้ำหนักตัว มันอาจจะทำได้น้อยกว่าหมาขนาดเล็กถึง 50% นี่คือที่มาของคำว่าเมื่อเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ความแข็งแรของหมาอื่นยากจะสู้พิตบูลได้

    วันนี้คนหันไปเล่นหมายักษ์กันมากขึ้น ถ้าผมตามกระแสไปด้วย พิตบูลเลือดร้อยที่ไม่ได้เลี้ยงเพื่อเกมส์กัดสุนัขคงหมดความนิยม ผมจึงจำเป็นต้องสู้เพื่อพวกมัน อยากให้มันยังเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวได้เหมือนเดิม นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมจะเปลี่ยนไปเลี้ยงหมาสายกัดแท้ อยากไปปลุกกระแสหมาเล็กดูบ้าง เพราะผมอยากอนุรักษ์ พิตบูล แบบต้นฉบับให้มันคงอยู่ต่อไปครับ :-D

    ใครจะชอบแบบไหนผมก็เคารพในความคิดเห็น แต่ผมมาเลี้ยงหมาพันธ์นี้ เพราะผมชอบในคุณสมบัติเฉพาะ 5 ประการ ที่หาไม่ได้ในหมาสายพันธ์อื่นครับ
  • คุณสมบัติ 5 ประการ ที่ทำให้โลกหันมาสนใจหมาที่เรียกว่า อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย มีดังต่อไปนี้

    1. Gameness คือ ความเกมส์ ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรค์ แม้ว่าจะต้องแลกมันตัวยชีวิต
    2. Aggressiveness คือ ความก้าวร้าว ดุดัน และไม่เคยปราณีต่อ เหยื่อ หรือคู่ต่อสู้
    3. Braveness คือ ความกล้าหาญ ปราศจากความขลาดกลัว แม้จะเจอคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า หรือตัวใหญ่กว่า
    4. Stamina คือ ความแข็งแรง ทนทาน ทรหด อดทน มีพละกำลังเกินกว่าขนาดของตนเอง
    5. Baiting Ability คือ พลังกัดที่หนักหน่วง รุนแรง สามารถทำลายล้างและบดขยี้คู่ต่อสู้ในการกัดเพียงครั้งเดียว

    แต่เชื่อหรือไม่ว่า วันนี้หลายคนมาเลี้ยงพิตบูล โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดในสายพันธ์ อเมริกัน พิตบูล คืออะไร ........ :003:
  • ท่านผู้จัด
    ขอสอบถามเรื่องการแบ่งรุ่นครับ ผมเข้าใจว่าสนามนี้มีการเก็บคะแนนจึงไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงการแบ่งรุ่นเพราะสองสนามที่ผ่านการแบ่งรุ่นได้เป็นมาตราฐานไปแล้ว ผู้เล่นทุกคนก็พยายามควบคุมนนหมาให้อยู่ในเกณท์เพื่อให้อยู่ในรุ่นเดิม ผมว่าถ้าต้องการเปลี่ยนน่าจะเริ่มเป็นปีหน้าแทนจะดีกว่าทุกคนจะได้เตรียมตัวและเข้าใจตรงกัน
  • เป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆ เลยนะครับผมขอพูดไปทีละเรื่องนะครับจากความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ
    เรื่องโช๊คเชน
    ปัญหาโลกแตกของยุคบรรพกาล มีทุกสนามเห็นแล้วก็นะแต่ก่อนอาจจะเอือมหลังๆ ผมมองเป็นเรื่องฮาและน่าเบื่อ
    หลายท่านลากมานานก็ยังไม่หลุดจากวังวนแห่งเรื่องก๊องแก๋งเรื่องนี้ ผมจำภาพที่ถอดโซ่ส่งให้พี่จอนที่เชียงใหม่
    ส่งให้พี่คาวบอยที่อีสาน ยกมือบอกพร้อมแล้วลากบูลตัส
    ผมว่าคนที่รับโซ่จากมือผมคงจำได้เช่นกัน
    ผมเคยคิดว่าทำไมต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้นพอแข่งเสร็จผมก็รู้ว่าเพราะอะไร นั่นคือ มิตรภาพ
    มิตรภาพลมๆ ที่ต่างคนต่างพร่ำพูดว่ามันคือมิตรภาพแต่สุดท้ายก็เข้าวังวนเดิมๆ ผมเคยมีปากเสียงกับผู้ใหญ่หลายท่านว่า ทำไมไม่ถอดมันทั้งปอกคอ และ โช๊คเชน เลยละแฟร์ดี เค้าเหล่านั้นบอกว่าแล้วถ้าหมากัดกันจะทำไงเออเว้ย
    งั้นกุถอดโซ่ให้ก็ได้มึงใส่ปอกคอไปเพราะกุมั่นใจว่ากุคุมหมากุอยู่ แล้วบรรยากาศก็เริ่มไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยมาจนมาวันนี้วนไปที่เดิม คนเก่าคนแก่ผู้ชมผู้รู้แม่งมีอยู่รอบสนามกรรมการก็มี ดห็นแล้วว่ามันผิดตักเตือนสิครับเตือนแล้วยังทำอีกก็แพ้ฟาวล์ตามกฏ กติกาซึ่งมีกันมาตั้งแต่บรรพกาลทุกอย่างจบ เกมส์ดำเนินต่อไป

    เรื่องการวอมสุนัข
    โอ๊ว!!!!!! แม่เจ้าเรื่องเล็กจิ้มลิ้มมากกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ กีฬาทุกประเภทเค้าก็มีการวอมก่อนแข่งทั้งในสนามแข่งจริงและนอกสนาม ต้นกำเนิดมาจากทีมผมดันเอาหมาขึ้นไปวอมเดินยังไม่ถึง 30 วิ แล้วลากหมา แม่งดันชนะ เลยมีการลอกเลียนแบบเอาไปทำกันจนเป็นที่นิยมกันในเหล่าวัยรุ่น ไม่ต้องเอ่ยนามว่าใครบ้างเห็นกันอยู่ทั้ง กทม
    เหนือ อีสาน ไม่มีกลุ่ม มาใหม่ๆ ไม่รู้จักทำกันอย่างแพร่หลาย ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าหวงอยากสงวนเก็บไว้ทำทีมเดียวนะครับ แต่ถ้าท่านเห็นว่ามันดีก็เอาไปทำเถอะมันเป็นการเซฟหมาท่านได้อย่างนึง จนเป็นเรื่องออกกฏมาห้ามก็โอเคครับ

    เรื่องสโล๊ป
    ส่วนตัวไม่ได้มีขอข้องใจอะไรเลยแล้วแต่ผู้จัดสะดวกก็ตามสบาย ไม่ใช่เพราะผมมีหมาใหญ่ไม่เห็นใจหมาเล็กนะ แต่ผู้จัดเค้าน่าจะคิดแล้วว่าหมาเยอะ หมาน้อย เค้าบริหารได้นั่นคือการเตรียมตัวของผู้จัด อย่างงานเมืองทองยังผิดพลาดเรื่องเวลาเลยทั้งที่มีการคุยกันอย่างเป็นทางการและแบ่งหน้าที่กันทำ งานใหญ่ๆ แบบนี้คนๆเดียวทำไม่ได้หรอกต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ มันจึงจะสำเร็จลุล่วงตามเป้า

    เรื่องแบ่งรุ่น
    อั๊ยยะ!!!! หมดกันหมารุ่นตูหายหมด ก็แอบคิดในใจนะว่างานที่อีสาน คงแบ่งแน่ๆ เพราะเห็นตอผุดขึ้นมาละ ถ้าไม่มีบูลตัสที่มันเป็นหมาอ้วนตัวโตจากตอนแรกเป็นแชมป์นานจนอึดอัดคงไม่แบ่งรุ่นนี้ ถ้าอีกหน่อยบอกว่าไม่จำกัดพันธุ์สุนัขที่ลงแข่งคงต้องซอยรุ่นจนละเอียดยิ่งกว่านี้
    ผมมีนิทานอย่างนึงที่ผมชอบผมจะแชร์ให้ฟัง
    ถ้าคุณเป็นราชสีห์ คุณอยากจะสู้กับใคร
    1 คุณจะสู้กับจิ้งจอก เพราะ มันสู้คุณไม่ได้หรอก สู้ไปก็แพ้เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าเซง
    2 คุณจะสู้กับเหล่าราชสีห์ด้วยกันเอง เพราะ มันดูสมน้ำสมเนื้อ ชนะได้ก็เป็นเจ้าแห่งราชสีห์
    หรือในความคิดผมผมเลือก
    ข้อ 3 ผมจะสู้กับพญาราชสีห์ เพราะ ถ้ากุชนะกุก็จะเหนือกว่าราชสีห์ทั้งปวง
    เป็นนิทานเพื่อเสริมสร้างกำลังใจนะครับอ่านแล้วคิดว่าดีก็เอาไปใช้

  • ส่วนตัวผมงานนี้จริงๆ อยากทำเซอร์ไพร์เจ้าภาพเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผมตั้งใจว่าจะทำรุ่นที่ฮ๊อตมาก 29-32 เพราะมีเจ้าป่าอยู่ 555 แต่พอเห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วเบื่อมาก ดังนั้นผมพี่ใหญ่ยังเตริกขอถอนตัวจากการแข่งครั้งนี้ เพื่อกิจกรรมจะได้ดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานและสันติ

    ขอบคุณครับ
  • ใจเย็นๆครับทุกอย่างมีทางแก้ไข พวกเรากำลังเดินทางมาได้ด้วยดี ก่อยๆอู้กั๋นน้อ...
    พิตนอร์ทบ่อมีปัญหาครับ ขอบคุณครับ
  • แค่แลกเปลี่ยนมุมมองกันเท่านั้นครับพี่สมพงษ์ การแข่งลากก็ยังคงมีต่อไป เพียงแต่ผมอยากลองอะไรใหม่ๆบ้างเท่านั้นเองครับ 55

    ตอนนี้ตัดสินใจจองว่าที่นักรบ สายเลือด 8w ไว้แล้วหนึ่งตัว ฮ่าๆๆ ได้หมาวันไหนจะเอามาเปิดตัว แต่จมูกอาจจะไม่แดงแล้วนะ
  • ส่วนไอ้เกมส์จะให้กัปตันจอนเป็นแฮนด์เล่อร์ ไม่มีหมาแล้วรู้สึกว่าพลังไฟจะหรีไปเยอะ
    มันเหมือน ขุนพลขาดม้าศึกเลยไม่ค่อยคึกเท่าที่ควร 55
  • การแบ่งรุ่นหมามันไม่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่สนามที่ 1 และ 2 แล้วครับ
    ถามว่าจะให้อิสานจัดยึดหลังแบบสนามใดครับ หมารุ่นเล็กน้อยลง หมารุ่นใหญ่เยอะขึ้น
    ถามว่าสนามเมืองทองผมมีหมารุ่นเล็กพร้อมที่จะลงแข่ง แต่กลับตัดรุ่นเล็กออก อันนี้ผมไม่ๆได้พูดประการใด ผมพูดด้วยความเคารพครับทุกท่าน กระทู้ที่ว่าขอให้แสดงความคิดเห็น ทุกคนแสดงไปนาๆจิตตัง แต่ผลออกมาก็คงเดิมครับ. ด็อกแมนหรือสิงห์นักลากตัวจริงก็จะลดน้อยลง. คนใหม่ๆเข้ามาอ่านก็คิดว่าพวกพี่ๆเค้าเถียงกันทำไม เราจะยุข้างใคร. อะไรเป็นยังงัยผู้ชมเค้ารู้ดีครับ.
    ถามผมว่าเบื่อมั้ย เบื่อมากครับ. กติกาไม่คงที่ รุ่นเปลี่ยนตลอด ทำหมาไม่ถูกเลย ตอนนี้ผมถามตัวเองว่าผมเล่นกีฬานี้เพื่ออะไร ผมได้คำตอบว่า อยากให้หมาผมมีกิจกรรมทำ ให้สังคมรู้ว่าพิทบูลไม่ได้มีดีแค่กัดคน. พิทบูลยังมีด้านดีๆอีกคับ
    การจัดงานแต่ละครั้งมันเหนื่อยครับ แต่พองานสำเร็จมันมีความสุขครับ. ผมอยากให้ทุกคนเปิดใจคุยกัน ลดอคติต่างๆ ลองดูครับ เรื่องแค่นี้เอง มันไม่มีเดินหน้า หรือเดินถอยหลังหรอกครับ. ถ้าเราทุกคนพร้อมใจกัน อยากให้แสดงความคิดเห็นมากันเยอะๆ แบบไหนดีที่สุดครับ. ด้วยความเคารพ.
  • สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน

    ขอพูดอะไรหน่อยครับ

    1.เรื่องโซ่กระตุก ปัญหาคืออะไร ไม่ไช่ว่าเราไม่ชอบหรือไม่อยากให้เพื่อนเราที่ใส่โซ่กระตุกลงแข่งนะครับ

    และไม่ไช่เรื่องการมองว่าเป็นการทรมานสัตว์นะครับ แต่มันคือ " เรื่องของความเสมอภาค " ครับแบบเสรีไงครับ

    ตัวอย่างคือ

    หากเราอนุญาติให้ใช้สายโซ่กระตุกลงแข่งได้ ก็จะยังมีคนคอยดึงอยู่ดีครับ หากมองไม่เห็นก็แล้วไปแต่หากมองเห็นก็ว่ากันไป แล้วมันดีมั้ยครับ ( ถึงแม้ว่าบางทีท่านอาจไม่ตั้งใจดึงก็ตาม )

    ทีนี้มามองกันที่ว่าอนุญาติให้ใส่ได้แค่ปลอกคอธรรมดาลงแข่ง ปัญหาในการกระตุกจะเกิดขึ้นได้มั้ยครับ เพราะการดึงปลอกคอมันเห็นได้ชัดเจนกว่าการกระตุกโซ่มากนัก

    แล้วเรามาพิจารณาถึงใจของเพื่อนๆเราบ้างสิครับว่าหากเรายังเห็นอยู่เช่นนี้หลายต่อหลายครั้งและยิ่งมีเพิ่มขึ้นซะอีกในสนามที่เพิ่งจะผ่านมา..............เพื่อนๆเราเขาจะยังอยากมาเล่นด้วยกันกับเราหรือไม่ครับ

    การฝึกเราจะฝึกอย่างไรก็ฝึกไปสิครับ แต่ตอนแข่งมันต้อง " มีความเสรีอยู่บนมาตราฐานเดียวกัน " ครับ


    2.เรื่องการวอมว์สุนัขบนรางจริงก่อนแข่งจริง

    ที่ไม่อนุญาติเพราะมันทำให้เสียเวลามากๆครับ บางตัวรอนานเป็น เกือบ 5-10 นาที ก็มีครับ ผมจับเวลาดูผมรู้เพราะผมเป็นคนประกาศเรียกให้นักกีฬามารอลงแข่งเองครับ

    ผมไม่ได้หวงห้ามไม่ให้ท่านนำสุนัขตัวเก่งของท่านมาลงซ้อมในสนามจริงนะครับ แต่ให้เป็นวันตั้งรางท่านมาได้ทั้งวัน หากแต่วันแข่งเราเตรียมเวลาให้สำหรับนักกีฬาเพื่อการกระชับเวลาจริงๆครับ และตอนลงแข่งจริงเราอนุญาติให้ใช้เวลาในการเดินวอมว์เพื่อสร้างความคุ้นเคยบนรางลากฯได้ 30 วินาที โดยให้มีแฮนด์เล่อร์แค่ 1 คน


    3.เรื่อง SLOPE UP ทำไมต้อง 5 ซม.

    ก็เพราะให้เสมือนจริงและช่วยเซฟตัวนักกีฬาครับ เพราะ SLOPE 3 ซม. ในช่วงน้ำหนักต้นๆแทบไม่มีประโยชน์เลย นักกีฬาที่ต่างประเทศรุ่นเล็กๆ เขาก็ยังลากกันได้เยอะนะครับ ขนาดตั้ง SLOPE UP 10 ซม. ผมไม่ได้ท้าทายใครนะครับหากแต่มันเป็นการสร้าง " คุณภาพ " ให้แก่ทั้งคุณและสุนัขที่รักของคุณเองครับ


  • 4.เรื่องการแบ่งรุ่น

    พูดกันให้ดีๆ ดูกันให้ชัดๆ ลองไปค้นดูที่กระทู้งานลากที่สนามเชี่ยงใหม่ดูก่อนครับ อย่ามาใส่ความกันเลยครับ
    เราไม่เคยกลัวที่จะลงแข่งกับใครหรือ " พญาราชสีห์ตัวไหน " อยู่แล้วครับ

    งานเชี่ยงใหม่แบ่งกันดังนี้

    รุ่นแรกน้ำหนักตัวต่ำกว่า 20.00 กก.
    รุ่นที่สองน้ำหนักตัว 20.01-24.00 กก.
    รุ่นที่สามน้ำหนักตัว 24.01-28.00 กก.
    รุ่นที่สี่น้ำหนักตัว 28.01-32.00 กก.
    รุ่นที่ห้าน้ำหนักตัว 32.01-36.00 กก.
    รุ่นที่หกน้ำหนักตัว 36.01-40.00 กก.
    รุ่นที่เจ็ดน้ำหนักตัวตั้งแต่40.01 กก. ขึ้นเป็น



    ที่นี้มาดูของสนามนี้กันบ้างครับ

    รุ่นแรกน้ำหนักตัวต่ำกว่า 24.00 กก.
    รุ่นที่สองน้ำหนักตัว 24.01-28.00 กก.
    รุ่นที่สามน้ำหนักตัว 28.01-32.00 กก.
    รุ่นที่สี่น้ำหนักตัว 32.01-36.00 กก.
    รุ่นที่ห้าน้ำหนักตัว 36.01-40.00 กก.
    รุ่นที่หกน้ำหนักตัว 40.01-44.00 กก.
    รุ่นที่เจ็ดน้ำหนักตัวตั้งแต่44.01 กก. ขึ้นเป็น



    ต่างกันแค่ ปรับรุ่นน้ำหนักตัวต่ำกว่า 20.00 กก. ออก เพราะอะไรก็รู้ก็เห็นกันอยูว่าไม่มีนักกีฬา

    และยังเปิดโอกาสเพิ่มรุ่นน้ำหนักตัวมากกว่า 44.00 กก. อีกรุ่น ก็เพราะนักกีฬามากขึ้น




    ผลขอทิ้งประโยคสั้นๆอีกหน่อยครับว่า ไอ้คำว่า " กฏ หลังเขา " และ ไอ้คำพูดที่ว่า " ตั้งกฏเข้าข้างหมา.... "

    มันไม่มีอยู่แล้วครับ แต่ให้คุณๆท่านๆทั้งหลายได้โปรดช่วยกันกลับไปคิดให้ดีหากท่านจะหลุดลมออกมาจากปากของท่านเอง


    ปล.ผมไปแข่งสนามไหนผมและเพื่อนๆของผมก็ให้เกียรติเจ้าภาพทุกสนามไม่มีเว้นเพราะผมสะดวกใจไปแข่ง

    ขอบคุณครับ
  • อ้อต้องขอชี้แจงคุณNazz_Youngturk นัทไม่ต้องถอนตัวก็ได้ครับ เพราะ นัท ยังไม่ได้สมัครเข้าแข่งขันนะครับ

    เพราะมันเป็นประโยคที่ทำให้เสียบรรยากาศมากๆครับ ขออนุญาติชี้แจงนะครับ ขอบคุณครับ

  • ถูกต้องที่สุดเลยครับพี่ num_mk
    "ปล.ผมไปแข่งสนามไหนผมและเพื่อนๆของผมก็ให้เกียรติเจ้าภาพทุกสนามไม่มีเว้นเพราะผมสะดวกใจไปแข่ง"

    ไม่ว่าจะสนามไหน กติกาห่าเหวอะไร พวกเราก็พร้อมจะให้เกียรติเจ้าภาพ พร้อมที่จะนำพิทบูลคู่กายของเราลงเเข่งในสนามนั้นๆเสมอ นี่คือความเป็น "ด็อกเเมน" ของพวกเรา
  • เปิดใจให้กว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นได้ทุึกความคิดเห็น เห็นเย่อะรู้เย่อะ อ่านมากก็รู้มาก หากทุกอย่างมุ่งสู้ถนนสายพิตบูลลากน้ำหนัก ทุกอย่างก็จบลงตรงที่ รางลากห้าเมตร กับเวลา 60 วินาที ทุกตัว